วันที่ 13 สิงหาคม 2568 ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระที่ 2-3 วงเงิน 3,780,600 ล้านบาท ในระหว่างวันที่ 13-15 ส.ค.นี้

. 

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 แถลงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า คณะกรรมาธิการฯ ได้พิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้ว หลังคณะรัฐมนตรีเสนอและได้รับหลักการเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2568

 .

สาระสำคัญของการจัดทำงบประมาณปี 2569 คือ การขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บท และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยคำนึงถึงฐานะการคลัง เสถียรภาพเศรษฐกิจ และหลักธรรมาภิบาล เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศและประชาชน

. 

งบประมาณดังกล่าวมุ่งรับมือกับภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัว กระทบทั้งรายได้และรายจ่ายของรัฐ พร้อมเตรียมรองรับการดำเนินธุรกิจและการค้าระหว่างประเทศ บริหารหนี้สาธารณะเพื่อลดภาระในระยะยาว และสร้างพื้นที่ทางการคลังสำหรับใช้ยามวิกฤต โดยเน้นให้ประชาชนมีส่วนร่วม และให้หน่วยรับงบประมาณแสดงข้อมูลการใช้เงินนอกงบประมาณเพื่อให้การพิจารณามีความครอบคลุม

คณะกรรมาธิการฯ แต่งตั้งอนุกรรมาธิการ 8 คณะ และปรับลดงบประมาณรวม 8,920,781,300 บาท โดยพิจารณาจากความสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เป้าหมายและผลการดำเนินงาน ความคุ้มค่า ความพร้อม และศักยภาพการใช้จ่ายงบประมาณ พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับเงินนอกงบประมาณหรือรายได้ของหน่วยรับงบประมาณเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณา รวมถึงปรับลดจากโครงการที่ล่าช้า คาดว่าจะใช้ไม่ทันภายในปีงบประมาณ หรือมีการจัดซื้อจัดจ้างต่ำกว่าวงเงินที่เสนอ

. 

ในช่วงท้าย พิชัยได้ขอบคุณคณะกรรมาธิการวิสามัญที่ทุ่มเทเวลาในการพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้จนสำเร็จลุล่วง พร้อมขอบคุณหัวหน้าหน่วยรับงบประมาณที่ให้ความร่วมมือ จัดเตรียมเอกสารและข้อมูลประกอบอย่างครบถ้วน และยืนยันว่าตนและคณะกรรมาธิการวิสามัญพร้อมชี้แจงข้อซักถามของสมาชิกในแต่ละมาตราอย่างเต็มที่

.

#พรรคเพื่อไทย #พิชัยชุณหวชิร #งบ69