‘โฆษกเพื่อไทย’ จี้ ‘อนุทิน’ เป็นนายกฯ แล้ว อย่าหนีการตรวจสอบ เดินหน้าสู่การซักฟอก แนะควรเคารพกระบวนการนิติบัญญัติด้วย

วันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ โฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ผ่านเฟสบุ๊คถึงกรณีที่รัฐบาลอนุทิน ชาญวีรกูล เพิ่งเข้ามาทำงาน ฝ่ายค้านไม่ควรยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะยังไม่ได้ทำอะไรผิดพลาด

.

นายศึกษิษฏ์ ระบุว่า ที่ท่านนายกฯ ประกาศว่าจะยุบสภา เพราะอ้างว่าเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย หรือพึ่งเข้ามาบริหารงานไม่นาน ยังไม่ได้ทำอะไรผิดพลาด เป็นเรื่องที่ขัดแย้งกันเอง ถ้าท่านยืนยันว่าการบริหารราชการแผ่นดินที่ผ่านมาไม่ได้มีเรื่องบกพร่องและทำทุกอย่างถูกต้อง ท่านก็ต้องพร้อมให้ฝ่ายนิติบัญญัติได้ทำหน้าที่ในการตรวจสอบ และเราก็พร้อมที่จะให้รัฐบาลได้มีโอกาสอธิบายและชี้แจงตัวเอง และถ้าท่านสามารถทำได้ดี เราก็เชื่อว่าท่านจะได้รับความไว้วางใจจากฝ่ายนิติบัญญัติให้บริหารราชการแผ่นดินต่อไป

.

ซึ่งเราเห็นว่าภายใต้การบริหารงานราชการของท่านในระยะเวลา 2 เดือนนี้  ได้สร้างความกังวลและข้อสงสัยให้กับประชาชนในหลายประเด็น การที่ท่านนายกไปพูดว่า “ประเทศไทยมีการรุกล้ำอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน” จะไม่ทำให้ประเทศสูญเสียดินแดนไปใช่ไหม?

.

การที่ท่านไปประกาศว่า “ไม่สนใจเรื่องการเจรจาภาษีแล้ว”  จนกระทั่งตอนนี้สหรัฐอเมริกาก็ประกาศหยุดเจรจา และคุยกับเราแค่ผ่านประเทศที่ 3 เราอยู่บนเรดาร์ในสายตานานาชาติแบบไหน?

.

การที่ท่านไปเซ็น MOU Rare earth โดยที่ไม่มีประชาชนอยู่ในสมการ จนทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครเห็นเอกสารความเห็นของหน่วยงานราชการ และหลังจากเซ็นเอกสารกับประเทศมหาอำนาจแล้ว ให้สัมภาษณ์ว่าไม่ได้มีผลอะไร แต่ในเอกสารกลับให้ผลประโยชน์ไปมากกว่าประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ อันนี้ประเทศเสียหายไหม?

.

การที่เร่งรัดเซ็นเอกสารผูกมัดโครงการ MotoGP 4,000 ล้านบาท ที่มีคู่สัญญาอยู่บ้านเลขที่เดียวกับนายกฯ ในขณะที่ประชาชนจมน้ำอยู่เป็นล้านไร่ และโครงการอยู่บนที่ดินที่มีข้อพิพาทอยู่กับรัฐ จับรัฐฯเป็นตัวประกัน ถือว่าเป็นการเอื้อผลประโยชน์ไหม?

.

การโยกย้ายข้าราชการระดับสูงจำนวนมาก การตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อเรียกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มาเข้าแถวของบประมาณ เรื่องนี้เรียกว่าใช้อำนาจรัฐเพื่อเอื้อประโยชน์ เตรียมเลือกตั้งหรือไม่? 

.

ปัญหาเรื่องคอลเซนเตอร์หรือสแกมเมอร์ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง รัฐมนตรีที่นายกฯ เป็นคนแต่งตั้งถูกกล่าวหาว่ามีความเกี่ยวข้องยังไม่มีความชัดเจน และเรื่องอื่นๆที่สังคมมองเห็นแต่ท่านอาจจะเลือกที่จะมองไม่เห็น 

.

นายศึกษิษฏ์ ระบุในตอนท้ายว่า จึงเป็นหน้าที่ของพรรคฝ่ายค้านที่ต้องตรวจสอบ และนายกรัฐมนตรีก็ควรแสดงออกถึงภาวะผู้นำและเคารพต่อกระบวนการตรวจสอบของฝ่ายนิติบัญญัติในระบอบประชาธิปไตย เมื่อท่านได้มาเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ก็อย่าหนีการตรวจสอบ เดินหน้าเข้าสู่การอภิปราย ใช้โอกาสนี้คลายข้อสงสัยของประชาชนดีกว่า

.

#พรรคเพื่อไทย #ศึกษิษฏ์ศรีจอมขวัญ  #อภิปรายไมม่ไว้วางใจ