จากกรณีเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารไทย และกัมพูชา ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 24 ก.ค. 2568 ซึ่งพบว่ามีการปะทะกันทั้งหมด 6 จุด (ข้อมูลล่าสุด ณ เวลา 14.30 น.) บริเวณแนวชายแดนไทยกัมพูชา ภายในพื้นที่จังหวัด สุรินทร์ ศรีษะเกษ และอุบลราชธานี

ซึ่งพบว่าทางกัมพูชามีการยิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนของไทย ทั้งโรงพยาบาล และชุมนน จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตเบื้องต้นแล้ว 11 ราย

• จังหวัดสุรินทร์: ประชาชนเสียชีวิต 2 ราย (โดยเป็นเด็กอายุ 8 ขวบ 1 ราย), บาดเจ็บสาหัส 1 ราย, บาดเจ็บปานกลาง 3 ราย ส่วนทหารบาดเจ็บสาหัส 3 ราย, บาดเจ็บปานกลาง 1 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 1 ราย

• จังหวัดอุบลราชธานี: ประชาชนเสียชีวิต 1 ราย, บาดเจ็บสาหัส 4 ราย

• จังหวัดศรีสะเกษ: ประชาชนเสียชีวิต 8 ราย (โดยเป็นเด็กอายุ 15 ปี 1 ราย), บาดเจ็บสาหัส 3 ราย, บาดเจ็บปานกลาง 8 ราย, บาดเจ็บเล็กน้อย 4 ราย และทหารเสียชีวิต 1 ราย, บาดเจ็บเล็กน้อย 2 ราย (ข้อมูลล่าสุด ณ เวลา 14.30 น.)

ทั้งนี้ทางกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอใน 4 จังหวัด (รวมจังหวัดบุรีรัมย์) ดำเนินการตาม ‘แผนปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง’ อย่างเต็มรูปแบบ ได้แก่ แจ้งเตือนประชาชนให้อยู่ในหลุมหลบภัย สั่งอพยพประชาชนออกจากแนวชายแดน เคลื่อนย้ายไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวที่ปลอดภัย จัดระบบโรงครัว การแพทย์ และการความปลอดภัยอย่างครบวงจร พร้อมเตรียมการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงหากสถานการณ์ลุกลาม

โดยขณะนี้มีการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงแล้วดังนี้ 

จังหวัดสุริทร์ – มีคำสั่งอพยพประชาชนในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ พนมดงรัก , กาบเชิง , สังขะ และบัวเชด โดยภายในจังหวัดสุรินทร์มีศูนย์พักพิงทั้งหมด 76 แห่ง รองรับประชาชนได้ทั้งหมด 220,000 คน 

จังหวัดอุบลราชธานี – มีคำสั่งอพยพประชาชนในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ น้ำยืน และน้ำขุ่น ครอบคลุมพื้นที่ 7 ตำบล รวม 44 หมู่บ้าน โดยภายในจังหวัดอุบลราชธานีมีศูนย์พักพิงจำนวน 70 แห่ง รองรับประชาชนได้ทั้งหมด 80,000 คน

จังหวัดศรีษะเกษ – มีคำสั่งอพยพประชาชนในอำเภอกันทรลักษ์ ครอบคลุม 7 ตำบล รวม 80 หมู่บ้าน โดยมีศูนย์พักพิงกระจายอยู่ในอำเภอต่างๆ 24 แห่ง นอกจากนี้ กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ได้เตรียมพร้อมและกำหนดจุดตั้งศูนย์พักพิงรองรับการอพยพ ไว้ด้วยเช่นกัน จำนวน 9 จุด ทำให้รองรับผู้อพยพได้เพิ่มขึ้นกว่า 37,000 คน

จังหวัดบุรีรัมย์ – มีคำสั่งอพยพประชาชน 4 ตำบล ในอำเภอบ้านกรวด โดยมีการเปิดพื้นที่ศูนย์พักพิงทั้งหวด 3 จุดหลัก รองรับประชาชนได้กว่า 10,000 คน ทั้งยังมีแผนที่จะขยายพื้นที่ไปยังวัด โรงเรียน หากความจำเป็นต้องอพยพประชาชนในพื้นที่อื่นๆ เพิ่มเติม

#พรรคเพื่อไทย #ศูนย์พักพิง