เมื่อเวลา 20.30 น. นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ลุกขึ้นชี้แจงระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อตอบข้ออภิปรายของผู้นำฝ่ายค้าน โดยกล่าวยืนยันว่าการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 เป็นการดำเนินการภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังและความรับผิดชอบต่อสถานการณ์เศรษฐกิจที่ท้าทายและเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน

.

เขาชี้ว่า แม้การขาดดุลงบประมาณจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่รัฐบาลไม่ได้ขาดดุลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามที่ฝ่ายค้านกล่าว โดยปี 2568 ขาดดุลอยู่ที่ 4.5% ของงบประมาณ ปี 2569 ลดลงเหลือ 4.3% และจะลดลงอีกเหลือ 3.6% ในปี 2570 ก่อนจะลดลงเหลือ 3.1% ในอีก 2 ปีข้างหน้า แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการลดการขาดดุล ซึ่งเป็นผลจากการบริหารอย่างมีความรับผิดชอบ

.

พร้อมกันนี้ รัฐบาลยังตั้งงบสำหรับการชำระหนี้เงินต้นไว้ที่ 4% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตามกฎหมายในขณะนี้ และเตรียมปรับเพิ่มเพดานเป็น 5% ในปีหน้า เพื่อให้สามารถชำระหนี้ได้มากขึ้น เป็นหลักฐานของวินัยทางการคลังและเจตนารมณ์ในการบริหารประเทศอย่างมั่นคง

.

สำหรับประเด็นที่ฝ่ายค้านระบุว่ารัฐบาลสามารถใช้งบประมาณจริงได้เพียง 1 ใน 4 ของวงเงินทั้งหมด นายเผ่าภูมิยอมรับว่าเป็นความจริง เพราะงบประจำยังคงมีสัดส่วนสูง แต่ยืนยันว่ารัฐบาลได้พยายามอย่างจริงจังในการปรับลด โดยปีนี้มีการลดงบประจำลง 1.05% ทำให้เหลือสัดส่วน 70.16% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 18 ปี นับเป็นความพยายามที่จะ “เปิดช่องว่างเพื่อการลงทุน” และเตรียมพร้อมประเทศรับมืออนาคต

.

ขณะเดียวกัน รัฐบาลยังได้กระจายงบประมาณสู่ท้องถิ่น โดยจัดสรรรายได้ให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในสัดส่วน 29.43% เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี และเป็นตัวเลขที่ “สูงสุดในประวัติศาสตร์” สะท้อนถึงความตั้งใจของรัฐบาลที่จะกระจายอำนาจและทรัพยากรให้ท้องถิ่นสามารถพัฒนาตนเองได้อย่างแท้จริง

.

นายเผ่าภูมิยังกล่าวถึงการกระตุ้นภาคเศรษฐกิจภายในประเทศว่า รายได้จากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 15 ขณะที่ VAT ภายในประเทศโตติดต่อกันถึง 28 เดือน สะท้อนถึงการฟื้นตัวของภาคการบริโภคและการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน แม้ยอมรับว่าภาคการผลิตยังมีปัญหา โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ติดลบมาโดยตลอด แต่ในเดือนเมษายนที่ผ่านมาได้เริ่มกลับมาเป็นบวก เช่นเดียวกับภาคอสังหาริมทรัพย์ที่มีสัญญาณดีขึ้น

.

ในส่วนของข้อท้วงติงเกี่ยวกับ “การค้ำประกันสินเชื่อ” ที่ฝ่ายค้านระบุว่าไม่พบอยู่ในงบประมาณ นายเผ่าภูมิชี้แจงว่าเรื่องนี้จะไม่ถูกใส่ไว้ในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณโดยตรง เพราะหากใส่ไว้จะทำให้งบประมาณขาดความยืดหยุ่น แต่รัฐบาลยังสามารถใช้เครื่องมืออื่น เช่น มาตรา 28 ของ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง หรือวิธีการจัดสรรงบในรูปแบบอื่น เพื่อดำเนินการในเรื่องนี้ได้ โดยย้ำว่า “เห็นตรงกันว่าการค้ำประกันสินเชื่อเป็นสิ่งสำคัญ และรัฐบาลจะผลักดันแนวทางนี้อย่างแน่นอน เพียงแต่จะไม่ตั้งไว้ในงบโดยตรง”

.

สุดท้าย นายเผ่าภูมิย้ำว่าการจัดทำงบประมาณปี 2569 เป็นความพยายามของรัฐบาลในการตอบโจทย์ประชาชนอย่างรอบด้าน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การคลัง และการกระจายอำนาจ แม้อยู่ภายใต้ข้อจำกัดและความท้าทายที่รออยู่เบื้องหน้า แต่รัฐบาลจะเดินหน้าบริหารประเทศด้วยความรับผิดชอบ และยึดหลักข้อมูลข้อเท็จจริงเพื่อสร้างอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับประเทศไทย

.

#พรรคเพื่อไทย #งบประมาณปี69