‘แพทองธาร ชินวัตร’ นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวเหตุรัฐบาลเลื่อนบินเจรจาสหรัฐฯ ภาษีตอบโต้ทรัมป์ ขอกลับมาทบทวนเพราะยังมีเวลาอยู่ ก่อนนัดเจรจาอีกครั้ง เล็งคุยอาเซียนถึงแนวทางรับมือ

วัน 22 เมษายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีรัฐบาลไทย เลื่อนการเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา เพื่อเจรจาเกี่ยวกับนโยบายด้านเศรษฐกิจและการปรับขึ้นภาษีกับรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่า ได้มีการเลื่อนการเจรจาออกไป จากเดิมที่กำหนดไว้ว่าจะนัดหารือร่วมกันในวันที่ 23 เมษายน 2568 นี้ 

.

สำหรับเหตุผลของการเลื่อนการเจรจาออกไปนั้น นายกฯ ระบุว่า ที่ผ่านมาทุกกระทรวงฯ ได้หารือถึงการเตรียมตัวรับมือถึงประเด็นการขึ้นภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ โดยได้ติดต่อกับทีมล่วงหน้าไปแล้ว และได้รับการแจ้งกลับมาว่า มีข้อเสนอบางประเด็นของสหรัฐฯ ที่อยากให้ไทยกลับมาทบทวน

.

“พอมีการติดต่อกับทีมล่วงหน้าไป มีสาระสำคัญบางอย่างที่เขารีเควสกลับมาให้เราทบทวนในเรื่องที่เราจะไปเจรจา และจะมีการนัดกันใหม่อีกครั้ง” น.ส.แพทองธาร ยอมรับ

.

ส่วนการเลื่อนระยะเวลาการเจรจาออกไปจนเกิดความล่าช้าและอาจส่งผลกระทบกับไทยหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า คงไม่ได้ช้าเกินไป และยังมีเวลาภายใต้กรอบ 90 วัน ในการทบทวนและเจรจา ขณะเดียวกันยังมีทีมทำงานแบบไม่เป็นทางการที่ติดตามการทำงานตลอด และยังมีการปรึกษาทีมนักวิชาการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง

.

ขณะที่แนวทางการร่วมมือกับอาเซียนเพื่อเจรจาต่อรองกับสหรัฐฯ นั้น นายกฯ ยอมรับว่า ที่ผ่านมามีการหารือกับทางนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน ซึ่งเดินทางมาเยือนไทยเมื่อสัปดาห์ก่อน ก็มีการหารือนอกรอบเกี่ยวกับความร่วมมือของอาเซียน โดยการเดินทางเยือนกัมพูชา จะมีการพูดคุยถึงกรณีดังกล่าวกันด้วย

.

นอกจากนี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงกรณีการปรับเวลาใหม่ในการเดินทาง ไปเจรจาในประเด็นกำแพงภาษีศุลกากรกับสหรัฐอเมริกาว่า สถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปัจจุบันมีความไม่แน่นอนสูง ไม่เฉพาะกับประเทศไทย ส่งผลให้รัฐบาลไทยจำเป็นต้องกำหนดกรอบการเจรจาให้ชัดเจนและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยได้ศึกษาจากแนวทางของประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ทั้งนี้ เพื่อให้การเจรจาบรรลุเป้าหมายและสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืน จึงมีความจำเป็นต้องปรับกำหนดการเจรจากับสหรัฐฯ ออกไปก่อน เพื่อเตรียมการอย่างรอบคอบในทุกมิติ

.

“แม้การเจรจาจะถูกเลื่อนออกไป แต่กระบวนการที่เกี่ยวข้องยังคงเดินหน้าต่อเนื่อง แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 

.

1) ทบทวนและประสานความร่วมมือผ่านหน่วยงานในสหรัฐฯ ผ่านการหารือกับภาคส่วนเอกชนที่เคยได้หารือกันมาก่อนหน้านี้ พร้อมส่งทีมผู้เชี่ยวชาญเข้าร่วมการเจรจา 

.

2) ส่วนของรัฐบาลเอง ก็ต้องมีการปรับตัว โดยเตรียมการพูดคุยระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย เพื่อทบทวนกรอบการเจรจา พร้อมเตรียมการช่วยเหลือ ฟื้นฟู และปฏิรูป เพื่อประเมินความเป็นไปได้และความเสี่ยง โดยหารือกับสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมถึงตั้งรับมาตรการช่วยเหลือเยียวยาให้กับกลุ่มเป้าหมาย โดยคุยกับธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อประเมินสถานการณ์และมาตรการช่วยเหลือ อีกทั้งสร้างการปฏิรูปให้เกิดขึ้นในประเทศไทย ในด้านหลักเกณฑ์การนำเข้า-ส่งออกผ่านแดน ให้มีความชัดเจน รวดเร็ว โปร่งใสมากขึ้น” 

.

รัฐบาลยืนยันว่า การเตรียมการอย่างรอบด้านจะทำให้ไทยสามารถบรรลุข้อตกลงที่เป็นประโยชน์ร่วมกันกับสหรัฐฯ โดยจะวางท่าทีการเจรจาแบบทวิภาคีบนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกัน และไม่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ พร้อมมุ่งสร้างความสมดุลในภาคการค้าไทย-สหรัฐฯ อย่างยั่งยืน และเพื่อให้ภาคธุรกิจส่งออกและนำเข้าในทุกอุตสาหกรรมของไทยได้รับประโยชน์มากที่สุด

.

#พรรคเพื่อไทย