‘เพื่อไทย’ แก้รัฐธรรมนูญ เคาะสูตร สสร.ทางอ้อม 140 คน เสนอเข้าสภาฯ ต้น ต.ค.นี้ ย้ำไม่เสี่ยงฮั้วเหมือนเลือก สว. ยังไม่กำหนดคำถามประชามติ
วันที่ 17 กันยายน 2568 ที่รัฐสภา นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าภายหลังคณะทํางานพรรคเพื่อไทยหารือเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า เรามีการลงมติกันว่า จะมีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) แต่จะไม่ได้เลือกโดยตรง โดยใช้เป็นการเลือกโดยอ้อม แล้วให้รัฐสภาคัดเลือก ซึ่งโดยรวมแล้ว สสร.จะมาจาก 2 ส่วน คือส่วนแรก ให้แต่ละจังหวัดไปเลือกตัวแทนที่ประสงค์จะมาเป็น สสร.จํานวน 200 คน ผ่านการสมัครให้ยึดถือตามจำนวนดังกล่าว และมาให้รัฐสภาเลือกให้เหลือ 100 คน ซึ่งมีเงื่อนไขว่า น้อยที่สุดคือ เลือกจังหวัดละ 1 คน เนื่องจากอาจจะมีการทุ่มเทบางจังหวัดที่เป็นฐานเสียงของรัฐบาล
“เราคิดว่า ควรมีตัวแทนจากองค์กร ทั้งหลายในประเทศ ทั้งด้านประชาธิปไตย และการมีส่วนร่วม ตัวอย่างเช่น น่าจะมีตัวแทนจากคณบดี คณะนิติศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สภาท้องถิ่น สภาทนายความ สื่อมวลชน และตัวแทนจากวิชาชีพทั้งหลาย เข้ามาเป็น สสร.ด้วย รวมถึงอยากให้มีตัวแทนนิสิต นักศึกษา องค์กรต่างๆ ของมหาวิทยาลัยทั้งหลาย อย่างน้อย 30-40 คน และให้ สสร.ชุดนี้ ทําหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญ สามารถไปตั้งกรรมาธิการคัดเลือกผู้ที่มีความรู้ความสามารถด้านรัฐธรรมนูญเข้ามาร่วม ทั้งนี้ สสร.เราตั้งไว้ประมาณ 140 คน เพราะไม่อยากให้ใหญ่มาก” นายชูศักดิ์กล่าว
นายชูศักดิ์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้พรรคเพื่อไทย โดยคณะทํางานได้มอบหมายให้เลขาธิการฝ่ายกฎหมายไปยกร่าง ซึ่งเข้าใจว่า ในวันที่ 19 กันยายน เวลา 13.00 น. จะมีการนําร่างทั้งหมดมาดูกัน เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อย และทําร่างนั้นเสนอ
สำหรับคําถามประชามติครั้งที่ 2 จะมีการกําหนดเรื่องหมวด 1 และหมวด 2 หรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นแต่เพียงการเพิ่มหมวด 15 ว่าด้วยการจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หากหมวดนี้ทําสําเร็จแล้ว การจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่สาระจะเป็นอย่างไร จะต้องเสนอร่างใหม่ทั้งหมด และเมื่อมีการทําประชามติแล้ว ก็จะถือว่า เป็นกฎหมายสมบูรณ์ ในชั้นนี้เป็นเพียง แต่กําหนดวิธีการ สาระสําคัญว่า เราจะทําอะไร และจะมี สสร.อย่างไร
เมื่อถามถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องใช้เสียง สว.สนับสนุนทางพรรคเพื่อไทย มีการเดินสายทําความเข้าใจกับ สว.หรือยัง นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เราไม่มีหน้าที่ไปทําความเข้าใจ เป็นหน้าที่ของ สว.ต้องคิดกัน หรือพรรคไหน จะไปทําความเข้าใจก็ได้ แต่พรรคเพื่อไทย เราไม่ได้ทำความเข้าใจ เพียงแต่ขอความสนับสนุน ว่าหากอยากให้จัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ก็ช่วยกรุณาโหวต เพราะต้องการเสียงอย่างน้อย 67 เสียงเป็นอย่างต่ำ หรือ 1 ใน 3
“ไม่อยากจะคิดว่า เราไปขอกันไปร้องกัน ช่วยหน่อยนะ อย่างโน้น อย่างนี้ ให้เป็นดุลพินิจ เป็นอํานาจหน้าที่ ที่เราทํากัน เป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนรวมหรือไม่ ถ้าเป็นประโยชน์ส่วนรวม ก็ช่วยกันสนับสนุนหน่อย เพราะเราก็พยายามกันมานานแล้ว ทําให้มันสําเร็จได้หรือไม่ แค่นั้นไม่ได้เดินสายอะไร” นายชูศักดิ์ กล่าว
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่า เสียง สว.อาจไม่พอ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ก็อยู่ในความกังวลเหมือนกัน แต่เราก็ต้องทํา ทําแล้วก็ว่ากันไป ถึงเวลาหนึ่งก็รู้เอง ว่า ท้ายสุดแล้วคิดกันอย่างไร
ต่อข้อถามว่า กังวล สสร.จะเหมือนกับคดีฮั้ว สว.หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตอนแรกประชาชนในจังหวัดเลือกกันมา ไม่มีเป็นกลุ่มอาชีพแบบ สว. เป็นคนละอย่างกัน สมมติเราอยู่จังหวัดนี้ มี สสร.ได้ตามจํานวนประชากร หากสนใจก็ไปสมัคร แล้วให้ประชาชนมาโหวตเลือกกัน เพียงแต่ยังไม่ได้เป็น สสร.ทันที เพราะต้องให้รัฐสภาเลือกอีกครั้ง แต่จุดใหญ่สำคัญคือคิดว่า ให้ประชาชนมีส่วนร่วม ไม่ใช่เรามาทํากันเอง เพราะเราอยากให้เป็นรัฐธรรมนูญของประชาชน จึงอยากให้มีส่วนร่วม
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทย มีการคุยกันถึงไทม์ไลน์การทำร่างแรกแล้วเสร็จหรือไม่ เนื่องจากจะมีการปิดสมัยประชุม ในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ นายชูศักดิ์กล่าวว่า คิดว่าต้นตุลาคม เราก็สามารถเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมได้ เพียงแต่ปลายเดือนตุลาคม ปิดสมัยประชุม แต่รัฐสภามีหน้าที่ อย่างน้อย คือตั้งคณะกรรมาธิการให้ได้ก่อนปิดสมัยประชุมสภา เพื่อให้กรรมาธิการทํางาน ให้ สสร.ทำงาน เพื่อที่ร่างจะได้แล้วเสร็จ เมื่อเปิดสมัยแล้ว จะได้มาโหวตกันได้
.
#พรรคเพื่อไทย #แก้รัฐธรรมนูญ #ชูศักดิ์ศิรินิล

บทความที่เกี่ยวข้อง
