‘สรัสนันท์ อรรณนพพร’ สส.ขอนแก่น เดินสายพบ จีน, รัสเซีย, ฝรั่งเศส, สหภาพยุโรป และ อังกฤษ เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจจุดยืนและข้อเท็จจริงสถานการณ์ไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา  

นางสาวสรัสนันท์ อรรณนพพร สส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ได้เข้าพบผู้แทนสำคัญของหลายประเทศ เพื่อสื่อสารทำความเข้าใจและชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีพิพาทที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ดังนี้

.

เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม เข้าพบนายอู๋ จื้ออู่ อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยเป็นวาระเร่งด่วน เพื่อสื่อสารและชี้แจงข้อเท็จจริงภายหลังมีการเผยแพร่ข้อมูลเท็จที่ขัดแย้งกับความจริง โดยนางสาวสรัสนันท์ ได้ชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้อง การที่กองทัพกัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีก่อนโดยไม่มีสาเหตุใดๆนั้น เป็นการกระทำอุกอาจ การโจมตีมุ่งไปที่บ้านเรือนประชาชน โรงพยาบาล ปั๊มน้ำมัน ย่านเศรษฐกิจ ส่งผลให้ประชาชนรวมถึงเด็กและผู้สูงอายุ เสียชีวิตอย่างน้อย 19 ราย และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก ประชาชนนับแสนต้องอพยพออกจากพื้นที่ เหตุการณ์ความสูญเสียและความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับประชาชนชาวไทยนั้น ถือเป็นการละเมิดหลักมนุษยธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ และขอร้องให้ประชาคมโลกโดยเฉพาะการประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ที่กำลังจะเกิดขึ้นในคืนนี้ ช่วยกันกดดันและเรียกร้องให้กัมพูชายุติการกระทำที่ไร้ซึ่งมนุษยธรรมดังกล่าว

.

ในการนี้ ฝ่ายจีนแสดงความขอบคุณที่คณะกรรมาธิการเข้ามาชี้แจงสถานการณ์ต่างๆ ให้ทราบ อันเป็นการแสดงถึงความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างไทย-จีน และจีนก็มีความมุ่งหวังที่จะให้เหตุการณ์คลี่คลายโดยเร็ว ดังที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนได้ออกมาเรียกร้องให้เกิดการยุติการปะทะและหันหน้าเข้าเจรจากันโดยเร็ว และพร้อมที่จะเป็นสะพานเชื่อมทั้งสองฝ่าย เพราะต่างเป็นมิตรประเทศของจีน

.

จากนั้น วันที่ 28 กรกฎาคม 2568 นางสาวสรัสนันท์ อรรณนพพร หารือ นายฌ็อง-โกลด ปวงเบิฟ (Jean-Claude Poimbœuf) เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย สื่อสารข้อเท็จจริงสถานการณ์การสู้รบระหว่างไทยกัมพูชา โดยได้แสดงความกังวลอย่างยิ่ง ที่ประเทศกัมพูชากระทำการรุนแรงที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศและหลักการสิทธิมนุษยธรรม รวมไปถึงข้อผูกมัดต่างๆที่ทั้งสองประเทศเป็นภาคี 

.

ทั้งนี้ นางสาวสรัสนันท์ ได้ฝากความห่วงใยถึงฝรั่งเศส ในฐานะที่เป็นสมาชิกถาวรคณะมนตรีความมั่นคง ร่วมหาข้อเท็จจริงและส่งเสียงไปถึงกลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปต่อข้อเท็จจริงดังกล่าวที่ประเทศไทยถูกกระทำและถูกละเมิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งความปลอดภัยและอธิปไตย

.

ถัดมา นางสาวสรัสนันท์ อรรณนพพร เข้าพบเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย ฯพณฯ นายเยฟกินี โทมิคิน (Evgeny Tomikhin) 1 ในสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ (UNSC) โดยหารือเรื่องข้อพิพาทแห่งดินแดนไทย – กัมพูชา

.

โอกาสนี้ ท่านเอกอัครราชทูตรัสเซียมีข้อเสนอแนะให้ใช้กลไก JBC หรือทวิภาคีในการต่อรองให้ถึงที่สุดเพื่อให้มีความสูญเสียน้อยที่สุด โดยทางรัสเซียก็มีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ถึงความกังวลต่อสถานการณ์ขัดแย้งไทย-กัมพูชา ยกระดับ เรียกร้องทุกฝ่ายยับยั้งชั่งใจ เจรจาหาทางออกโดยใช้กลไกอาเซียนร่วมมือร่วมใจกัน

.

“รัสเซียยืนยันว่าไม่อยากให้มีการสูญเสีย ทั้งไทยและกัมพูชา ควรใช้เวทีทางการทูตเจรจา และยังทำผ่านกลไก JBC ซึ่งกัมพูชาก็ไม่ควรปฏิเสธการเจรจา ดังนั้นจึงถือว่ายังไม่ถึงทางตัน และไม่จำเป็นต้องใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา” เอกอัครราชทูตรัสเซีย กล่าว

.

ต่อมาวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 นางสาวสรัสนันท์ อรรณนพพร ได้เข้าพบทูตของสหภาพยุโรป    

รวม 18 ประเทศ โดยท่านทูตหลายท่านแสดงความเป็นห่วงและส่งกำลังใจให้หน่วยปฏิบัติหน้าที่เพื่อความปลอดภัยของประชาชนคนไทย  ที่สำคัญคือเน้นย้ำเรื่องการหยุดยิงและมุ่งสู่การพูดคุยเพื่อสันติสุขระยะยาว 

.

ทั้งนี้ นางสาวสรัสนันท์ ได้ขอร้องให้ให้มิตรประเทศยุโรปร่วมมอนิเตอร์การปฎิบัติหน้าที่ทางทหารของทั้งสองฝ่ายอย่างตรงไปตรงมา และควรที่จะรับฟังข่าวสารจากทั้งสองฝ่ายโดยเช็คข้อเท็จจริงอย่างรอบคอบก่อนที่จะสื่อสารไปไปถึงประชาชน

.

ในวันเดียวกัน นางสาวสรัสนันท์ อรรณนพพร ได้เข้าพบท่าน  Mark Gooding เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย  โดยท่านทูตได้กล่าวว่า ลอนดอนมีความเป็นห่วงและคอยสังเกตการณ์สถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยขอเรียกร้องให้ไทย-กัมพูชาเร่งหาแนวทางเจรจากันอย่างสันติ เน้นย้ำว่าต้องหลีกเลี่ยงความรุนแรง    

.

#พรรคเพื่อไทย  #จีน #รัสเซีย #สหภาพยุโรป #อังกฤษ #ฝรั่งเศส