นายนิกร โสมกลาง สส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ร่วมอภิปรายสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วาระที่ 1 ว่าการจัดทำงบประมาณรายจ่ายปี 2569 นี้

นายนิกร โสมกลาง สส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ร่วมอภิปรายสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วาระที่ 1 ว่าการจัดทำงบประมาณรายจ่ายปี 2569 นี้ จะต้องมุ่งไปเพื่อในการปรับโครงสร้างคมนาคม เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลก และที่สำคัญคือโครงสร้างคมนาคมนี้จะต้องเอื้อสนับสนุน SMEs และเศรษฐกิจท้องถิ่น ให้ได้รับประโยชน์จากการใช้งบประมาณดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพ

.

[สถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลง และความจำเป็นที่ไทยต้องปรับตัว]

.

นายนิกร โสมกลาง กล่าวว่าในวันนี้ โลกกำลังเผชิญวิกฤตต่าง ๆ เช่น สงคราม พลังงาน ภูมิอากาศ และห่วงโซ่อุปทานทางเศรษฐกิจของโลกที่เปลี่ยนไปครั้งใหญ่ ทำให้ต้องปรับตัวด้วยแนวคิด “สัจนิยมเชิงโครงสร้าง” เพื่อความอยู่รอด ดังนั้น งบประมาณคมนาคม 2569 จำนวน 1.57 แสนล้านบาท มุ่งเน้นความยืดหยุ่น พร้อมรับมืออนาคต

.

[การรับมือการเปลี่ยนแปลงบนพื้นฐานความจริงและปัจจุบัน] 

.

จากเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนและเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มั่นคง และระบบโลจิสติกส์ที่ทันสมัย จะเป็นภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจให้ประเทศ เราจึงต้องยกระดับระบบการขนส่งเราให้สอดคล้องกับความต้องการตลาดโลก โดยอาจแบ่งเป็นระบบทางบก ได้แก่ทางถนน ทางราง และระบบทางน้ำ

.

[โครงสร้างพื้นฐานทางบก เชื่อมโยงเศรษฐกิจท้องถิ่น]

.

-พัฒนาทางหลวงและทางหลวงชนบท กว่า 135,000 กม. เชื่อมโยงเศรษฐกิจท้องถิ่น

.

-โครงการแก้จุดเสี่ยงบนถนน 3,956 แห่ง เพิ่มความปลอดภัย

.

[ระบบโลจิสติกส์ที่หนุน SMEs]

.

-ควบคุมการขนส่งด้วยดิจิทัล เพิ่มความปลอดภัย

-สนับสนุนขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิ (Cold Chain Logistics)

-ช่วยเกษตรกรรายย่อยเข้าถึงตลาดพรีเมียม สร้างรายได้เพิ่ม

-SMEs ด้านอาหารและแปรรูปสามารถขยายตลาด ส่งออกได้มากขึ้น

.

[ผลลัพธ์จากการปรับงบด้านคมนาคม]

.

ผลลัพธ์ที่คาดหวังคือการสร้าง “Workable Space” สำหรับท้องถิ่น หรือพื้นที่ที่เติบโตใหม่กับกับ SMEs และท้องถิ่น เพื่อจะนำไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืนทั่วถึง

.

[การพัฒนาระบบรางให้เป็น Connectivity Backbone หรือกระดูกสันหลังของการเชื่อมต่อ]

.

-สายบ้านไผ่-นครพนม-มุกดาหาร เป็นส่วนหนึ่งของ East-West Corridor ลดต้นทุนโลจิสติกส์ 25–30%

.

-สายเด่นชัย–เชียงใหม่ เชื่อมการท่องเที่ยวภาคเหนือกับจีน เพิ่มรายได้ท้องถิ่น

.

หรืออาจจะยกตัวอย่างจากจีน: เช่น โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง เชื่อมเมืองเล็ก-ใหญ่ เพิ่มรายได้เกษตรกร, หรือโครงการ Belt and Road -ของจีนในคาซัคสถาน ที่ช่วยเกษตรกรจีนกระจายข้าวสาลีไปยุโรปสร้างรายได้เพิ่มถึง 15-20 เปอร์เซ็นใน 5 ปี

.

[การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางน้ำ] 

.

-พัฒนาแม่น้ำป่าสัก, ขุดลอกร่องน้ำ 83 แห่ง, ป้องกันน้ำท่วม

-พัฒนาท่าเรือ 25 แห่ง และ Smart Pier 13 แห่ง สนับสนุนทั้งสินค้าและท่องเที่ยว

-สร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งในแม่น้ำสำคัญ เช่น ชี ปิง ป่าสัก และชายฝั่งทะเล

.

ซึ่งทั้งหมดจะเห็นได้ว่า งบประมาณคมนาคมปี 2569 ไม่ใช่แค่พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน แต่เป็นการวางรากฐาน ประตูเศรษฐกิจเชื่อม ท้องถิ่นสู่ตลาดเศรษฐกิจโลก สำหรับ SMEs เกษตรกร และเศรษฐกิจท้องถิ่น เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนและทั่วถึง

.

[ประโยชน์โดยตรงต่อชาวบ้าน]

.

1. สำหรับเกษตรกร

.

-ลดต้นทุนขนส่ง 25-40% ด้วยระบบราง เช่น เกษตรกรอุบลฯ ขนข้าวไปท่าเรือกรุงเทพฯ ประหยัดได้ 800–1,200 บาทต่อตัน

-เข้าถึงตลาดส่งออกโดยตรง ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง ทำให้ราคาขายเพิ่มขึ้น 15–25%

-ผลลัพธ์คือ มีเงินเหลือเก็บ/ลงทุนมากขึ้น เพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจและความมั่นคงในชีวิต

.

2. สำหรับผู้ประกอบการ SMEs

.

-เชื่อมต่อโซ่อุปทานระหว่างประเทศ เช่น ผู้ผลิตเสื้อผ้าในมุกดาหาร นำเข้าวัตถุดิบราคาถูกจากลาว และส่งออกไปจีน

-เข้าถึงแหล่งเงินทุนง่ายขึ้น เพราะมีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศเป็นหลักประกัน ไม่ต้องใช้ทรัพย์สินส่วนตัว

-ผลลัพธ์คือการขยายกิจการ สร้างงานในชุมชน ลดความเหลื่อมล้ำ

.

3. สำหรับชุมชนท้องถิ่น

.

-เกิดการสร้างงานใหม่ ทั้งระยะก่อสร้างและดำเนินงาน เหมาะกับแรงงานตามฤดูกาล

-กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ เงินหมุนเวียน 3–4 เท่าของเงินลงทุน เช่น ค่าอาหาร ค่าที่พัก

-ผลลัพธ์คือการเพิ่มรายได้ครัวเรือน ลดความยากจน และกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดน

.

4. แนวคิดการจัดงบประมาณใหม่นี้ มียืดหยุ่นและตอบโจทย์โลกยุคใหม่ จาก “โครงสร้างตายตัว” สู่ “ระบบที่เชื่อมโยงและปรับตัวได้”

.

-เชื่อมต่อ Local to Global ทำให้ธุรกิจและชุมชนปรับตัวได้แม้เกิดวิกฤต

-ระบบขนส่งหลายช่องทาง รองรับปัญหาไม่คาดคิด เช่น พายุ ปิดพรมแดน

.

[เป้าหมายของงบประมาณคมนาคมปี 2569]

.

เมื่อสถานการณ์โลกเปลี่ยน โครงสร้างเปลี่ยน เศรษฐกิจไทยต้องปรับ  เมื่อเราไม่สามารถพึ่งพาการส่งออกรายใหญ่เพียงอย่างเดียวได้ต่อไป เราก็ต้องสร้างความเข้มแข็งจากภายในผ่านการสนับสนุน SMEs และเศรษฐกิจท้องถิ่น นี่คือทางรอด

.

งบประมาณปี 69 จึงถูกออกแบบมาตอบสนองวิสัยทัศน์นี้ ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อมโยงและเข้าถึงได้ ปรับปรุงระบบโลขิสติกส์ให้มีประสิทธิภาพ พัฒนาระบบขนส่งให้เข้ากับทุกคน และโครงการที่จะสนับสนุนให้ SMEs และเศรษฐกิจท้องถิ่นเดินหน้า

.

ดังนั้น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ตอบโจทย์ประชาชนจริง คือไม่ใช่เป็นเพียงแค่เครื่องมือเดินทาง และยังเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

.

งบประมาณคมนาคมปี 2569 ไม่ใช่แค่เรื่องถนนหรือรางรถไฟ แต่คือเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ลดความเสี่ยง เพิ่มโอกาสให้ประชาชนทุกระดับในยุคโลกไม่แน่นอน เพื่ออนาคตที่มั่นคงของประเทศไทยและการอยู่ดีมีสุขของคนไทยทุกคน

.

#พรรคเพื่อไทย #งบประมาณปี69