สุทิน คลังแสง สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายในวาระพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ หมวด 15/1 เพื่อเปิดทางให้มีการตั้ง ส.ส.ร. สำหรับการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

🎯ทำไมนักการเมืองชอบแก้รัฐธรรมนูญ

สุทิน ระบุว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่บ่อยที่สุด และถูกค่อนแคะทั้งจากประชาชน และจากเพื่อนสมาชิกในรัฐสภาว่า นักการเมืองไทย ไม่คิดจะทำอย่างอื่นกันหรอ คิดแต่จะแก้รัฐธรรมนูญ ไม่สนใจแก้ปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชนบ้างเลยหรือ

แต่ในความเป็นจริงแล้ว สาเหตุที่ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญหลายฉบับในช่วงที่ผ่านมา เป็นเพราะเราตกอยู่ในวงจรอุบาทว์ เขียนมาแล้วก็ฉีก ฉีกแล้วก็เขียน วนเวียนอยู่อย่างนี้ ต้นเหตุหลักที่ทำให้มีรัฐธรรมนูญหลายฉบับก็เพราะว่ามีคนฉีกรัฐธรรมนูญบ่อย ฉะนั้นจึงไม่ถูกต้องที่จะมาโทษนักการเมืองที่ต้องการจะเขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ควรจะโทษที่ต้นเหตุที่แท้จริงคือคนฉีกรัฐธรรมนูญ

คำถามสำคัญต่อมา ที่หลายคนอาจจะสงสัยคือ ในเมื่อเขาฉีกแล้วเขาเขียนใหม่ให้แล้ว ทำไมจะต้องมาเขียนเพิ่ม หรือเขียนใหม่ ซึ่งเรื่องนี้มีทั้งงานวิชาการงานวิจัย และการสังเกตจากประสบการณ์การทำงานที่รับรู้ทั่วกันว่า การเขียนรัฐธรรมนูญหลังจากการรัฐประหารนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นการเขียนไว้เพื่อปกป้องตัวเอง รวมทั้งทำเพื่อสืบทอดอำนาจของตนเองด้วย และประเด็นใจความสำคัญที่สุดคือ รัฐธรรมนูญหลังการรัฐประหารนั้น มีปัญหาการไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชนเท่าที่ควร

“ด้วยเหตุว่าคนเขียนนั้น เป็นคนมาจากไหนก็ไม่รู้ บางครั้งทำเหมือนกระบวนการจะดูดี แต่ท้ายที่สุดแล้วก็กลายเป็นกลุ่มคนที่มาจากการยึดอำนาจ”

สิ่งนี้จึงเป็นปัญหาต่อเนื่องมา ตัวคนเขียนก็ไม่ได้รับการยอมรับ ตัวเนื้อหาก็ไม่ได้รับการยอมรับ ซึ่งต่อมาก็ทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งในสังคม 

สุทิน กล่าวต่อว่า การจะแก้ไขปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น ก็จำเป็นที่จะต้องมีโครงสร้างทางการเมืองที่ดี เพื่ออำนวยให้รัฐบาลสามารถแก้ปัญหาของพี่น้องประชาชนได้ เพราะหากกติกาตามรัฐธรรมนูญไม่เอื้อให้รัฐบาลสามารถทำงานแก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชนได้อย่างเต็มที่ ต่อให้เป็นเทวดาก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้

“สามปี มีนายกสามคน เทวดาที่ไหนจะมาแก้ปัญหาได้“

หากคิดด้วยความเป็นธรรมแล้วการแก้ปัญหาปากท้องประชาชน ก็จำเป็นที่จะต้องเริ่มต้นจากการสร้างระบบทางการเมืองที่ดี ส่วนคนที่ยังคิดว่านักการเมืองนั้นจ้องแต่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่แก้ปัญหาปากท้องที่พี่น้องประชาชน นี่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่จริงเช่นกัน เพราะนับแค่สภาในชุดนี้ ก็ได้มีการแก้ไขกฎหมายตรากฎหมายใหม่ เพื่อแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนออกมาจำนวนมาก

🎯การเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญไม่ได้เพิ่งเกิด ทำมาต่อเนื่อง แต่เจอกับการขัดขวาง

สุทิน กล่าวต่อว่า การพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นครั้งแรก ที่ผ่านมาก็มีความพยายามผลักดันกันมาหลายครั้ง ความคิดที่จะแก้ไขมีมาตั้งแต่วันที่รัฐธรรมนูญประกาศใช้ หลายคนก็รู้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้ 

ต่างชาติเองก็รับรู้ เมื่อเห็นรัฐธรรมนูญฉบับนี้เขาก็รู้ว่าอีกไม่นานประเทศไทยก็จะต้องทะเลาะและแตกแยกกันอีก ฉะนั้นการที่เขาจะเข้ามาทำการค้า มาลงทุน จะเข้ามาเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกับเรา ก็เป็นเรื่องยากเมื่อเห็นรัฐธรรมนูญแบบนี้ รัฐธรรมนูญที่เป็นระเบิดเวลาแบบนี้ไม่สามารถดึงดูดการลงทุนได้

ในสภาสมัยที่แล้ว เราก็ได้มีการสร้างกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีการตั้งกรรมาธิการศึกษาเพื่อแก้ไข มีการเชิญนักวิชาการ และฝ่ายต่างๆในทางการเมืองเข้ามาเพื่อหาข้อสรุปร่วมกันว่าจะแก้รัฐธรรมนูญอย่างไร และ ในเวลานั้นก็ได้เริ่มต้นกระบวนการแก้ไขกันแล้ว แต่สุดท้ายก็ถูกตีตกในวาระที่สาม ส่วนเรื่องที่สามารถแก้ไขได้ก็มีเพียงแค่ประเด็นการเลือกตั้ง สส. 

“แต่เพียงเท่านี้ก็ยังไม่พอ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ มีที่มาที่ไม่ชอบ มีเนื้อหาที่ไม่ชอบ และการทำประชามติ ก็เป็นประชามติกำมะลอ เป็นประชามติแบบมัดมือชก”

🎯ปัญหารัฐธรรมนูญ 2560 ฉุดรั้งการพัฒนาประเทศ

สุทิน อภิปรายต่อว่า ปัญหาที่เห็นได้ชัดจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ คือหลังจากมีการเลือกตั้งทั่วไป พรรคการเมืองที่ได้คะแนนเสียงอันดับหนึ่ง จากการเลือกตั้งทั้งสองครั้งที่ผ่านมา ไม่สามารถเป็นรัฐบาลได้ 

นอกจากนี้สิ่งที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้พยายามโฆษณาชวนเชื่อ คือการเป็นรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง นักการเมืองที่ได้มาจากรัฐธรรมนูญนี้ จะต้องไปนับการเมืองที่สะอาด บริสุทธิ์ มีคุณธรรม จริยธรรม แต่สิ่งเหล่านี้กลับตรงกันข้ามกับหน้าตาของรัฐบาลในปัจจุบัน 

สิ่งที่บอกว่าจะเป็นการปราบโกง ก็คือการตั้งองค์กรอิสระขึ้นมาตรวจสอบถ่วงดุล แต่ถามทุกคนในวันนี้ ลองถามใจตัวเองดูว่า องค์กรอิสระนั้น มีความอิสระจริงหรือไม่

ส่วน สว. เอง ก็มีการโฆษณาว่าออกแบบมาเพื่อให้มีความเป็นอิสระ และเป็นกลางในทางการเมือง แต่วันนี้ลองถามตัวเองดูว่า อิสระจริงหรือไม่

“ที่สำคัญรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ส่งผลให้เกิดการยุบพรรคการเมืองมาแล้วไม่รู้พรรค ทำให้มีนายกฯ 3 ปี 3 คน และต่อให้สามคนนั้นเป็นเทวดา จะสามารถแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้ไหม

ผมจะยกเคสหนึ่งให้ฟัง รัฐธรรมนูญฉบับนี้กำลังทำให้สมาชิกรัฐสภาแห่งนี้ขนลุก มาตรา 144 ยังคงเป็นสิ่งที่เขย่าขวัญอยู่จนถึงทุกวันนี้ วันนี้กำลังมีคนพูดพูดถึงมาตรานี้ว่า สภาแห่งนี้ ทั้งสส.และ สว. รวมทั้ง ครม. ด้วย ได้ทำการโยกงบประมาณมาใช้ทำนโยบายเงินหมื่น วันนี้มีคนหยิบไปฟ้องว่า เป็นการกระทำที่ขัดต่อมาตรา 144 ทั้งหมด 

และรัฐธรรมนูญฉบับนี้บัญญัติโทษเอาไว้หนัก คือต้องลงโทษให้ตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต และมีโทษทางอาญาด้วย และหากมีการวินิจฉัยกันจริงๆ และเป็นไปตามที่ผู้ร้องได้ร้องไว้ กรณีการโยกงบมาทำนโยบายเพื่อประชาชน ถูกวินิจฉัยว่าเป็นความผิด ก็อาจจะมีการตัดสิทธิ์สมาชิกรัฐสภากันทั้งหมด ที่นั่งกันอยู่ในที่นี้ก็อาจจะไม่เหลือใครเลย 

แล้วหากเรื่องการโยกงบมาทำนโยบาย คน เป็น สส. สว. หรือคณะรัฐมนตรีไม่สามารถทำได้ เราจะไปทำเรื่องอะไรให้ชาวบ้านได้ 

ถามว่ารัฐธรรมนูญที่เขียนว่าอย่างนี้ เป็นการทำให้ตัวแทนของประชาชนมีศักยภาพสูงขึ้นหรือว่าลดทอนให้เป็นเป็ดง่อย”

🎯รัฐธรรมนูญ 2560 ไม่ส่งเสริมกระบวนการประชาธิปไตย

สุทิน อภิปรายต่อว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ถูกเขียนไว้ให้เป็นรัฐธรรมนูญที่แก้ยากที่สุด หรือไม่สามารถแก้ได้เลย มีการวางกลไกไว้สลับซับซ้อนเพื่อป้องกันการแก้ไข

“สิ่งที่เราแสดงความเห็นอภิปรายกันมาสองวันนี้ ถึงที่สุดแล้วมันจะแก้ไขได้หรือไม่ก็ยังไม่ทราบ และก็มีตัวอย่างเห็นแล้วด้วยในสมัยที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยและพรรคอื่นก็ช่วยกันทุ่มเทสุดตัว เดินมาตามสเต็ป มีการศึกษาร่วมกันอย่างดี ทำให้เกิดความชอบธรรม ให้พื้นที่ทุกคนได้มีส่วนร่วม และดำเนินการแก้ไขตามขั้นตอน แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอดอยู่ดี ซึ่งมันก็จริงอย่างที่เขาว่าคือ มันถูกทำไว้ให้แก้ไขยาก”

สุทิน ยอมรับด้วยว่า การดำเนินการเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ ตนเองไม่ได้มีความหวังมากเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้ทำให้จะต้องนั่งอยู่เฉยๆ เพราะวันนี้ถ้ากลไกการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นเพียงการดำเนินการเพื่อหาช่างไปสร้างบ้าน ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าจะได้ช่างหรือไม่ ต้องรอดูก่อนในวาระที่สาม แล้วก็ต้องรอดูผลประชามติว่าประชาชนจะยอมรับหรือไม่

และเมื่อได้ช่างมาแล้วก็ยังไม่รู้ว่าช่างจะดำเนินการสร้างบ้านแบบไหน จะได้บ้านที่ดีขึ้นหรือว่าจะทำร้ายไปกว่าเดิมอีก เรื่องนี้ก็ยังต้องเดินทางกันต่อ

“ความหวังเดียวที่ผมมองเห็นในตอนนี้ คนที่ทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้สำเร็จ คือพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พรรคภูมิใจไทยเท่านั้น ส่วนพรรคอื่นก็ต้องช่วยผลักดันสนับสนุน แต่พรรคที่จะเป็นคนชี้ขาดว่าแก้ได้หรือไม่ได้คือพรรคภูมิใจไทย

สาเหตุที่พูดแบบนี้เพราะ ท่านเป็นการนำรัฐบาล และท่านก็ได้พยายามรวบรวมสมัครพรรคพวกมีมือไม้เพิ่มมากขึ้นทุกวัน จนอาจจะเป็นเสียงข้างมากในเร็วๆ นี้ นอกจากนี้คนขาด ก็ยังเป็น สว. ด้วย ซึ่งก็ยังเดาใจท่านยาก เพราะไม่รู้ว่าท่านจะให้ผ่าน หรือไม่ผ่าน เห็นว่าท่านก็ไม่มีมติพรรค แต่วันนี้ก็ต้องพูดกันตามจริงว่า สว.นั้น ใครประสานงานกับท่านได้ดีที่สุด นี่ผมให้เกียรตินะที่ใช้คำว่าประสานงาน เพราะหากเป็นคนอื่นเขาอาจจะใช้คำว่าใครสามารถสั่งท่านได้

ใครเป็นผู้สามารถประสานงานกับสว.  ได้มากที่สุดในบรรดาพรรคการเมืองที่มีอยู่นี้ คำตอบก็คือพรรคภูมิใจไทย สาเหตุที่ผมชี้ไปที่พรรคภูมิใจไทย คิดว่าคงไม่ต้องเสียเวลาอธิบายกัน และพูดไปก็คงสะเทือนใจกัน 

ฉนะหากดูจากเส้นทางทั้งหมดนี้ คนที่จะชี้ขาดว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะสำเร็จหรือไม่ก็คือ พรรคภูมิใจไทย

และเมื่อวิเคราะห์ดูพรรคภูมิใจไทย อยู่กันมาผมถือว่าเรารู้ใจกัน และพอการรู้ใจกันนี่แหละจึงทำให้ผมกังวลใจ ว่าท่านไม่ได้มีความคิดที่อยากจะแก้ ความเป็นจริงแล้วท่านได้เต็มใจที่จะแก้ หรือเพราะมีความจำเป็นที่จะต้องแลกเรื่องการแก้ไขและรัฐธรรมนูญกับการเข้ามาเป็นรัฐบาล ท่านจึงได้รับปากไป

และผมก็คิดแล้วก็หวั่นใจไปอีกว่า เพื่อนเราคนที่อยากจะแก้ก็คือ พรรคประชาชน ท่านไปไว้ใจกับคนที่ไม่อยากแก้ แต่กลับไม่ไว้ใจคนที่อยากแก้อย่างเรา คนลวงเธอรัก คนรักเธอลวง ผมอยากให้ไปฟังเพลงนี้มาก

ที่พูดขึ้นมาต้องการจะไปฟื้นฝอยหาตะเข็บ หรือไปจี้ใจดำกัน แต่อยากจะบอก ทุกคนว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้อย่าไว้วางใจ อย่าคิดว่ามันง่าย เพราะเราไปเชิญใครไม่รู้ให้มันขึ้นธรรมาสน์เทศน์ เขาจะเทศน์ให้เราไหมก็ไม่รู้เพราะว่าเพิ่งปล้นไปเมื่อวาน พูดง่ายๆ คือคนเขาไม่อยากแก้ แต่เราไปบังคับให้เขามาแก้ แต่คนอยากแก้เรากลับไม่ให้โอกาสร่วมมือกันแก้”

#พรรคเพื่อไทย #แก้รธน. #สุทินคลังแสง