ภูมิธรรม – มาริษ – จิราพร พร้อมคณะประสานงานดูแลส่งพี่น้องกลับภูมิลำเนา-ประชุมผู้ว่าฯ ดำเนินมาตรการเยียวยา-ติดตามความเสียหายที่เกิดแก่โรงพยาบาล
นายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงมหาดไทย และอธิบดีกรมการปกครอง อธิบดีกรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย
🤝🏠ผนึกกำลังหน่วยงาน ร่วมส่งพี่น้องกลับภูมิลำเนา
วันนี้คณะเดินทางมาพบปะกับพี่น้องประชาชน ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ ร่วมประสานงาน-ดูและพี่น้องประชาชนในศูนย์พักพิงชั่วคราว ให้กลับบ้านตามภูมิลำเนาต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ หลังไทย-กัมพูชา บรรลุข้อตกลงหยุดยิงร่วมกันในการประชุม GBC ที่ประเทศมาเลเซีย และศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย- กัมพูชา (ศบ.ทก.) ประกาศให้พี่น้องประชาชน สามารถเดินทางกลับบ้านที่เคยอยู่ในพื้นที่เรดโซนได้ตั้งแต่เมื่อวานนี้ พี่น้องประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา โดยในพื้นที่ 4 จังหวัดได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์
กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม กระทรวงกลาโหมกระทรวงสาธารณะสุข กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยว ได้จัดรถ และสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชน พร้อมทั้งมาตราการเยียวยา
🟥ประชุมผู้ว่าราชการจังหวัด 4 จังหวัด เร่งดำเนินการมาตรการเยียวยา
โดยนายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกฯ ได้เรียกประชุม ผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้ง 4 จังหวัด เพื่อเร่งดำเนินมาตรการเยียวยา การจ่ายเงินชดเชย บรรเทาความเดือดร้อน ให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบในพื้นที่ ดังกล่าวเป็นการเร่งด่วน
และได้สั่งการ 5 แนวทางการบริหารจัดการในอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัด ได้แก่
1. อำนวยความสะดวกพี่น้องประชาชนกลับบ้าน โดยกระทรวงคมนาคมได้สั่งการทุกส่วนงานให้พร้อมสนับสนุนทันที และขอให้บูรณาการความร่วมมือทุกส่วนให้พี่น้องประชาชนกลับให้ได้เร็วที่สุด
2. การสำรวจความเสียหาย สภาพความพร้อมบ้านพักอาศัย สาธารณูปโภค ให้พร้อมเข้าอยู่ โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและการประปาส่วนภูมิภาคจะไม่เรียกเก็บสำหรับบ้านเรือนที่อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งศูนย์พักพิงทั้งหมด ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม – สิงหาคม 2568 สำหรับการซ่อมแซมบ้านเรือน ทุกส่วนราชการทั้งทหาร พลเรือน อาชีวะ สามารถช่วยเหลือโดยใช้เงินตามกรอบที่อนุมัติ รวมถึงเงินบริจาคที่ได้รับจากภาคส่วนต่าง ๆ โดยประสานมาที่ส่วนกลาง
3. การสำรวจประกอบอาชีพและสาธารณสุข ทั้งเรื่องสุขภาพกายใจ รวมถึงผู้ปฏิบัติงานทั้งทหาร ตำรวจ ตำรวจตระเวนชายแดน อาสาสมัคร เจ้าหน้าที่ทุกคนในพื้นที่ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน ต้องดูแลให้ครอบคลุมครบถ้วน
4. การเบิกจ่ายเยียวยาในภาวะที่ประชาชนเผชิญกับความทุกข์ ต้องใช้จ่ายอย่างมีคุณภาพ ครบถ้วน เต็มที่ บนเหตุผลและหลักการที่ต้องรักษาอธิปไตยของประเทศและชีวิตพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ ทุกอย่างต้องเป็นไปอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา รวมถึงผู้ปฏิบัติงานด้วย เพราะเป็นผู้เสียสละสำคัญ ทั้งแนวหน้าและแนวหลัง สมเกียรติภูมิแห่งความเป็นข้าราชการแห่งรัฐ ทหารกล้า ตำรวจของแผ่นดิน และ
5. ค่าตอบแทนชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) จะดูแลให้ดีที่สุด โดยหากถ้าทำงานวันละ 6 ชั่วโมงขึ้นไปแต่ไม่ถึง 12 ชั่วโมง 120 บาท แต่ถ้าเกินจาก 12 ชั่วโมงขึ้นไป 240 บาท รวมแล้วประมาณ 117 ล้านบาท เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับ ชรบ. หมู่บ้านต่าง ๆ ประมาณ 32,740 นาย ในพื้นที่
🟥ติดตามความเสียหายที่เกิดกับโรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา
ติดตามความเสียหายที่เกิดขึ้นกับโรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ที่ถูกโจมตีโดยจรวด BM 21 ของกัมพูชา ในวันที่ 24 กค. 68 และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่พยาบาล พร้อมเก็บข้อมูลเพื่อสมทบเป็นหลักฐานเพิ่มเติมในการยื่นฟ้องการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ว่าด้วยอนุสัญญาเจนีวากับองค์การระหว่างประเทศต่อไป
บทความที่เกี่ยวข้อง

🤝🏻ไทม์ไลน์มาตรการช่วยเหลือของรัฐบาล จากเหตุสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา
อ่านต่อ