“อนุสรณ์” ขยี้ “ธรรมนัส-สุชาติ” ทั้งประวัติอื้อฉาว-ผลงานด่างพร้อยลือลั่น “มันคือแป้ง-SKYY9” นี่คือรัฐบาลที่โปร่งใส มีหลักนิติรัฐ-นิติธรรมแล้วใช่หรือไม่?
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ร่วมอภิปรายการแถลงนโยบายรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าจากการที่ได้อ่านและฟังคำแถลงของท่านนายกรัฐมนตรี นโยบายไม่ได้เด่น ไม่ได้มีอะไรใหม่ มีแต่บอกว่าจะทำอะไร แต่ไม่บอกว่าจะทำอย่างไรจึงไม่ได้ว๊าว แต่สิ่งที่มีมากกว่าคือ “เอ๊ะ” เอ๊ะในคุณสมบัติของท่านรัฐมนตรีที่ได้แต่งตั้ง ที่ไม่เพียงแต่ขาดความเชี่ยวชาญในวิชาชีพ แต่ยังกระทบความน่าเชื่อถือ ที่บกพร่องและจะทำงานได้อย่างไร
.
นายอนุสรณ์กล่าวต่อว่า เมื่อวานนี้ รัฐบาลได้กล่าวว่ารัฐบาลนี้ตั้งขึ้นมาเพื่อมาแก้ความเสียหายที่เกิดจากรัฐบาลที่แล้ว จึงไม่แน่ใจว่า รวมถึงการตั้งรัฐมนตรีที่รัฐบาลที่แล้วไม่กล้าตั้ง เลยแก้ปัญหาด้วยการลุยไฟตั้งเสียเองหรือไม่
.
ดังนั้นในการอภิปรายครั้งนี้จึงขอมุ่งไปยังคุณสมบัติของรัฐมนตรี 2 คน โดยตั้งชื่อเรื่องว่า รางวัลแด่คนช่างหัก รอยด่างพร้อย ที่ยากจะลบเลือน
.
คนแรก ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ประวัติมีเงื่อนงำ พัวพันคดีความและข้อสงสัยในอดีตที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ จนถูกศาลตัดสินจำคุก และถ้าไปหาอ่านตามจะพบคลิปข่าว คลิปดังข้ามปี จะมีข้อความว่าสิ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดรัฐนิวเซาท์เวลส์ อ้างว่าเป็นเฮโรอีน 3.2 กิโลกรัมนั้น “มันคือแป้ง”
.
ซึ่งแม้ศาลรัฐธรรมนูญ จะวินิจฉัยว่าท่านไม่ขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีตามกฎหมายไทย แต่ย่อมนำมาซึ่งข้อสงสัยและการตั้งคำถามอย่างรุนแรงถึงคุณธรรมและจริยธรรมของบุคคลที่ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือไม่
.
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นการปกปิดทรัพย์สินและการใช้ชื่อบุคคลอื่นถือครองหุ้น และการให้คู่สมรสถือครองหุ้นในบริษัทเกิน 5 เปอร์เซ็นต์โดยท่านไม่ได้แจ้งต่อ ป.ป.ช. ซึ่งอาจจะผิดกฎหมาย หรือไม่
.
รวมถึงการมีรายได้ลึกลับจากธุรกิจสลากฯ ซึ่งน่าแปลกใจตรงที่ท่านแจ้งรายได้จากการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลแต่ไม่ได้มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทขายสลากใดๆ ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่สร้างความคลุมเครือสงสัย ข้อกังขาเหล่านี้ไม่ได้เพิ่งเกิด และคนที่ตั้งข้อสงสัยเหล่านี้ก็คือรัฐบาลในอดีตที่เคยทำงานร่วมกับท่านมา
.
กรณีนายสุชาติ ชมกลิ่น เป็นรัฐมนตรีเพียงไม่กี่คน ที่พรรคฝ่ายค้ำตั้งเงื่อนไขไม่ให้ตั้ง ด้วยภูมิหลังที่อาจทำให้มีความกังวลเรื่องความโปร่งใส โดยเฉพาะประเด็น อาคาร SKYY9 เมื่อคราวดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่สำนักงานประกันสังคมเข้าซื้อทรัพย์สินในราคาเกินจริง ซื้อในราคาสูงถึง 61,000 – 68,000 บาทต่อตารางเมตร ตัวเลขนี้เป็นตัวเลขที่สูงกว่ามาตรฐานของสมาคมผู้ประเมินค่าทรัพย์สินฯ ที่ประเมินราคาอาคารสำนักงานระดับสูงไว้เพียง 38,900 บาทต่อตารางเมตร หรือกล่าวคือ สูงกว่าถึง 75% ซึ่งเป็นการประเมินราคาที่เกินจริง อาจไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากกระบวนการที่มีข้อกังขา กล่าวคือ การประเมินที่อ้างอิงข้อมูลผิดจากความเป็นจริง คือบริษัทประเมินทั้ง 2 แห่ง ได้ใช้ราคาที่ดินในทำเลพรีเมียมอย่างถนนอโศกมนตรีและถนนพระราม 9 มาเป็นฐานในการประเมินทั้งที่ควรใช้ทำเลที่ตั้งจริงทำให้ราคาสูงเกินจริง
.
นอกจากนี้ การละเลยข้อบกพร่องของอาคาร แม้อาคารจะขาดคุณสมบัติพื้นฐานที่กฎหมายกำหนด เช่น ขาดถนนกว้าง 6 เมตรรอบโครงการ และมีที่จอดรถไม่เพียงพอตามมาตรฐานใหม่ ข้อบกพร่องเหล่านี้กลับถูกละเลยไป เอกสารการซื้อขายระบุว่าอาคารได้รับการรับรอง มาตรฐานอาคารเขียว TREES ทั้งที่ความจริงยังไม่ได้รับการรับรอง หรือไม่
.
สำนักงานประกันสังคมได้อนุมัติและลงนามในข้อตกลงดังกล่าวในวันเดียวกับที่ กองทรัสต์ Prime Asset Equity Trust ก่อตั้งขึ้น ซึ่งเป็นกระบวนการที่รวบรัดมีเงื่อนงำ ข้ามขั้นตอนการตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน และขาดการพิจารณาอย่างรอบด้าน
.
ซ้ำร้าย ยังไปฟ้องปิดปากเสียงวิจารณ์ เลือกใช้การฟ้องร้องปิดปาก ผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์ การปิดข้อความในโซเชียลมีเดียของหน่วยงาน สะท้อนถึงการขาดความเชื่อมั่นอย่างรุนแรงจากประชาชน
.
“ความรับผิดชอบทางการเมืองย่อมเหนือความรับผิดชอบทางกฎหมาย เส้นแบ่งการเป็นรัฐมนตรี เป็นได้หรือไม่ ขาดคุณสมบัติหรือไม่นั้นเป็นเส้นแบ่งทางกฏหมาย แต่คุณธรรม จริยธรรมทางการเมือง ซึ่งบุคคลผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองควรมีสูงกว่ามาตรฐานทางกฎหมายหรือไม่ เราไม่อาจไม่วางใจ ไม่อาจเชื่อมั่นกับบุคคลที่ตั้งไปรับตำแหน่ง ซึ่งเป็นบุคคลที่มีรอยด่างพร้อยในอดีต เมื่อมีรอยด่างพร้อยแล้วจะไปดูแลประเทศให้มีอนาคตสดใสได้อย่างไร” นายอนุสรณ์กล่าวสรุปฃ
.
#พรรคเพื่อไทย #อนุสรณ์เอี่ยมสะอาด #ธรรมนัส #มันคือแป้ง
