“ปลอดประสพ” จวก รัฐบาลบริหารน้ำล้มเหลว ปล่อยชาวภาคกลางจมน้ำ 4 เดือน ชี้มัวแต่โยกย้ายข้าราชการ-หาเสียงแทนแก้ปัญหา

นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โพสต์เฟซบุ๊กไอดี Plodprasop Suraswadi เตือนรัฐบาลว่าขณะนี้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคกลางเดือดร้อนหนักจากการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลชุดนี้ ต้องจมน้ำอยู่นานกว่า 4 เดือนแล้วแต่รัฐบาลกลับมัวแต่โยกย้ายข้าราชการเพื่อล้างแค้นทางการเมือง แล้วไปหาเสียงว่าจะจ่ายเงินเยียวยาให้ซึ่งประชาชนที่จมน้ำบอกไม่ได้ต้องการเงินแต่ต้องการให้ระบายน้ำออกไป โดยมีข้อความดังนี้

น้ำท่วม เอาไม่อยู่

ผมเขียนเรื่องนี้ด้วยความเศร้าใจ เพราะสงสารชาวภาคกลางที่จมน้ำมาถึง 4 เดือน ทั้งๆที่ปริมาณน้ำปีนี้น้อยกว่าปี 2554 ถึง 20% สำหรับเหตุผลขอสรุปดังนี้

1. ฝนปีนี้มาช้าแต่ก็ลากยาวมาจนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน และแถมพายุฤดูร้อนอีก 1 ลูก

2. ฝนตกหนักซ้ำซากในลุ่มน้ำยม จึงเกิดน้ำท่วมที่จังหวัดสุโขทัย พิจิตรอย่างต่อเนื่องมาจนทุกวันนี้ ลักษณะการท่วมเป็นทุ่งน้ำใหญ่ซึ่งหมายถึงการหน่วงน้ำ ทำให้เมื่อน้ำลงมาถึงกรุงเทพฯ ก็เป็นช่วงน้ำทะเลขึ้นสูงสุดเสียแล้ว

3. เขื่อนใหญ่ของประเทศ 4 เขื่อน น้ำเต็ม 100% ดังนั้นจึงต้องระบายออกรวมวันละประมาณ 200 ล้านลบม. และน้ำล้นชุดนี้จะมาถึงกรุงเทพฯ ในอีก 15 วันข้างหน้า ซึ่งก็จะเป็นช่วงน้ำทะเลยังหนุนสูงอยู่ จึงยังคงระบายน้ำไม่ได้

4. ด้วยเหตุผลอะไรไม่กระจ่าง กรมชลประทานไม่ยอมระบายน้ำเข้าทุ่งตะวันออกตามแนวคลองชัยนาท-ป่าสักเข้าทุ่งลพบุรี จนชาวบ้านต้องออกมาปิดถนนจึงยอม

5. เพราะการสื่อสารที่ผิดพลาดว่า น้ำไม่มาก ทำให้หน่วยงานในพื้นที่ทุกระดับสร้างผนังกั้นน้ำที่ไม่แข็งแรง ครั้นเมื่อน้ำกลายเป็นมาก ผนังรับแรงไม่ได้จึงพังทลายหลายจุดโดยเฉพาะในจังหวัดสิงห์บุรี อ่างทอง และอยุธยา

6. รัฐบาลประมาทเรื่องน้ำและขาดเอกภาพในการบริหารจัดการน้ำ แทนที่จะเป็นกระทรวงเกษตรฯ หรือกระทรวงทรัพย์ฯ ดูแลเรื่องน้ำ กลับมอบให้ รมต. สำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับผิดชอบสั่งการ ซึ่งคนเขาวิจารณ์ว่า เอาแต่พวก

7. ผู้ว่าราชการจังหวัดและอธิบดีกรมที่เกี่ยวกับน้ำ เพิ่งมีการโยกย้ายจากการล้างแค้นทางการเมือง ทำให้การบริหารจัดการเรื่องน้ำขาดประสิทธิภาพ

8. รัฐบาลเน้นนโยบายหาเสียง เน้นการจ่ายเงินเยียวยาแทนที่จะใช้งบประมาณเพื่อป้องกันน้ำท่วม ชาวบ้านได้ประกาศชัดเจนว่า ไม่ต้องการเงิน แต่ต้องการให้ระบายน้ำเพราะชีวิตยากลำบากมาก เงินที่ได้มาไม่คุ้มค่าคุณภาพชีวิตที่เสียไป

ผู้ที่จะต้องรับผิดชอบมากที่สุดสำหรับความล้มเหลวในการบริหารจัดการน้ำในปีนี้ก็คือ คณะคสช. เพราะได้ยกเลิกโครงการบริหารจัดการน้ำสามแสนล้านบาทในสมัยรัฐบาลนายกยิ่งลักษณ์ และยังทิ้งข้อสงสัยไว้อีกว่า เงินสามแสนล้านบาทนั้นมันหายไปไหน 

ส่วนรัฐบาลปัจจุบันข้อบกพร่องก็คือ ให้ความสำคัญเรื่องน้ำน้อยกว่าเรื่องชายแดนและเรื่องสแกมเมอร์ ทั้งๆ ที่พื้นที่น้ำท่วมครั้งนี้มีมากถึง 3 ล้านไร่ และมีประชาชนเดือดร้อนมากกว่า 20 ล้านคน แถมมีคนเสียชีวิตไปเพราะน้ำท่วมมากกว่า 20 คน และต้องอพยพอีกหลายหมื่นคน เหตุการณ์แบบนี้มันต่างกับสงครามอย่างไร?”

.

#พรรคเพื่อไทย #น้ำท่วม #ปลอดประสพ