ชี้แจงประชาชน กระทรวงพาณิชย์ไม่นิ่งนอนใจมาตรการทางการค้าและส่งออก ทำงานรอบด้าน พร้อมให้ความร่วมมือกับทุกฝ่าย 

วันที่ 29 พฤษภาคม 2568 พิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงถึงกรณีมาตรการทางค้าและการส่งออก โดย พิชัย ได้ชี้แจงดังนี้

ตั้งแต่แพทองธาร ชินวัตร ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ระยะเวลากว่า 7 เดือนมีการขยายตัวของการส่งออกกว่า 12.5% มูลค่ากว่า 6.21 ล้านล้านบาทและสถานการณ์การส่งออกไทย 4 เดือนแรกของปี 68 (ม.ค. – เม.ย.) +14.0% คิดเป็นมูลค่า 107,157.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (3,614,949 ล้านบาท) ซึ่งไม่ได้เป็นผลมาจากการที่สหรัฐเร่งส่งออกเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเพราะความเข้มแข็งของการส่งออกไทยร่วมด้วย

รัฐบาลไม่ได้นิ่งเฉย แต่ก็พยายามหาอุตสาหกรรมใหม่เข้าประเทศ อย่างอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ เป็นต้น รวมถึงการพยายามเจรจา FTA ที่เพิ่มขึ้น เช่น ปิดดีล FTA จำนวน 3 ฉบับ ไทย-EFTA ไทย-ภูฏานไทย – EU ที่หลังจากการปิดดีลก็มีผลประกอบการที่น่าพอใจ เช่นการส่งออกไปยังสวิตเซอแลนด์ในเดือนมกราคมโตกว่า 852%  อีกทั้งยังมีกำหนดพบ มารอส เซฟโควิช กรรมาธิการยุโรปด้านการค้าในวันที่ 4 มิ.ย. 68 รวมถึงพบกับ OECD เพื่อผลักดันให้การเจรจาสำเร็จเร็วที่สุด ตั้งเป้าปิดดีลภายใน 25 ธ.ค. 68 มากไปกว่านั้นยังรวมถึง FTA อื่นอย่าง เกาหลีที่จะเร่งให้จบภายในกลางปีนี้ ขณะเดียวกับกับอาเซียน-แคนาดาที่คาดว่าจะจบได้เร็ว ๆ นี้ และ UAE ที่มีการพูดคุยและคิดว่าจะสำเร็จได้

ในส่วนของการเจรจามาตรการภาษีสหรัฐอเมริกา มีการติดต่อกันตั้งแต่ธันวาคมแล้ว แต่ฝ่ายค้านดึงดันไม่เชื่อ ซึ่งการที่เราชะลอดูสถานการณ์นับเป็นผลดีกับเรา เพราะสถานการณ์ยังมีความผันผวนสูงในขณะนี้

สินค้าเกษตรไทยยังคงเป็นปัญหาที่แก้ไขอยู่ตลอดมา เช่น ราคาข้าวมีการตกลงทั่วโลกจากความต้องการระบายข้าวออกในหลายประเทศ โดยรัฐบาลได้จัดงาน Thailand Rice Convention 2025 และไทยสามารถขยายยอดส่งออกข้าวไปยังสหรัฐฯ อิรัก แอฟริกาใต้และกลุ่มประเทศตะวันออกกลางได้มากขึ้นกว่า 500,000 ตัน เป็นต้น มันสำปะหลังราคาต่ำเนื่องจากข้าวโพดในตลาดลดลง 37% จึงมีการนำข้าวโพดไปทำแอลกอฮอล์แทนมันสำปะหลัง เพราะราคาข้าวโพดและมันสำปะหลังมีความสอดคล้องกัน แต่สุดท้ายไทยก็ขายมันสำปะหลังไปได้กว่า 8.43 ล้านตัน โดยกระทรวงพาณิชย์จะเน้นเปิดตลาดใหม่ ตลาดที่มีศักยภาพ ขยายตลาดส่งออก สินค้าข้าวและมันสำปะหลัง รวมทั้งสินค้าเกษตรอื่น ๆ รักษาตลาดเดิมเพิ่มเติมกลยุทธ์ใหม่ ๆ ให้ยอดการส่งออกเติบโตขึ้น

อีกทั้งผลไม้มีการติดตามอย่างใกล้ชิดผ่าน 7 มาตรการ 25 แผนงาน (1) สร้างความเชื่อมั่นผลผลิต (2) ส่งเสริมตลาดในประเทศ (3) ส่งเสริมตลาดต่างประเทศ (4) ยกระดับ สินค้าผลไม้ไทย (5) ส่งเสริมการแปรรูปและปรับพื้นที่เกษตรให้เหมาะสม (6) แก้ไขอุปสรรคและอำนวยความสะดวกทางการค้า (7) บังคับใช้กฎหมาย รวมถึงมีการคิกออฟ Thailand Fruit Festival ของนายกรัฐมนตรี 

โดยกระทรวงพาณิชย์พยายามแก้ปัญหาอย่างรอบด้าน โดยให้ พาณิชย์จังหวัด กับทูตพาณิชย์ ทำงานไร้รอยต่อ ทำงานอย่างไร้รอยต่อระหว่าง ส่วนกลาง ส่วนต่างประเทศเละส่วนภูมิภาค ของกระทรวงพาณิชย์ มีความสำคัญต่อ การขับเคลื่อนการส่งออกอย่างมีพลวัต พร้อมทำงานร่วมกันเอกชนอย่างใกล้ชิด

#พรรคเพื่อไทย #อภิปรายงบ69 #พิชัยนริพทะพันธุ์