เพื่อไทย Spotlight พูดคุยกับ ‘สรัสนันท์ อรรณนพพร’ สส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธาน กมธ.การต่างประเทศ ถึงบทบาทในการสื่อสารกับผู้แทนนานาประเทศ หลังเกิดเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 68 โดยใช้กลไกทางการเมืองชี้แจงข้อเท็จจริง ท่ามกลางข่าวสารที่ถูกบิดเบือน คู่ขนานไปกับรัฐบาลเพื่อหาทางยุติ
ในห้วงสถานการณ์เริ่มคลี่คลายถือเป็นสัญญานดี เมื่อทั้งสองฝ่ายได้กลับมาใช้กลไกเจรจาโดยสันติ หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าโดยกองกำลังทหารเพื่อหาทางออก ซึ่งล่าสุดไทย-กัมพูชา ต่างเห็นพ้องหยุดยิง ลดการยั่วยุทั้งทางการทหารและการสร้างข่าวเท็จ และใช้กลไกทวิภาคีเพื่อไม่ให้เกิดเหตุลุกลามบานปลายอีกครั้ง
- สันติวิธีคือทางออก
โดยสรัสนันท์ย้ำว่า “ความอดทนอดกลั้นของไทย วันนี้เริมผลิดอกออกผล การชี้แจงต่างๆของกระทรวงการต่างประเทศ ทำได้โดยมีหลักฐาน เป็นที่ประจักษ์ที่กัมพูชาไม่สามารถโต้แย้งได้”
เช่นเดียวกับการทำหน้าที่คู่ขนานไปกับรัฐบาล หลังเกิดเหตุปะทะ กมธ.การต่างประเทศ ที่นำโดยสรัสนันท์ ในฐานะประธานได้เดินสายพบปะผู้แทนของหลายประเทศ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงหลังมีการบิดเบือนข่าว
“หลังวันที่ 24 ก.ค. กรรมาธิการนำโดยดิฉัน ได้ไปเจอท่านทูตของประเทศใน UNSC ที่มีสมาชิกถาวร 5 ประเทศ จีน,ฝรั่งเศส,อังกฤษ,รัสเซีย,สหรัฐฯ รวมถึงสหภาพยุโรปอีก 18 ประเทศ เพื่อไปแสดงข้อเท็จจริง ในความกังวลของผู้แทนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร”
- ไทยได้เปรียบบนเวทีโลก
สำหรับท่าทีของรัฐบาลและกองทัพไทยต่อกรณีพิพาทระหว่างไทย-กัมพูชา ‘สรัสนันท์’ อยากให้ประชาชนมั่นใจว่าสิ่งที่ทางการไทยกำลังดำเนินการอยู่ ไม่มีใครต้องการให้สูญเสียอธิปไตยของประเทศไทย โดยทางการไทยมีเป้าหมายสำคัญคือการนำความขัดแย้งของสองประเทศกลับมาอยู่บนโต๊ะเจรจา
“กัมพูชาคิดว่าถ้าโลกล้อมไทยด้วยการกดดัน ไทยจะไม่มีทางเลือก แต่เราปฏิบัติภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด ทั้งทางการทูตและทางการทหาร ไม่มีใครสามารถติเราได้ จะหาเรื่องอะไรมาติเรา ในเวทีโลกไม่มีใครทำได้”
ขณะที่ชนวนเหตุของความขัดแย้งที่ปะทุขึ้นมาในครั้งนี้ ‘สรัสนันท์’ วิเคราะห์ว่าเกิดจากหลายปัจจัย เพราะที่ผ่านมาการพูดคุยระหว่างรัฐบาลไทยและทางการกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายได้ให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดี
“เรื่องประชุม GBC,JBC,RBC ที่ผ่านมาได้ร่วมมือกันดีมาโดยตลอด แต่อยู่มาวันหนึ่ง กัมพูชาเลือกที่จะไม่คุยกับเรา แน่นอนว่ามาจากหลายปัจจัย มีการตั้งข้อสังเกตว่ามาจากปัญหาการเมืองภายในหรือเพราะรัฐบาลท่านนายกฯ แพทองธาร เอาจริงเอาจริงกับการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์”
- บาดแผลและข้อพิพาทต้องใช้เวลา
จากเหตุปะทะจนเกิดความสูญเสียทั้งสองฝ่าย ‘สรัสนันท์’ มองว่าความสัมพันธ์ของไทยและกัมพูชานั้น ต้องใช้เวลาและความพยายาม เพราะทั้งสองฝ่ายต่างมีการปลูกฝังไม่เหมือนกัน จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะให้แต่ละฝ่ายไว้ใจซึ่งกันและกัน
“ความสัมพันธ์ที่ราบรื่นมันต้องใช้เวลาสร้าง มันมีอดีตที่ขมขื่นกันมาเยอะ ทั้งการเรียนการสอนหรือการปลูกฝังของแต่ละฝั่งที่ไม่เหมือนกัน”
อย่างไรก็ตามสรัสนันท์ มองว่าการยุติความขัดแย้งสุดท้ายต้องจบที่การเจรจา เรื่องข้อพิพาทจำเป็นต้องใช้เวลา เพราะเราต้องการสร้างสันติภาพเพื่อประชาชนทั้งสองประเทศจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลไทยทำโดยยึดหลักสันติวิธีเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
ชมคลิปสัมภาษณ์ในรายการเพื่อไทย Spotlight ได้ที่
https://www.facebook.com/pheuthaiparty/videos/781743787611449
#พรรคเพื่อไทย#เพื่อไทยspotlight#ชายแดนไทยกัมพูชา#สรัสนันท์อรรณนพพร