‘เผ่าภูมิ’ แจงโครงการค้ำสินเชื่อรายย่อย PGS ไม่เคยใช้งบประมาณโดยตรง แต่ใช้เงินผ่าน มาตรา 28 เพื่อความยืดหยุ่น
วันที่ 29 พฤษภาคม 2568 เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงภายหลังฝ่ายค้านอภิปรายพาดพิงถึงระบบค้ำประกันสินเชื่อของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ว่ามีการให้ข้อมูลคลาดเคลื่อน โดยยืนยันว่าเห็นด้วยว่าบสย. มีบทบาทสำคัญ เนื่องจาก SMEs โดยเฉพาะรายย่อยมีความเสี่ยงสูงจนเข้าไม่ถึงสินเชื่อ จำเป็นต้องมีกลไกสนับสนุนให้สามารถเข้าถึงแหล่งทุน
สำหรับข้อกล่าวหาที่ว่า บสย. ไม่ค่อยอนุมัติสินเชื่อให้กับ SMEs ขนาดเล็ก เผ่าภูมิระบุว่า ปัจจุบันรัฐบาลดำเนินโครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS 11 วงเงิน 50,000 ล้านบาท ซึ่งผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้ว โดยมีผู้ประกอบการ SMEs เข้าร่วมแล้วกว่า 49,107 ราย โดย 82% เป็น Micro SMEs ที่มีขนาดเล็กมาก และอีก 18% เป็น SMEs ขนาดทั่วไป จึงยืนยันได้ว่าข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
“สไลด์ของฝ่ายค้านที่ระบุว่า ‘นายกรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณให้ บสย. ค้ำประกันสินเชื่อ 0 บาท’ ถ้าทำขึ้นโดยตั้งใจ ผมคิดว่าไม่น่าให้อภัย แต่ถ้าทำขึ้นเพราะไม่รู้ ผมก็จะอธิบายให้เข้าใจ” เผ่าภูมิกล่าว
โครงการ PGS 11 ไม่เคยตั้งงบประมาณไว้ล่วงหน้า เนื่องจากไม่ต้องการแช่เงินไว้หากไม่ได้ใช้ แต่ใช้เงินผ่าน มาตรา 28 ของ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ซึ่งเปิดช่องให้บริหารงบประมาณได้อย่างยืดหยุ่นและชาญฉลาด โดยใน PGS 11 ใช้งบประมาณไปแล้วราว 7,000 ล้านบาทจากวงเงินสินเชื่อรวม 50,000 ล้านบาท หากวงเงินหมด ก็จะเสนอโครงการ PGS 12 เข้าสู่ ครม. เพื่ออนุมัติงบเพิ่มเติมอีก 30,000 – 40,000 ล้านบาท
สำหรับประเด็นที่ฝ่ายค้านอภิปรายว่า งบสำหรับการชำระหนี้ตามมาตรา 28 มีน้อย เผ่าภูมิชี้แจงว่า ตัวเลขดังกล่าวไม่สามารถเปิดเผยได้โดยตรง แต่สามารถยืนยันได้ว่ารัฐบาลใช้งานมาตรา 28 อย่างระมัดระวังและยังมีช่องว่างมากพอ เพราะตั้งใจจัดสรรงบไปสู่ภารกิจสำคัญก่อนเสมอ
เผ่าภูมิยังย้ำว่า ตนเองมาจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งเกิดจากประชาชนฐานราก และยืนยันว่า ประชาชนรายย่อย รวมถึงภาคส่วนต่างๆ จะได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม#อภิปรายงบประมาณ2569
