นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความบน x ตั้งคำถามถึง MOU แร่แรร์เอิร์ธ ที่รัฐบาลไทย ไปลงนามกับสหรัฐฯ โดยมีข้อกังวลว่าไทยได้ประโยชน์อะไรจาก MOU ฉบับนี้ พร้อมชี้ให้เห็นว่า การไปลงนาม MOU ดังกล่าวโดยไม่ผ่านคณะรัฐมนตรีหรือรัฐสภาก่อนนั้นอาจขาดความรอบคอบ รัดกุม เสี่ยงต่อการเสียอำนาจการต่อรอง และหากลงนามกันแต่บอกว่าไม่ผูกพันยิ่งทำให้ประเทศเสียความน่าเชื่อถือบนเวทีโลก โดยนายศึกษิษฏ์ ได้เขียนข้อความดังนี้

“ช่วงรัฐบาลที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสลงพื้นที่ไปทำการศึกษาและได้พูดคุยกับบริษัทต่างๆที่ทำการสำรวจแหล่งแร่ในประเทศ การสำรวจและพัฒนาแหล่งแร่ Rare Earth เป็นเรื่องที่น่าสนใจ มีโอกาสในหลายๆด้านแต่ก็ต้องพิจารณาผลกระทบให้รอบคอบ 

.

เมื่อมีการเจรจาและเซ็น MoU ของประเทศไทยกับอเมริกาเนื่องในโอกาสที่ประธานาธิบดีทรัมป์มาเข้าร่วม ASEAN Summit ผมจึงขอตั้งข้อสังเกตดังนี้ครับ 

.

1. เราได้อะไรจากการเซ็น MoU นี้? –  รายละเอียดอัตราภาษี สินค้าสิ่งที่เราต้องนำเข้าและการผ่อนปรน non-tariff measures ต่างๆ เหมือนกับที่รัฐบาลเพื่อไทยได้เจรจาค้างไว้ ทำไมต้องเพิ่ม MoU นี้?  

.

2. ถ้าจะบอกว่าหลายๆประเทศก็เซ็นแต่ทำไม MoU ของมาเลเซียมี commitment ที่น้อยกว่าเราอีก? 

.

3. ถ้าจะมี MoU ก็ควรจะเอามาใช้ในการเจรจาให้เราได้อัตราภาษีที่ดีขึ้นหรือไม่? ในตอนท่านพิชัยยังเป็นหัวหน้าทีมการเจรจาได้ใช้หลักการ “ข้อตกลงการค้าที่เท่าเทียมเป็นธรรมและเกิดประโยชน์ร่วมกัน” ในการต่อรองให้เราได้อะไรมากกว่านี้

.

4. ความน่าเชื่อถือของประเทศอยู่ตรงไหน – การที่ตัวแทนรัฐบาล หรือหน่วยงานรัฐรีบออกมาสื่อสารเรื่องที่ MoU ไม่มีผลบังคับใช้ทางกฏหมาย หรือว่าประเทศไทยไม่มี Rare Earth (ซึ่งจริงๆ คือแค่ยังไม่ได้มีการสำรวจอย่างทั่วถึง)  หลังจากที่พึ่งลงนามในเอกสารร่วมกันมา รัฐบาลกำลังส่งสัญญาณว่าอะไร?

.

-สิ่งที่รัฐบาลพึ่งไปลงนามมาไม่มีความหมาย?

-เราหลอกให้ประเทศมหาอำนาจมาลงนามได้?

-การเจรจาระหว่างประเทศในอนาคตเราจะเหลือความน่าเชื่อถืออะไรบ้าง? 

-หรือคิดว่า MoU ไม่มีความหมายเหมือน MoA?

.

5. เรายืนอยู่ตรงไหนในภูมิรัฐศาสตร์และการดึงดูดการลงทุน? – ในเอกสาร MoU มีข้อความอย่าง “Participants expect to have first opportunity to invest (ผู้ลงนามคาดหวังว่าจะได้มีโอกาสลงทุนเป็นคนแรก)” หรือ “The Participants intend to provide information to each other regarding potential tenders and projects at the earliest practicable moment (ผู้ลงนามตั้งใจจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับการประมูลและโครงการต่อกันและกัน อย่างเร็วที่สุดที่จะทำได้)” แปลว่าเราคงไม่สามารถไปเซ็นเอกสารด้วยเงื่อนไขเดียวกันกับประเทศอื่นๆได้

.

เท่ากับว่าเราปิดโอกาสในการเจรจากับประเทศอื่นหรือได้เลือกข้างในภูมิรัฐศาสตร์นี้ไปแล้ว แล้วจะเกิดอะไรขึ้น supply chain ของรถ EV จากประเทศญี่ปุ่นและจีนในประเทศเรา? แล้วบริษัทของออสเตรเลียที่มีการสำรวจอยู่ในปัจจุบันล่ะ?    

.

6. เรื่อง Call Center กับ Scammer ไปไหน – หลังจากที่มีข่าวว่าทางอเมริกากำลังเร่งปราบปรามแก็งค์สแกมและการฟอกเงินอย่างจริงจัง มีการยึดทรัพย์บริษัทต่างๆ และมีการโยงมาถึงบุคคลในภูมิภาคนี้ แต่ทำไมมีโอกาสได้เจอผู้นำของสหรัฐอเมริกาในเวทีอย่าง ASEAN แล้วจึงไม่ได้มีการประชุมหรือหารือตกลงในแนวทางเรื่องนี้เลย ทำไมความตื่นตัวที่ให้สื่อสารในประเทศถึงหายไปทั้งๆที่มีโอกาสได้พูดคุยและใช้ทรัพยากรของประเทศมหาอำนาจมาช่วยในการปราบปรามเรื่องที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนอยู่

.

7. ข้อตกลงใน MoU ดังกล่าว ได้รับความเห็นชอบจากครม. ก่อนลงนามทั้งหมดหรือไม่? และเป็นหนังสือสัญญาซึ่งจำเป็นต้องนำมาให้รัฐสภาเห็นชอบตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญมาตรา 178 ด้วยหรือไม่?

.

คำถามที่ผมกล่าวมา เป็นข้อสงสัยที่รัฐบาลควรชี้แจงให้กระจ่างชัด เพื่อโอกาสและจุดยืนของประเทศไทยบนเวทีโลกในการพัฒนาระยะยาว ทั้งในด้านแร่ธาตุหายาก และความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ เป็นประโยชน์ต่อประเทศและประชาชนไทยอย่างเหมาะสมและยั่งยืนที่สุดครับ”

.

#พรรคเพื่อไทย #แร่แรร์เอิร์ธ #ศึกษิษฏ์