โดยนางมนพร ได้เริ่มต้นกล่าวถึงการเดินทางด้วยเครื่องบินนั้น มีความสะดวกสบาย ปลอดภัย ประหยัดเวลามากกว่าการเดินทางด้วยวิธีอื่นจึงได้รับความนิยม และเนื่องจากเป็นการเดินทางที่มีความเร็วสูง จึงต้องมีการกำหนดระบบและมาตรฐานที่ต้องปฏิบัติอย่างเข้มงวด จึงทำให้ต้นทุนของการเดินทางสูงกว่าการเดินทางรูปแบบอื่น โดยปัจจุบันพบว่า ต้นทุนส่วนใหญ่ของสายสารบิน จะเป็นค่าน้ำมันเชื้อเพลิงในการปฏิบัติการบิน อย่างไรก็ดีสายการบินทั่วโลกต่างมีแนวทางการกำหนดราคาค่าโดยสารในระดับต่างๆ เพื่อให้การเดินทางได้อย่างทั่วถึง

.

[ตั้งราคาแบบยืดหยุ่น ตามหลักสากล]

.

การกำหนดค่าโดยสารของสายการบินในไทยทั้ง 7 สาย ได้จัดทำค่าโดยสารโดยการตั้งราคาแบบยืดหยุ่น (Dynamic Pricing) ตามแนวทางสากลที่ใช้ทั่วโลก ทำให้มีตั๋วโดยสารหลายราคาในเที่ยวบินเดียวกัน โดยจะมีราคาถูกถัวเฉลี่ยไปกับตั๋วราคาสูงทำให้รายได้รวมทั้งหมดครอบคลุมค่าใช้จ่ายการบินได้

.

โดยปกติ ระดับที่ต่ำสุดอาจไม่ยืดหยุ่น เช่น ไม่สามารถเลื่อนวันเดินทางได้ ส่วนตั๋วราคาสูงอาจเลี่อนวันเดินทางได้ คืนค่าโดยสารได้ ส่วนราคาปานกลางหากต้องการเปลี่ยนหรือยกเลิกการเดินทางอาจมีค่าธรรมเนียม

.

[พ.ร.บ.เดินอากาศ ควบคุมอัตราขั้นสูงของราคาไว้]

.

ในประเทศไทย เรามีพระราชบัญญัติการเดินอากาศ เป็นกลไกควบคุมราคาโดยมีการกำหนดอัตราขั้นสูงของราคาไว้ เมื่อรู้กำหนดเพดานราคาแล้ว สายการบินก็จะกำหนดจำนวนที่นั่งในชั้นราคาต่างๆ เพื่อให้เป็นไปตามแผนการตลาดของตน โดยจำหน่ายตั๋วล่วงหน้าไม่เกิน 1 ปี โดยเริ่มต้นจำหน่ายตั๋วในราคาต่ำสุดก่อน และเมื่อราคานี้หมดก็จำหน่ายในราคาที่สูงขึ้นมาจำหน่าย ซึ่งถ้าผู้โดยสารวางแผนการเินทางล่วงหน้าก็จะมีโอกาสซื้อตั๋วในราคาต่ำกว่าการซื้อตั๋วตอนใกล้วันเดินทาง  โดยพบว่า ปัจจุบันผู้โดยสารมีพฤติกรรมซื้อตั๋วโดยสารใกล้วันเดินทางทำให้ตั๋วราคาสูง หรือตอนวันหยุดหน้าเทศกาลก็อาจเหลือตั๋วโดยสารที่มีราคาสูงใกล้เพดานราคาได้ จึงเป็นที่มาประเด็นข่าวราคาตั๋วแพงช่วงวันหยุดยาว

.

[วางแผนล่วงหน้า ได้ราคาเหมาะสม]

.

ดังนั้น จึงควรมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจแนวทางการจำหน่ายตั๋วโดยสารและวางแผนการเดินทางล่วงหน้า เพื่อจะให้สามารถซื้อตั๋วได้ในราคาเหมาะสม และหากยังไม่ชัดเจนก็สามารถซื้อตั๋วประเภทที่สามารถปรับเปลี่ยนเวลาเดินทางได้

.

และหากจำเป็นต้องเดินทางกระชั้นชิด อาจพิจารณาซื้อตั๋วโดยสารในช่วงเวลาใกล้เคียงและแนะให้ซื้อตรงกับสายการบินเพื่อจะได้ราคาของตั๋วที่ควบคุมได้ตามกฎหมาย

.

ส่วนคำถามว่า กระทรวงคมนาคมมีนโยบายทบทวนอัตราเพดานค่าโดยสารให้สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริงอย่างไร  ขอเรียนว่า ก.คมนาคมได้มีการทบทวนอยู่เสมอในช่วงปี 67 พบว่ายังมีความเหมาะสมอยู่ และหากมีการเปลี่ยนแปลงใดที่มีนัยยะสำคัญกระทบต่อต้นทุนสายการบินเช่น การเปลี่ยนแปลงภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ก็จะมีการทบทวนเพิ่มเติมอีก

.

[เพิ่มที่นั่ง เพิ่มเที่ยวบิน เพิ่มสัดส่วนตั๋วราคาต่ำได้มากขึ้น]

.

อีกทั้งภายหลังวิกฤตโควิด การเดินทางด้วยเครื่องบินกลับมาได้รับความนิยมอยางรวดเร็ว แต่ขณะเดียวกัน สายการบินต่างๆ ไม่สามารถหาเครื่องบินมาทดแทนลำที่ปลดประจำการไปในช่วงโควิด เช่น เมื่อปี 67 มีจำนวนที่นั่งลดลงเหลือแค่ร้อยละ 75 จากช่วงก่อนโควิด และปี 68 นี้น่าจะมีจำนวนที่นั่งประมาณร้อยละ 85 จากช่วงก่อนโควิดทำให้จำนวนที่นั่งจำกัด  จึงได้เร่งแก้ไขในช่วงเทศการด้วยการเพิ่มจำนวนเที่ยวบิน เพิ่มจำนวนที่นั่งหรือปรับไปใช้เครื่องบินลำใหญ่ขึ้น 

ยกตัวอย่างช่วงสงกรานต์ 67  เพิ่มเที่ยวบินได้ 104 เที่ยวและเพิ่มที่นั่งได้ 17,874 ที่นั่ง และช่วงปีใหม่ 68 ที่ผ่านมา เพิ่มเที่ยวบินได้ 247เที่ยว หรือ 73,388 ที่นั่ง เพื่อรองรับผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นได้  ซึ่งการเพิ่มเที่ยวบิน เพิ่มจำนวนที่นั่ง ก็จะช่วยเพิ่มสัดส่วนของตั๋วที่มีราคาต่ำได้มากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งลดข้อร้องเรียนเรื่องค่าโดยสารสูงไปได้มาก 

.

#พรรคเพื่อไทย #ตั๋วแพง #ประชุมสภา