ญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรติดตามและหาผู้รับผิดชอบกรณีถนนสามเสนยุบตัว โดยขอให้ส่งเรื่องไปยังคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการยกระดับมาตรฐานการก่อสร้าง มาตรฐานความปลอดภัย การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ

พรรคเพื่อไทย นำโดย นายพชร จันทรรวงทอง สส.นครราชสีมา ในฐานะผู้เสนอญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรติดตามและหาผู้รับผิดชอบกรณีถนนสามเสนยุบตัว โดยขอให้ส่งเรื่องไปยังคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการยกระดับมาตรฐานการก่อสร้าง มาตรฐานความปลอดภัย การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ และการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างอย่างเป็นระบบ พร้อมด้วย นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ สส. บัญชีรายชื่อ ทพญ.ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ นายเอกพร รักความสุข สส.บัญชีรายชื่อ และ นางสาวขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ ร่วมอภิปราย 

.

นายพชร จันทรรวงทอง กล่าวว่า เนื่องจากเมื่อเช้าวันที่ 24 กันยายน 2568 เกิดเหตุถนนสามเสนยุบตัวลงกว่า 50 เมตรกลางเมืองกรุง โชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิต และสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่นของพี่น้องประชาชนในวงกว้าง หากอุโมงค์รถไฟฟ้านี้ซ่อมเสร็จแล้ว รัฐบาลจะเรียกความเชื่อมั่นให้พี่น้องประชาชนกล้ามาใช้บริการรถไฟฟ้าสายดังกล่าวได้อย่างไร 

.

นายพชร กล่าวต่อว่าภาพหลุมยุบขนาดใหญ่ที่ปรากฎต่อหน้าสายตาคนไทยและทั่วโลก ไม่ใช่ภัยพิบัติทางกายภาพ แต่คือหลุมดำแห่งความไว้วางใจที่ดูดกลึนศรัทธาและความไว้วางใจของรัฐบาลชุดนี้  วันนี้ตนพูดในฐานะตัวแทนประชาชน ถามหาความรับผิดชอบที่ดูเหมือนยุบหายไปพร้อมกับพื้นถนน  เพราะฉะนั้น จึงขออภิปรายในเรื่องนี้ 3 ประเด็น ซึ่งเป็นคำถามที่พี่น้องต้องการคำตอบ

.

ประเด็นที่ 1 ทำไมถนนถึงยุบตัว  ซึ่งขณะนี้แน่ชัดว่า ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่สิ่งที่ชัดกว่าคือ สสารไม่มีทางสูญหาย แน่นอนกว่าการทรุดตัวของดินเป็นฝีมือนุษย์อย่างแน่นอน จากคลิปวิดิโอที่เห็นดินทรุดลงใต้ดิน ทำให้มีข้อสัณนิษฐานว่าจะต้องมีรูรั่วอยู่ด้านล่าง และถ้าพิจารณาดูโครงสร้างพบว่า โครงสร้างที่อ่อนแอที่สุดในโครงสร้างนี้คือรอยต่ออุโมงค์รถไฟฟ้ากับตัวสถานีที่กำลังก่อสร้างอยู่ และถ้ารอยต่อนี้ไม่ได้มาตรฐาน เกิดรูรั่ว ดินเป็นหมื่นๆ คิวก็จะไหลเข้าไปในรูหายไปอย่างรวดเร็ว

.

ตลอดสัปดาห์ รัฐบาลพยายามบอกสังคมว่านี่คืออุบัติเหตุและบอกประชาชนให้รอการสอบสวนก่อน บางคนก็บอกว่าถนนยุบตัวอาจเกิดจากท่อประปาแตก ทำให้น้ำซัดดินยุบ แต่เมื่อวานที่ประชุม กมธ.ก่อสร้าง  แต่ในคณะกรรมาธิการฯ เมื่อวานมีตัวแทนจากการประปานครหลวงมายืนยันว่า เป็นไปไม่ได้ที่ท่อประปาจะแตกและทำให้ดินยุบลึกลงไปถึง 20-30เมตร แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือตรงจุดเชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้าตรงจุดเชื่อมต่อเกิดรอยรั่วจนทำให้ดินโคลนกว่าหมื่นคิวไหลทะลักเข้าไปในอุโมงค์  และโพรงนั้นเองที่ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างด้านบนนั้นพังลงมา 

.

และในที่ประชุม กมธ.วิสามัญฯ ตัวแทนของ รฟม. ก็ยอมรับว่า ความเสียหายเกิดจากสิ่งก่อสร้างอย่างแน่นอน แต่ในที่ประชุมก็แปลกใจ ว่าบริษัทที่ปรึกษาโครงการกลับยืนยันว่าการก่อสร้างเป็นไปตามมาตรฐานชั้นสูง 

.

ผมนั่งฟังก็งง และสงสัยว่าถ้าทุกอย่างก่อสร้างตามมาตรฐานจริง ทำไมอุโมงค์นั้นจึงถล่มลงมาอย่างที่ทุกคนเห็น นี่คือมาตรฐานการก่อสร้างที่รัฐบาลมอบให้กับชีวิตและทรัพย์สินประชาชนใช่หรือไม่ 

.

 ประเด็นที่ 2 ใครคือผู้รับผิดชอบค่าเสียหาย เงินภาษีประชาชนหรือกำไรผู้รับเหมา ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นมีมูลค่าน่าจะนับพันล้านบาท ไม่นับความเสียหายทางเศรษฐกิจที่ต้องหยุดกิจการไปอย่างไม่มีกำหนด คำถามคนไทยที่อยากถาม นรม.คือ ใครคือผู้รับผิดชอบความเสียหายนี้ นรม. จะเอาภาษีจากหยาดเหงื่อนมาอุดรอยรั่วจากความประมาทเลินเล่อของผู้รับเหมาเอกชนใช่หรือไม่ ขณะนี้รัฐบาลเริ่มกระบวนการไล่เบี้ยค่าเสียหายจากผู้รับเหมาแล้วหรือยัง หรือทำเพียงแค่เร่งซ่อมแซมเพื่อให้เรื่องจบๆ และทิ้งภาระไว้กับภาษีพี่น้องประชาชน

.

การรีบซ่อมแซมเป็นเรื่องที่ดี แต่การรีบซ่อมโดยใช้งบประมาณแผ่นดินโดยที่ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบที่แท้จริง ถือเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่อันตราย และส่งสัญญาณว่า เอกชนจะสร้างความเสียหายอย่างไรก็ได้และปล่อยประชาชนรับผิดชอบแทน นี่คือความยุติธรรมที่รัฐบาลชุดนี้มอบให้พี่น้องประชาชนใช่หรือไม่

.

ประการที่ 3 จากที่อธิบายทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว แต่สิ่งที่ประชาชนกังวล เพราะว่าโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (สายสีม่วงใต้) โดยมี บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้าง  ซึ่งผู้ถือหุ้นรายใหญ่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนายกรัฐมนตรี และไม่กี่วันก่อน นักข่าวพยายามซักถามถึงความรับผิดชอบหรือความเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับบริษัท ชิโน-ไทย ตรงไปตรงมาเป็นประโยชน์กับสาธารณะ แต่สิ่งที่ประชาชนได้รับกลับกลายเป็นการเดินหนี และความเงียบงันที่ก้องดังไปทั่วไปประเทศ 

.

และมากกว่านั้น สัปดาห์่ก่อน ในที่ประชุมสภา วิปฝ่ายค้านพยายามเสนอญัตติถนนทรุดนี้ต่อสภาผู้แทนอย่างเร่งด่วน เพื่อหาทางออกร่วมกัน กลับเกิดเหตุการ์สภาล่มอย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งสภาฯ ฝ่ายรัฐบาลที่ที่เป็นองค์ประชุมทั้งวัน แต่พอใกล้ถึงวาระญํตติด่วน กลับหายตัวไปอย่างไม่แสดงองค์ประชุมจนเกิดสภาล่ม แม้ท่านนายกฯ จะได้มาตอบกระทู้นี้ในตอนเช้า แต่ก็ไม่อาจห้ามข้อกังวลของพี่น้องประชาชนได้ เพราะพฤติการณ์เหล่านี้ ไม่ว่าจะเดินหนีสื่อหรือทำให้สภาล่ม ท่านอาจมองว่าเป็นความบังเอิญหรือหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ จึงทำให้สังคมเกิดข้อสังสัยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  ทำให้เกิดข้อสังเกตระหว่างความสัมพันธ์ของนายกฯ กับบริษัทรับเหมาก่อสร้างใช่หรือไม่ นี่คือเรื่องประโยชน์ทับซ้อนที่ท่านนายกฯ ต้องแสดงออกให้ชัดเจนต่อคนทั้งประเทศ มิเช่นนั้น จากถนนยุบตัวจะลามไปถึงหลุมยุบในใจพี่น้องประชาชนตลอดไป

.

เหตุการณ์ถนนสามเสนยุบครั้งนี้ไม่ใช่วิกฤตโครงสร้างพื้นฐานธรรมดา แต่คือบททดสอบธรรมาภิบาลความโปร่งใสและความรับผิดชอบของรัฐบาลชุดนี้ 

.

ขอให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ที่มีตัวแทนจากภาคประชาชน สภาวิศวกร องค์กรอิสระ เพื่อร่วมหาสาเหตุที่แท้จริงและผู้รับผิดชอบ

.

นายกรัฐมนตรี ต้องชี้แจง ตอบทุกข้อกังขาของสังคม โดยเฉพาะประเด็นความสัมพันธ์กับบริษัท ชิโน-ไทย

.

รัฐบาลต้องประกาศให้มั่นว่า จะไม่ใช่งบประมาณแผ่นดิน ซึ่งเป็นภาษีประชาชนไปซ่อมแซมความเสียหายครั้งนี้

.

ดังนั้น จึงขอให้สภาผู้แทนฯ ติดตามหาผู้รับผิดชอบกรณีถนนสามเสนยุบตัว โดยส่งเรื่องให้ยัง กมธ.วิสามัญฯ ก่อสร้าง เพื่อติดตามความคืบหน้า 

.

“แม้ถนนจะยุบ แต่พี่น้องประชาชนเห็นมียังมี สน.สามเสนที่ไม่ได้ยุบตัวลงไปด้วย ต้องขอบคุณฟ้าดิน เพราะว่า เผื่อบางทีอาจจะต้องเอามาช่วยท่าน รมว.ดีอีป้ายแดง ไปจับเพื่อนสมาชิกที่เสนอสินบน 40 ล้านด้วย” นายพชร กล่าวทิ้งท้าย

.

นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ สส. บัญชีรายชื่อ ห่วงอาคาร สน.สามเสนและตึกร้านค้าพาณิชย์ที่อยู่สองข้างทางจะเกิดปัญหาดินทรุดตัว หรือทรุดถล่มหรือไม่ ซึ่ง รฟม. จะต้องรีบตรวจสอบอย่างเร่งด่วน ควรจะต้องเปิดโอกาสให้วิศวกรภายนอกเข้าไปมีส่วนร่วมตรวจสอบ 

.

ทพญ.ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ กล่าวว่าเมื่อเช้าเข้ามาฟังการตอบกระทู้เรื่องถนนสามเสนจากท่านนายกรัฐมนตรี ได้ยินคำตอบว่า “ผมกับบ.ชิโน-ไทยตอนนี้ เหมือนคนไม่รู้จักกัน และพร้อมให้รัฐมนตรีคมนาคมตรวจสอบเรื่องนี้เต็มที่”   ซึ่งตนเองขอสนับสนุนท่านนายกฯ ให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบที่มีอิสระ ควรมีผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโครงสร้างพื้นฐาน ตัวแทนด้านการเงินการคลังจากภาครัฐ มีองค์กรอิสระภาคประชาชน และไม่ควรให้มีบุคคลใดที่เป็นผู้มีส่วนได้เสียในโครงการนี้แฝงตัวเข้ามาร่วมเป็นคณะกรรมการ ไม่ว่าจะเป็นผู้รับเหมา จนท.รัฐ หรือกลุ่มทุนที่เกี่ยวข้อง เพราะหากคณะกรรมการชุดนี้ ยังมีแต่คนผูกพันกับโครงการ การสอบสวนก็จะเป็นแค่พิธีกรรมปัดฝุ่นแฟ้ม ไม่ใช่การค้นหาความจริงที่ประชาชนรอคอย

.

เอกพร รักความสุข สส.บัญชีรายชื่อ อภิปรายสะท้อนความผิดปกติจากคำชี้แจงของ รฟม. เครื่องมือที่ใช้วัดดิสไลด์ ไม่มีการอธิบายผลเกี่ยวกับดินสไลด์โดยอ้างว่า การก่อสร้างอุโมงและสถานีเสร็จสิ้นเป็นส่วนใหญ่แล้ว แต่ในช่วงของการทำงานจะต้องดูแลเรื่องสถาปัตยกรรม เอาคนเข้าไปปรับปรุงให้สะอาดเรียบร้อยและคนเหล่านั้นหายไปไหนในช่วงเวลาเกิดเหตุ ในช่วงตี 4-5 เริ่มมีน้ำในบริเวณถนน ตอนนั้นคนงานทั้งหมดไปอยู่ที่ไหน สิ่งที่สงสัยวันนี้เราสามารถดูจากเครื่องมืวัดแรงดันน้ำใต้ดิน  ซึ่งจะเป็นเครื่องมือที่จะสามารถดูแรงดันน้ำใต้ดินว่ามีแรงดันเท่าไร จะต้องมีรายงานนี้ปรากฎเพราะมีการปักเครื่องวัดนี้ทุก 500 เมตร และบริเวณดังกล่าวเป็นบริเวณสำคัญ แต่กลับไม่มีการพูดเรื่องนี้ในที่สาธารณะ แต่กลับพูดแถลงข่าวว่าเกิดจากปัญหาน้ำใต้ดิน ซึ่งจากการสอบถามผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมทราบว่าชั้นก่อสร้างใต้ดินในกรุงเทพฯ แทบทั้งหมดเป็นชั้นดินเหนียวจึงทำให้ก่อสร้างใต้ดินได้ตลอดมาไม่มีปัญหา แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ จึงมีแค่ประเด็นว่ามันจะต้องเกิดรูรั่วอุโมงค์ขึ้นมา คำถามคือ รอยรั่วเหล่านี้ ไม่มีการจัดการแก้ไขหรืออย่างไร ดังนั้น คนที่คุมงานครั้งนี้จะต้องรู้แล้วว่ามีรอยรั่ว แต่ไม่เปิดเผย และที่สำคัญสุดคือไม่มีการเตือนภัยใดๆ ในเหตุครั้งนี้

.

ด้านนางสาวขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ อภิปรายฝากไปยัง กมธ.ที่จะตั้งขึ้นใน 3 ประเด็น ได้แก่

.

ประเด็น 1 เรื่องสอบหาผู้ต้องรับผิดชอบ  โดยมีประเด็นที่ต้องค้นหาคือ

.

-ทำไมการสอบสวนให้ดำเนินการโดยเจ้าของโครงการ (หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง) แบบนี้มันจะมีกระบวนการที่เป็นอิสระเพียงพอหรือไม่?

.

 -มีการเก็บหลักฐาน ณ จุดเกิดเหตุ (เช่น ตัวอย่างดิน, สภาพอุโมงค์, โครงสร้างใต้พื้น) ไว้หรือไม่? 

.

 -จะมีการเปิดเผยรายงานการสอบสวนต่อสาธารณะหรือไม่  (รายงานฉบับเต็ม, ข้อสรุป, ชื่อผู้รับผิดชอบ)

.

 -ควรให้มีผู้ตรวจอิสระ (จากมหาวิทยาลัย, สมาคมวิชาชีพ, วิศวกรอิสระ) มาร่วมสอบสวนควบคู่ เพื่อเป็นการ “ตรวจสอบซ้ำ” หรือไม่

.

 – ควรให้มีกลไกคุ้มครองพยาน สถานที่ตรวจสอบไม่ถูกแทรกแซง หรือถูกดัดแปลงภายหลัง หรือไม่

.

ประเด็น 2 เรื่องมาตรการลงโทษ เยียวยา และป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นในอนาคต โดยมีประเด็นคำถามคือ

.

-ถ้าพบว่าเป็นความผิดของผู้รับเหมา จะมีบทลงโทษตามกฎหมายอะไรบ้าง 

.

-หากเป็นการละเลยหน้าที่ของหน่วยงานรัฐ ต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยหรือทางวินัยอย่างไร 

.

– มีระยะเวลารับประกันงาน (warranty) ที่ผู้รับเหมาต้อฝรับผิดชอบซ่อมแซมโดยไม่ใช้งบประมาณของรัฐหากเกิดความเสียหายหลังเปิดใช้งานแล้วหรือไม่

.

– ให้หน่วยงานตรวจสอบอิสระ (องค์กรอิสระภาครัฐ/เอกชน) สามารถยื่นฟ้องทางแพ่งแทนประชาชนได้ หรือไม่

.

#พรรคเพื่อไทย #ถนนสามเสน