‘ชลน่าน’ เชื่อดึงเกมแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อหวังต่อรองเรื่องยื่นอภิปราย ลั่นอย่าบิดเบือนย้ำ ‘เพื่อไทย’ ประกาศแก้รัฐธรรมนูญมาตั้งแต่เลือกตั้ง 66 จึงไม่มีเหตุให้เตะถ่วง
นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะกรรมการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 เปิดเผยว่า การทำงานของคณะกรรมาธิการ เป็นไปด้วยความล่าช้ามาก เพราะมีการเแก้ไขทุกมาตรา จากร่างหลักที่รับหลักการมา มีการเสนอรายละเอียด ในแต่ละมาตรามาก ประกอบกับวิธีการพิจารณา ไม่ตกผลึกชัดเจน กลับไปกลับมา ส่งผลให้การพิจารณาของ กมธ. ช้าลงไปอีก จากเดิมที่มีการตกลงกันไว้ว่า การประชุมจะมีขึ้น 10 ครั้งการพิจารณาในชั้น กมธ. น่าจะแล้วเสร็จทุกมาตรา แต่จนถึงขณะนี้ กมธ. ประชุมไปแล้ว 9 ครั้ง เพิ่งจะพิจารณาได้เพียง 3 มาตรา โอกาสที่การพิจารณาแล้วเสร็จตามกำหนดเวลาจึงเป็นไปไม่ได้
.
นายแพทย์ชลน่าน กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้การเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญที่มีการกำหนดไว้ว่าการพิจารณาในวาระ 2 จะแล้วเสร็จในวันที่ 24-25 พฤศจิกายน ไม่น่าจะทันแล้ว ดังนั้นการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ในวาระที่ 2 คงเป็นไปตามที่นายภราดร ปริศนานันทกุล กมธฯ จากพรรคภูมิใจไทย ได้แถลงไว้ คือวันที่ 8-10 ธันวาคม ก่อนเปิดการประชุมสมัยสามัญ จากนั้น เมื่อสภาเปิดประชุมสมัยสามัญฯ ในวันที่ 12 ธ.ค. เป็นต้นไป จึงจะไปพิจารณาในวาระที่ 3 ช่วงปลายเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นไปตามไทม์ไลน์ที่พรรคภูมิใจไทยกำหนด
.
“ส่วนข้อกล่าวหาที่ว่าเหตุที่พิจารณาช้า เตะถ่วง ตีรวนมาจาก กมธ. จากพรรคเพื่อไทยพยายามตีรวนในที่ประชุม และดึงช้าในทุกมาตรา เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงอย่างร้ายแรง เพราะพรรคเพื่อไทยเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 ตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2566 ไม่ใช่เพิ่งมาคิดกัน แต่เหตุที่ช้าหลายฝ่ายมองว่า บางพรรคการเมืองจะใช้การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาเป็นตัวประกันเพื่อแลกเปลี่ยนกับการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคฝ่ายค้าน ในขณะที่พรรคประชาชนก็จะอ้างว่าไม่ควรยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญยังไม่แล้วเสร็จทำให้ไม่สามารถยื่นอภิปรายรัฐบาลได้ จึงน่าจะเป็นเหตุผลหลัก ทำให้พรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องได้ประโยชน์จากการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ถึงวันนี้ กมธ. ควรเอาความจริงมาพูดกันไม่ควรมาสาดโคลนใส่กันเพราะไม่เกิดประโยชน์กับฝ่ายใดเลย” นายแพทย์ชลน่าน กล่าว
.
#พรรคเพื่อไทย #แก้ไขรัฐธรรมนูญ #ชลน่านศรีแก้ว