ขจิตร ชัยนิคม สส.บัญชีรายชื่อและประธานคณะกรรมาธิการร่างพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ได้เสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฏรในวาระ 2-3  โดยร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมีรายละเอียดที่สำคัญ ดังนี้

เนื่องจากประเทศไทยมีการประกาศ พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 และแก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2559 สำหรับการให้ความช่วยเหลือตามกฎหมาย จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ

  1. ผู้เสียหายในคดีอาญา หรือเหยื่ออาชญากรรม   โดยบุคคลซึ่งได้รับความเสียหายถึงแก่ชีวิต ร่างกาย หรือจิตใจ เนื่องจากการกระทำความผิดอาญาของผู้อื่น โดยตนมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด
  2. จำเลยในคดีอาญา หรือที่เรียกว่า แพะ  คือบุคคลซึ่งพนักงานอัยการฟ้องต่อศาลว่าได้กระทำความผิดอาญาและถูกจำคุกในระหว่างพิจารณาคดี  ต่อมาได้มีคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่า ข้อเท็จจริงฟังเป็นอันยุติว่าจำเลยมิได้เป็นผู้กระทำความผิด

 

จากการดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้วพบว่า

  1. บุคคลผู้บริสุทธิ์ถูกจับกุมดำเนินคดีเป็นผู้ต้องหา และถูกควบคุมในชั้นสอบสวน ต่อมาจับผู้กระทำความผิดแท้จริงและปล่อยตัวผู้นั้นไป ซึ่งไม่ได้รับการเยียวยา เนื่องจากไม่มีกฎหมายบัญญัติรับรองสิทธิไว้
  2. จำเลยหรือแพะ ในคดีอาญา ไม่ได้รับการเยียวยา ครอบคลุมในชั้นสอบสวน  เนื่องจากพระราชบัญญัติฉบับเดิมกำหนดให้ช่วยเหลือเยียวยาเฉพาะในชั้นพิจารณาของศาลเท่านั้น
  3. ประชาชน ไม่ทราบสิทธิ ทำให้ผู้เสียหายและจำเลยยื่นคำขอเกินระยะเวลา 1 ปี 
  4. เมื่อผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญาที่ตกเป็นเหยื่อในกระบวนการยุติธรรม ได้รับการอนุมัติเงินช่วยเหลือเยียวยาแล้ว จะต้องยื่นคำขอรับเงินอีกครั้งเพื่อแสดงตน ทำให้เป็นภาระแก่ประชาชนและได้รับเงินล่าช้า
  5. การที่ศาลสุดท้าย พิพากษายกฟ้องโดยยกประโยชน์ แห่งความส่งสัย ส่วนใหญ่จะมีมติไม่จ่ายเงินเยียวยา แต่ด้วยประชาชนถูกจำคุกหรือจำกัดอิสรภาพแล้ว จึงเกิดข้อร้องเีรยนไปยังรัฐสภาเพื่อให้การช่วยเหลือตามหลักสิทธิมนุษยชน
  6. ได้รับการเยียวยาเฉพาะทางการเงินยังไม่ครอบคลุมตามมาตรฐานสากล

 

ประเภทของค่าตอบแทนที่ผู้เสียหายได้รับ

1. ค่ารักษาพยาบาล: จ่ายเท่าที่จ่ายจริง ไม่เกินจำนวนที่กำหนด (อ้างอิงตามกฎหมายเก่าคือ 30,000 บาท)

2. ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพ: จ่ายเท่าที่จ่ายจริง ไม่เกินจำนวนที่กำหนด (อ้างอิงตามกฎหมายเก่าคือ 20,000 บาท)

3. ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้: จ่ายตามอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในท้องที่ แต่ไม่เกิน 1 ปี 

4. ค่าตอบแทนความเสียหายอื่น: พิจารณาโดยคณะกรรมการฯ ตามความเหมาะสม

 

ขั้นตอนการขอรับค่าตอบแทน

1. การยื่นคำขอ: ผู้เสียหายหรือทายาทจะต้องยื่นคำขอพร้อมหลักฐาน ณ สถานีตำรวจ, กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ, สำนักงานยุติธรรมจังหวัด หรือสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ 

2. ระยะเวลาการขอรับสิทธิ์: ต้องยื่นภายใน 1 ปีนับแต่วันที่ผู้เสียหายทราบถึงการกระทำความผิด หรือนับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด (กรณีจำเลย)

 

น่วยงานที่รับผิดชอบ 

 

-สำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา (ใน กทม.): และ สำนักงานยุติธรรมจังหวัด (ในต่างจังหวัด) เป็นผู้พิจารณาและลงนามสั่งจ่าย

 

ช่องทางการติดต่อ 

สายด่วนคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพหมายเลข 1111 กด 77: สำหรับการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

 

ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎร ได้เห็นชอบกับร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ และเห็นชอบกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการ และส่งให้วุฒิสภา พิจารณาตามลำดับต่อไป

.

#พรรคเพื่อไทย