เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2568 ดร.นลินี ทวีสิน ประธานผู้แทนการค้าไทย ให้การต้อนรับคณะนักธุรกิจระดับสูงจากแคนาดากว่า 150 คน จาก 90 บริษัท ภายใต้ภารกิจ Team Canada Trade Mission to Thailand 2025 นำโดยนาง Sara Wilshaw หัวหน้าผู้แทนการค้าของแคนาดา พร้อมด้วย H.E. Ping Kitnikone เอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทย และคุณซานจีฟ เชาเดอรีย์ (Sanjeev Chowdhury) ที่ปรึกษาฝ่ายการพาณิชย์ประจำสถานเอกอัครราชทูตแคนาดา ซึ่งทำหน้าที่เป็นหัวเรือหลักในการประสานภารกิจครั้งสำคัญนี้

.

การเยือนครั้งนี้นับเป็นคณะนักธุรกิจแคนาดาที่เดินทางมาเยือนไทยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 30 ปี และเป็นโอกาสสำคัญในการกระชับความร่วมมือเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม โดยภาคเอกชนทั้งสองฝ่ายได้เข้าร่วมกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจ (Business Matching) มากกว่า 500 ครั้งภายในวันเดียว ซึ่งถือเป็นเวทีสร้างเครือข่ายเศรษฐกิจที่มีขนาดและคุณภาพสูงที่สุดครั้งหนึ่งระหว่างไทยและแคนาดา

.

ดร.นลินี กล่าวว่ากิจกรรม Business Matching ครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการพบปะในเชิงธุรกิจ แต่คือการเชื่อมโยงเครือข่ายพันธมิตรระหว่างภาคเอกชนของไทยกับแคนาดาอย่างลึกซึ้งและเป็นระบบ เราหวังให้การเจรจาแต่ละรอบนำไปสู่ผลลัพธ์ทางการค้า การลงทุน และความร่วมมือที่สามารถวัดผลได้จริงในระยะยาว และดิฉันขอยืนยันว่าเราพร้อมผลักดันทุกความร่วมมือที่เริ่มต้นจากเวทีวันนี้ ให้กลายเป็นความสำเร็จทางเศรษฐกิจในวันหน้า

.

ภายในวันเดียวกัน ดร.นลินีและนาง Wilshaw ยังได้หารือทวิภาคี โดยยืนยันความมุ่งมั่นร่วมกันในการเร่งรัดการเจรจาความตกลงการค้าเสรีอาเซียน–แคนาดา (ASEAN–Canada Free Trade Agreement: ACAFTA) ซึ่งจะเป็น FTA ฉบับแรกของไทยกับภูมิภาคอเมริกาเหนือ โดยไทยประกาศความพร้อมเป็นเจ้าภาพการเจรจารอบที่ 15 ณ กรุงเทพฯ ในเดือนกันยายนนี้ พร้อม “ตั้งเป้าปิดดีล ACAFTA ให้ได้ภายในปี 2568” เพื่อสร้างกลไกการค้าใหม่ที่สอดรับกับมาตรฐานสากลและพลวัตเศรษฐกิจโลก

.

“ACAFTA จะเป็นกุญแจสำคัญที่เปิดตลาดใหม่ ลดอุปสรรคทางการค้า และยกระดับผู้ประกอบการ SMEs ไทยให้แข่งขันได้ในตลาดอเมริกาเหนือ ซึ่งมีศักยภาพสูง ทั้งยังเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานระหว่างอาเซียนและแคนาดาให้แข็งแกร่งและยั่งยืนยิ่งขึ้น” ผู้แทนการค้าไทย กล่าว

.

ช่วงค่ำ ดร.นลินี ได้เข้าร่วมเป็นงานเลี้ยงรับรองคณะ TCTM ณ โรงแรมดุสิตธานี โดยมีนาง Wilshaw, H.E. Ping Kitnikone และคุณซานจีฟ เชาเดอรีย์ เข้าร่วมอย่างพร้อมหน้า ดร.นลินีกล่าวต้อนรับว่า “ประเทศไทยคือประตูสู่ภูมิภาคอินโด–แปซิฟิก และเป็นฐานยุทธศาสตร์ของแคนาดาในการขยายธุรกิจสู่ตลาดเอเชีย” พร้อมเปิดเผยว่าไทยติดอันดับ 10 จุดหมายการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ตามดัชนี FDI Confidence Index ปี 2025 และเป็นอันดับ 5 ด้านความเชื่อมั่นของนักลงทุน

.

ดร.นลินียังได้นำเสนอแนวทางการส่งเสริมการลงทุนใน 5 สาขาหลัก ได้แก่

1. พลังงานสะอาด – เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์

2. อิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูงและเซมิคอนดักเตอร์ – ยกระดับไทยสู่ห่วงโซ่การผลิตโลก

3. ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) – สนับสนุนเป้าหมายนโยบาย “30@30”

4. บริการมูลค่าสูงและดิจิทัล – สู่การเป็นศูนย์กลางธุรกิจระดับภูมิภาค

5. เกษตรและอาหารแปรรูป – พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน

.

โดยเชิญชวนภาคธุรกิจแคนาดาเข้าร่วมลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งมีสิทธิประโยชน์ครบถ้วน ทั้งสิทธิภาษี กลไก sandbox และวีซ่าระยะยาวสำหรับผู้บริหารและนักลงทุน

.

ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา การค้าระหว่างสองประเทศมีมูลค่ารวม 3,221.93 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.82 จากปีก่อนหน้า ขณะที่การลงทุนโดยตรงจากแคนาดาในไทยอยู่ที่ 1,683 ล้านบาท ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2559

.

ประธานผู้แทนการค้าไทย ทิ้งท้ายว่า การเยือนไทยของคณะ Team Canada Trade Mission ครั้งนี้จึงนับเป็นหมุดหมายสำคัญของความสัมพันธ์ไทย–แคนาดาในยุคใหม่ ที่มุ่งเน้นความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ การค้าแบบยั่งยืน และการเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่แท้จริง ภายใต้นโยบาย “ไทยเป็นมิตร ทุกประเทศคือหุ้นส่วน” ของรัฐบาล ที่พร้อมเชื่อมโยงประเทศไทยเข้าสู่เศรษฐกิจโลกอย่างมั่นคงและมีศักยภาพ

.

#พรรคเพื่อไทย