(7 ส.ค.2568) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบและวิเคราะห์ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์เพื่อป้องกันข่าวปลอม เรื่องการขอความร่วมมือป้องกันและปราบปรามข่าวปลอมรวมถึงบัญชีผู้ใช้ที่เป็นไอโอ

📌ข้อสรุป การยกระดับปราบข่าวปลอม-ไอโอ 



1. ให้ความสำคัญกับข่าวที่มีความเกี่ยวข้องกับความไม่สงบในชายแดนเป็นหลัก
2. ใช้เทคโนโลยีเอไอในการตรวจจับข่าวปลอม และการปิดกั้นข่าวปลอมทุกช่องทาง

3. การเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการตามมาตรการการจัดการข่าวปลอม 

4.หากพบว่ามีการดำเนินการด้านไอโอหรือด้านจิตวิทยา ขอให้ส่งสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) เพื่อให้แจ้งแพลตฟอร์มออนไลน์ระงับการเผยแพร่ 

5.ยกระดับการยืนยันตัวตนบนสื่อออนไลน์ โดยผู้ที่จะลงโฆษณาต้องเป็นบริษัทที่มีการยืนยันตัวตน ซึ่งได้เริ่มดำเนินการไปบางส่วนแล้ว

📌ขั้นตอนการปราบปรามข่าวปลอม
เมื่อรับทราบและตรวจสอบข่าวปลอมแล้ว จะกระจายข้อเท็จจริงไปยังประชาชน กรมประชาสัมพันธ์ และกระทรวงดีอี จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง 

📌KPI 3 ชั่วโมง ต้องตรวจสอบจริง-เท็จได้

KPI ว่าภายใน 3 ชั่วโมงต้องวิเคราะห์ได้ และแจ้งกลับไปว่า เป็นข่าวปลอมหรือเป็นข้อเท็จจริง และหลังจากวันนี้เป็นต้นไปหากประชาชนพบข่าวปลอม สามารถแจ้งเข้ามาได้ที่เว็บไซต์ของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย (Anti-Fake News Center Thailand) ได้ทันที รัฐบาลจะตรวจสอบให้

📌การดำเนินคดีกับผู้เผยแพร่ข่าวปลอม 


โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานอัยการสูงสุด ให้ไปหารือและดูรายละเอียดในการดำเนินคดีกับผู้ที่ดำเนินการเรื่องข่าวปลอม

📌ขอความร่วมมือ นำเสนอข่าวที่ถูกต้อง-ระมัดระวัง
รองนายกฯ และ รมว.ดีอี ขอสื่อสารไปยังสื่อมวลชน อินฟลูเอนเซอร์ และผู้ไม่หวังดีว่า รัฐบาลเอาจริง การเผยแพร่ข้อมูล / โพสต์ข้อความต่างๆ ขอให้เป็นไปด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะการนำเสนอข่าวที่บิดเบือน-ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง

📌การปิด IP Address
มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ตรวจสอบข้อเท็จจริงผู้ให้บริการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำไอโอ และดำเนินการตามมาตรการที่เหมาะสมต่อไป

.

#พรรคเพื่อไทย #ต่อต้านข่าวปลอม