นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่เชียงใหม่ – ลำพูน เปิดโครงการสร้างความปลอดภัยในการใช้ถนน พร้อมติดตามการยกระบบคมนาคมขนส่งสาธารณะในพื้นที่
นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิด “โครงการอบจ. – ขนส่ง รวมใจ สร้างความปลอดภัยให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน และยกระดับระบบขนส่งสาธารณะจังหวัดเชียงใหม่” โดยได้กล่าวว่าจังหวัดเชียงใหม่ เป็นศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจและด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งกระทรวงคมนาคม ได้ให้ความสำคัญและขับเคลื่อนการพัฒนาระบบการขนส่งสาธารณะในจังหวัดเชียงใหม่ อาทิ โครงการพัฒนาระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน การมีส่วนร่วมขององค์การบริหาร ส่วนจังหวัดเชียงใหม่ในการพัฒนาระบบการขนส่งสาธารณะ การส่งเสริมให้มีการนำ รถโดยสารสาธารณะที่ใช้พลังงานไฟฟ้า หรือ EV BUS มาให้บริการประชาชน การพัฒนาโครงข่ายระบบขนส่งสาธารณะให้ครอบคลุมไปยังจุดสำคัญ แหล่งท่องเที่ยว เชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อกับท่าอากาศยาน สถานีขนส่งผู้โดยสาร สถานีรถไฟ หรือ Feeder ให้เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรมให้กับจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งปัจจุบันองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งรถ โดยสารประจำทางหมวด 1 เส้นทางสายที่ 18 สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงใหม่ แห่งที่ 2 – อนุสาวรีย์ครูบาเจ้าศรีวิชัย และสายที่ 20 สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัด เชียงใหม่ แห่งที่ 2 – ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ โดยจะนำรถโดยสารประจำทาง แบบEV Bus มาใช้ในทั้ง 2 เส้นทาง อันจะทำให้การขนส่งสาธารณะของจังหวัด เชียงใหม่สามารถเชื่อมโยงกับการเดินทางรูปแบบอื่น เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยว เชื่อมโยงสถานที่ราชการ และจะทำให้ประชาชนสามารถเดินทางได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ลดภาระค่าใช้จ่าย
.
จากนั้นนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการพัฒนายกระดับศักยภาพระบบขนส่งสาธารณะแบบไร้รอบต่อ ล้อ – ราง ในพื้นที่จังหวัดลำพูนและจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมรับฟังสรุปผลการดำเนินงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยนายสุรพงษ์ กล่าวว่า การยกระดับการเชื่อมโยงการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ จังหวัดลำพูนและจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางทางการท่องเที่ยวและเขตเศรษฐกิจของภาคเหนือ รวมถึงเชื่อมโยงโครงข่ายทางถนนและทางราง เพื่อยกระดับศักยภาพระบบขนส่งสาธารณะแบบไร้รอยต่อ ผ่านแผนการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งสาธารณะที่สำคัญ อาทิ การพัฒนาระบบขนส่งมวลชนสาธารณะจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 3 เส้นทาง ได้แก่
.
เส้นทางที่ 1 สายสีแดง ช่วงโรงพยาบาลนครพิงค์ – แยกแม่เหียะสมานสามัคคี รวม 16 สถานี ระยะทาง 15.8 กิโลเมตร (กม.)
เส้นทางที่ 2 สายสีน้ำเงิน ช่วงสวนสัตว์เชียงใหม่ – แยกศรีบัวเงินพัฒนา รวม 13 สถานี ระยะทาง 11 กม. และ
เส้นทางที่ 3 สายสีเขียว ช่วงแยกรวมโชคมีชัย – ท่าอากาศยานเชียงใหม่ รวม 10 สถานี ระยะทาง 12 กม. รวมทั้งหมด 39 สถานี ระยะทาง 38.8 กม. ซึ่งตามแผนจะเริ่มดำเนินการเส้นทางที่ 1 สายสีแดงก่อน ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาการต่อขยายเส้นทางเพื่อเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ
.
ในส่วนของการพัฒนาเส้นทางรถโดยสารประจำทางภายในจังหวัดลำพูน ในการเชื่อมต่อการเดินทาง ด้วยระบบขนสงสาธารณะ เพื่อรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยว โดยสำนักงานขนส่งจังหวัดลำพูนได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (อบจ. ลำพูน) ในการจัดทำแนวทางการพัฒนาเส้นทางรถโดยสารประจำทางภายในจังหวัดลำพูน โดยปรับปรุงเส้นทางรถโดยสารประจำทาง ในเขตเมือง หมวด 1 ให้ตรงกับความต้องการในการเดินทางของประชาชนใน ปัจจุบัน และแก้ไขปัญหาการไม่มีสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดลำพูน โดยมีแนวทางการปรับปรุงเส้นทางรถโดยสารประจำทางในเขตเมือง หมวด 1 จำนวน 2 เส้นทาง ได้แก่
.
1.เส้นทางสนามกีฬาจังหวัดลำพูน – วัดบ่อแฮ้ว(วัดกลมธัชชายาราม) ปรับปรุงเป็น เสนทางสนามกีฬาจังหวัดลำพูน – สถานีรถไฟจังหวัดลำพูน – โรงเรียนเลาหจิตร
2.เส้นทางวงกลมสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดลำพูน – นิคมอุตสาหกรรม ปรับปรุงเป็น เส้นทางสนามกีฬาจังหวัดลำพูน – นิคมอุตสาหกรรม – ดอยติ
.
จากนั้นนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ ร่วมประชุมหารือเรื่อง “การพัฒนาและยกระดับเส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตามรอยศรัทธาจังหวัดเชียงใหม่ (เส้นทางดอยสุเทพ)” ร่วมกับนายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตามรอยศรัทธาในจังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะเส้นทางดอยสุเทพ ซึ่งเป็นเส้นทางท่องเที่ยวสำคัญที่เชื่อมโยงสถานที่ทางศาสนาและธรรมชาติอันสวยงาม เพื่อยกระดับประสบการณ์การท่องเที่ยวและส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น อาทิ สวนรุกขชาติห้วยแก้วอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยน้ำตกห้วยแก้ววัดผาลาด (สกีทาคามี)วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร
.
“การประชุมครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะเส้นทางดอยสุเทพ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ ศาสนา และธรรมชาติ อีกทั้งยังสร้างรายได้ให้ชุมชนท้องถิ่นและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน” นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวทิ้งท้าย
.
#พรรคเพื่อไทย