กรมอุตุนิยมวิทยารายงานวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 ว่า พายุไต้ฝุ่น “คัลแมกี” กำลังเคลื่อนตัวอยู่บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ห่างชายฝั่งเวียดนามราว 500 กิโลเมตร และมุ่งหน้าไปขึ้นฝั่งเวียดนามตอนกลางในช่วงวันที่ 6-7 พ.ย. จากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง และเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยตอนบน

พื้นที่แรกที่จะได้รับผลกระทบคือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดอุบลราชธานี ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย. เป็นต้นไป ก่อนที่ฝนจะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมถึงกรุงเทพฯ และปริมณฑลช่วงวันที่ 8-9 พ.ย. คาดอาจมีฝนตกหนักบางแห่ง

ภาคใต้ โดยเฉพาะฝั่งอันดามัน จะมีฝนเพิ่มขึ้นและคลื่นทะเลแรงในช่วง 6-9 พ.ย. ประชาชนและชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและทำกิจกรรมริมทะเล

กรมอุตุฯ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะบริเวณเชิงเขาและทางน้ำไหลผ่าน ติดตามประกาศอย่างใกล้ชิด และให้เกษตรกรที่กำลังเก็บเกี่ยวหรือ ตากผลผลิต เร่งป้องกันความเสียหายจากฝน

สถานการณ์น้ำเขื่อน และ ลุ่มเจ้าพระยาต้องจับตา

คลังข้อมูลน้ำแห่งชาติรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 90% ของความจุ ถือว่าสูงต่อเนื่องจากฝนในช่วงฤดูที่ผ่านมา และหลายเขื่อนมีระดับน้ำใกล้เต็มหรือเกินความจุกักเก็บ ได้แก่

• เขื่อนภูมิพล 97.4%
• เขื่อนสิริกิติ์ 97.3%
• เขื่อนกิ่วคอหมา 107.6%
• เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ 103.59%
• เขื่อนขุนด่านปราการชล 100.29%

ระดับน้ำดังกล่าวทำให้ต้องบริหารจัดการน้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อรักษาความปลอดภัยของเขื่อนและลดผลกระทบพื้นที่ท้ายน้ำ

กรมชลประทานปรับการระบายน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท เป็น 2,500 ลบ.ม./วินาที พร้อมผันน้ำเข้าสู่ระบบชลประทานทั้งสองฝั่งและใช้พื้นที่หน่วงน้ำเพื่อลดแรงกระทบ หากจำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำเกิน 2,700 ลบ.ม./วินาที จะเสนอให้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติพิจารณา

รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ระบุว่า สถานการณ์ปีนี้มีความละเอียดอ่อน ประชาชนหลายส่วนกังวลเหตุการณ์ซ้ำปี 2554 แต่ยืนยันว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังบริหารจัดการอย่างรอบคอบ อ่างเก็บน้ำใหญ่ยังมีช่องว่างรับน้ำรวม 681 ล้าน ลบ.ม. คาดอัตราการไหลสูงสุดที่สถานีเจ้าพระยานครสวรรค์ประมาณ 3,000 ลบ.ม./วินาที และจะทยอยระบายน้ำตามจังหวะน้ำต้นทาง เพื่อลดผลกระทบพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา

อัปเดตล่าสุด : น้ำเจ้าพระยา 6 พฤศจิกายน 2568 เวลา 06.00 น. จากกรมชลประทาน

สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์

• น้ำไหลผ่าน 2,988 ลบ.ม./วินาที
• ระดับน้ำ 24.79 ม. (ต่ำกว่าตลิ่ง 87 ซม.)
• แนวโน้มเพิ่มขึ้น

สถานี C.13 เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท

• น้ำไหลผ่าน 2,700 ลบ.ม./วินาที
• ระดับน้ำเหนือเขื่อน 17.07 ม.
• ระดับน้ำท้ายเขื่อน 16.31 ม. (ต่ำกว่าตลิ่ง 3 ซม.)
• แนวโน้มเพิ่มขึ้น

กรมชลประทานระบุ ยังเน้นหน่วงน้ำตอนเหนือเขื่อนและรับน้ำเข้าคลองชลประทานทั้งสองฝั่ง หากน้ำจากตอนบนเพิ่มจนต้องปรับการระบาย จะประกาศแจ้งเป็นระยะ

พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังผลกระทบจากระดับน้ำเพิ่มขึ้น

อยุธยา : คลองบางบาล / ต.หัวเวียง อ.เสนา / ต.ลาดชิด–ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ (ติดแม่น้ำน้อย)
สิงห์บุรี : วัดสิงห์ / วัดเสือข้าม อ.อินทร์บุรี / อ.เมืองสิงห์บุรี / อ.พรหมบุรี
อ่างทอง : คลองโผงเผง / วัดไชโย / อ.ป่าโมก
ชัยนาท : ต.โพนางดำ อ.สรรพยา


แนวโน้มฝน 5–10 พ.ย. 2568

5-6 พ.ย. ภาคเหนือ-กลาง-ตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ จากร่องมรสุม
7-10 พ.ย. พื้นที่ไทยตอนบนจะมีฝนเพิ่มขึ้นมาก และอาจมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
หลัง 10 พ.ย. ปริมาณฝนจะลดลง

กรุงเทพฯ และ ปริมณฑล

5-6 พ.ย. และ 11 พ.ย. ฝนราว 20-40% ของพื้นที่
7-10 พ.ย. ฝน 40-70% และอาจมีฝนหนักบางช่วง

กทม. เร่งสูบน้ำต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำและเสี่ยงน้ำรอระบาย เช่น แจ้งวัฒนะ ในช่วงฝนหนักอาจต้องชะลอการระบายน้ำชั่วคราว

⚠️ สรุปภาพรวม สั้นๆ ดังนี้

พายุ “คัลแมกี” ส่งผลต่อไทยตอนบน 7–9 พ.ย.
เขื่อนใหญ่หลายแห่งมีระดับน้ำสูง ต้องบริหารจัดการเข้มงวด
หน่วยงานยืนยันควบคุมน้ำได้ แต่ให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงเป็นรายจุด
ประชาชน–เกษตรกรควรเตรียมพร้อมป้องกันความเสียหายจากฝนหนัก

ฝนจะมากขึ้น น้ำในเขื่อนก็สูงขึ้นเช่นกัน จึงควรติดตามข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือช่วงวันที่ฝนตกหนักเป็นพิเศษ

#พรรคเพื่อไทย #สถานการณ์น้ำ #ปริมาณน้ำในเขื่อน #พายุคัลแมกี