นายรวี เล็กอุทัย สส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย อภิปรายสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2569 โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณด้านสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิดที่ว่า “สิ่งแวดล้อมไม่ใช่ภาระของงบประมาณ แต่คือรากฐานของความยั่งยืนทั้งเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิต”

[สถานการณ์สิ่งแวดล้อม—โจทย์ท้าทายระดับโลก]

.

นายรวี กล่าวว่า ในยุคที่โลกเผชิญกับ “ภาวะโลกเดือด” (Global Boiling) ปัญหาสิ่งแวดล้อมไม่ใช่ประเด็นรองที่เกิดแค่ในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง แต่ส่งผลกระทบต่อทุกประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตั้งแต่ภัยแล้ง น้ำท่วม หมอกควันข้ามแดน ไปจนถึงค่าฝุ่น PM2.5 ที่ทำให้บางช่วงประเทศไทยติดอันดับคุณภาพอากาศแย่ที่สุดในโลก ปรากฏการณ์เหล่านี้บ่งบอกชัดเจนว่าการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมต้องเป็นวาระเร่งด่วนของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะประเทศไทยที่มีความเสี่ยงจากทั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติทางธรรมชาติซ้ำซาก

.

[สิ่งแวดล้อมกับเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิต]

.

สิ่งแวดล้อมไม่ใช่เรื่อง “สวยงาม” ตามอุดมคติเพียงอย่างเดียว หากแต่เป็นปัจจัยตั้งต้นของความมั่นคงทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งปัญหาสิ่งแวดล้อมย่อมกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระยะยาว ทั้งในมิติการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และโอกาสการสร้างงาน หากประเทศไทยไม่ปรับตัวและลงทุนตั้งแต่วันนี้ ก็มีความเสี่ยงที่จะถูกกีดกันหรือจำกัดทางการค้าในอนาคต เช่น มาตรการ CBAM และกฎระเบียบด้านคาร์บอนอื่น ๆ ที่เข้มงวดมากขึ้น

.

[ยุทธศาสตร์งบประมาณปี 2569: ป้องกันก่อนแก้ สร้างความยั่งยืน]

.

ในร่าง พ.ร.บ. งบประมาณปี 2569 รัฐบาลได้กำหนด “การเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” เป็น 1 ใน 6 ยุทธศาสตร์หลัก พร้อมจัดสรรงบทั้งสิ้น 147,216.9 ล้านบาท หรือประมาณ 3.9% ของงบประมาณทั้งหมด โดยเน้นแนวคิดว่า 

.

-การลงทุนเพื่อป้องกัน มากกว่าการตั้งงบเพื่อเยียวยาความเสียหายเมื่อเกิดวิกฤต

-การวางรากฐานประเทศ ให้มีทรัพยากรเพียงพอ ระบบนิเวศแข็งแรง และเศรษฐกิจที่เติบโตแบบสมดุลกับสิ่งแวดล้อม

.

[เทรนด์โลกกับเศรษฐกิจสีเขียว -Green Economy]

.

ในระดับสากล ประเด็นด้าน ESG (Environment, Social, Governance) กลายเป็นเครื่องชี้วัดสำคัญในการตัดสินใจของนักลงทุน ทั้งธนาคารโลก IMF และองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศต่างเห็นพ้องกันว่าประเทศใดไม่เร่งเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียว จะเสียเปรียบในการแข่งขันและอาจเสียโอกาสทางเศรษฐกิจในอนาคต ดังนั้น การลงทุนด้านสิ่งแวดล้อมในวันนี้เท่ากับเป็นการลงทุนสร้างความพร้อมและสร้างโอกาสให้ประเทศ

.

[ภาพรวมงบประมาณสิ่งแวดล้อมปี 2569]

.

ในแผนงบประมาณปี 2569 ได้วางกรอบงบประมาณไว้ครบถ้วนทั้ง Mitigation, Adaptation และ Resilience โดยเน้น 3 ด้านสำคัญดังนี้

.

-Mitigation (การลดผลกระทบ):

.

โครงการลดก๊าซเรือนกระจก การสนับสนุนเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ การปลูกป่า และการเพิ่มการกักเก็บคาร์บอน อยู่ภายใต้แผนงานจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (2,368.3 ล้านบาท) และแผนงานป่าไม้และความหลากหลายทางชีวภาพ (7,447.9 ล้านบาท)

.

-Adaptation (การปรับตัว):

.

การเตรียมโครงสร้างพื้นฐานรับมือภัยแล้งและน้ำท่วม การอนุรักษ์ระบบนิเวศทางทะเล-ชายฝั่ง และการจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ภายใต้แผนงานด้านทรัพยากรน้ำ (รวม 2 แผน) กว่า 107,000 ล้านบาท

.

-Resilience (เสริมความสามารถต้านทาน):

.

ติดตั้งระบบเตือนภัย พัฒนาฐานข้อมูลสิ่งแวดล้อม พัฒนาระบบรายงานคุณภาพอากาศสู่ชุมชน และความร่วมมือระหว่างภาครัฐ-เอกชน-ชุมชน งบภายใต้แผนงานด้านมลพิษและสิ่งแวดล้อม 1,144.2 ล้านบาท

.

นอกจากนี้ ยังมีงบประมาณเสริมสำหรับ การวางรากฐานเศรษฐกิจสีเขียว ในด้านต่าง ๆ เช่น

สนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV): วงเงินกว่า 5,433.6 ล้านบาท เพื่อเร่งดึงดูดนักลงทุนมาตั้งฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ (local content) และเน้นการถ่ายทอดความรู้จากต่างชาติ

.

สานต่อนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality): 539.6 ล้านบาท เน้นการสร้างการตระหนักรู้ การขายคาร์บอนเครดิต และพัฒนาตลาดคาร์บอนเครดิตภาคสมัครใจ ตั้งเป้าลด CO2 ไม่ต่ำกว่า 900,000 ตันต่อปี

.

-ส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy): 1,684.9 ล้านบาท ภายใต้ BCG Model และการรับรองผลิตภัณฑ์ชีวภาพ (B Mark) พัฒนาวิสาหกิจชุมชนและ Startup สู่ Green Business Transformation รวมถึงสนับสนุนการผลิตพลังงานทดแทน 21.0985 KTOE และระบบโครงข่ายพลังงานอัจฉริยะ (Smart Grid)

.

[สิ่งแวดล้อมคือการลงทุนเพื่ออนาคต]

.

การแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ไม่สามารถพึ่งพาแค่งบภาครัฐได้เท่านั้นแต่ต้องอาศํยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง เน้นการป้องกันมากกว่าการแก้ไข ผ่านการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ และเสริมสร้างโอกาสเศรษฐกิจโดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

.

“ดังนั้น การจัดสรรงบประมาณ จึงไม่ใช่งบซ่อมสร้าง แต่คือแผนแม่บทของการเปลี่ยนผ่านประเทศ สู่ประตูเศรษฐกิจสีเขียว ที่สังคมอยู่ร่วมกับธรรมชาติ และประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว” นายรวี กล่าว

.

#พรรคเพื่อไทย #งบประมาณปี69