วันนิวัติ สมบูรณ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นอภิปรายระหว่างการแถลงนโยบายรัฐบาลของ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยระบุว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญโจทย์แรงงานครั้งใหญ่ แต่รัฐบาลชุดนี้กลับไม่จริงจังกับการปฏิรูปอาชีวศึกษาและแรงงาน ซึ่งเป็น “โอกาสของคนไทย” ที่กำลังจะสูญหายไป

● วิกฤติแรงงาน-การศึกษา ที่รัฐบาลมองข้าม

วันนิวัติชี้ว่า เศรษฐกิจโตต่ำ รถยนต์ไฟฟ้าใช้อะไหล่น้อยลงถึง 10 เท่า ปัญญาประดิษฐ์และระบบอัตโนมัติกำลังเข้ามาแทนแรงงานมนุษย์ ขณะที่แรงงานไทยกว่าครึ่งอยู่นอกระบบและมีรายได้ต่ำกว่าแรงงานในระบบถึง 2 เท่า อีกทั้งปี 2576 ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมสูงวัยระดับ “super-aged” ประชากรสูงอายุถึง 28%

“ถ้าเราไม่ลงทุนกับ ‘คน’ หรือทุนมนุษย์ในวันนี้ อีกไม่กี่ปี ประเทศไทยจะเข้าสู่วิกฤติซ้อนวิกฤติ”

วันนิวัติ ย้ำว่า นโยบายด้านการศึกษาในคำแถลงของรัฐบาลภูมิใจไทยถูกกล่าวถึงเพียงสั้น ๆ เพียงประโยคว่า “รัฐบาลจะดำเนินการให้คนไทยทุกช่วงวัยเข้าถึงสิทธิการศึกษา” ซึ่งสะท้อนชัดว่าไม่ได้ให้น้ำหนักกับการศึกษาและแรงงานเท่าที่ควร ทั้งที่เป็นหัวใจการพัฒนาประเทศ

● ช่องว่างทักษะอาชีวะ-แรงงานทักษะสูง

วันนิวัติระบุว่า ขณะนี้นักเรียนอาชีวะคิดเป็นหนึ่งในสามของมัธยมปลาย แต่เรียนจบแล้วกลับทำงานไม่ตรงสาย รายได้ต่ำ และถูกแทนที่ด้วยแรงงานต่างชาติ ทั้งที่แผนพัฒนา EEC ต้องการแรงงานทักษะเฉพาะกว่า 560,000 ตำแหน่งใน 5 ปีข้างหน้า และ BOI คาดการณ์ว่าไทยต้องการแรงงานทักษะสูงกว่า 1.08 ล้านตำแหน่งในปี 2025–2029 แต่จนถึงวันนี้ เรายังไม่เห็นคำตอบจากรัฐบาลว่าจะทำให้เด็กไทยไปยืนตรงนั้นได้อย่างไร

ในทางตรงกันข้าม รายงาน สมศ. ยังชี้ว่าสถานศึกษาอาชีวะกว่า 900 แห่ง หลายแห่งยังไม่ถึงเกณฑ์มาตรฐาน ต้องเร่งยกระดับ

● เสนอรัฐบาลสานต่อ “VOC-UP”

วันนิวัติ ยกตัวอย่างโครงการ VOC-UP (Vocational School Upskill) ที่รัฐบาลเพื่อไทยริเริ่ม โดย ผศ.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เชื่อมตรงนักเรียนอาชีวะกับสถานประกอบการในอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น EV ดิจิทัล การบิน โลจิสติกส์ และชีวภาพ

“โครงการนี้คือหลักประกันว่าน้อง ๆ อาชีวะจะได้เรียนรู้ทักษะที่โลกต้องการ และฝึกงานในสถานประกอบการจริง พร้อมเข้าสู่ตลาดงานแห่งอนาคต”

วันนิวัติ ย้ำว่า พรรคเพื่อไทยยินดีหากรัฐบาลสานต่อโครงการนี้ แม้จะเปลี่ยนชื่อหรือเคลมเป็นผลงานตนเอง แต่กังวลว่าด้วยเวลาที่จำกัดและความใส่ใจที่น้อยนิด อาจไม่เกิดผลจริง

โดย วันนิวัติ ทิ้งท้ายว่า หากรัฐบาลชุดนี้ไม่ทำ พรรคเพื่อไทยจะกลับมาสานต่อหลังการเลือกตั้งใหญ่ปีหน้า

“พรรคเพื่อไทยจะทำให้ดู และจะไม่ใช่แค่ VOC-UP เท่านั้น แต่รวมถึง พ.ร.บ.การศึกษา ที่ท่านดองไว้ และ พ.ร.บ.อาชีวศึกษา ที่ไม่เคยอัปเดตมากว่า 15 ปี”

—————————

ด้าน เทอดชาติ ชัยพงษ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงราย พรรคเพื่อไทย ก็อภิปรายในประเด็นการศึกษาระหว่างการแถลงนโยบายรัฐบาล โดยชี้ว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการศึกษาเลย

“เป็นเพียงแค่รัฐบาล 4 เดือน ที่มุ่งเน้นเรื่องการเมืองเป็นสำคัญ นี่จึงถือเป็นเรื่องสูญเปล่าของการบริหารราชการแผ่นดิน”

● ตำหนิผลงานภูมิใจไทยในกระทรวงศึกษาฯ

เทอดชาติยกตัวอย่างว่า แม้ในสมัยรัฐบาลเศรษฐา พรรคภูมิใจไทยก็ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แต่ก็ไม่เห็นผลงานเด่นชัด พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติที่ควรปรับปรุงให้ทันสมัยก็ยังไม่ถูกผลักดัน

เขายังตั้งข้อสังเกตว่า การที่รัฐบาลชุดนี้ไม่ให้ความสำคัญกับการศึกษา อาจเพราะเห็นว่าเวลาไม่เพียงพอ หรือไม่ต้องการให้คนไทยมีคุณภาพเพราะอาจทำให้ “ปกครองยากขึ้น”

● ข้อกังวลร่างกฎหมายใหม่

แม้จะมีการเตรียมเสนอร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่ แต่เทอดชาติวิจารณ์ว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวยังขาดสาระสำคัญ เช่น การผลิตและคัดกรองครูที่มีคุณภาพ การกำหนดมาตรฐานพัฒนาครู การปรับค่าตอบแทนและแรงจูงใจ รวมถึงการจัดการศึกษาเพื่อสร้างคนที่สอดคล้องกับความต้องการในศตวรรษที่ 21

#พรรคเพื่อไทย 
#อภิปรายนโยบาย