นายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ โพสต์ข้อความเรื่องร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยว่า ร่างของพรรคเพื่อไทยจะให้มีการเลือก สสร.โดยอ้อม ซึ่งจะไม่ขัดต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ โดยมีข้อความดังนี้
“ผมไปร่วมรายการรายการฟังเสียงประเทศไทยที่สถานีไทยพีบีเอสมา ก็ได้แสดงความเห็นตามประเด็นที่มีการถามและแลกเปลี่ยนกัน แต่เนื่องจากเวลาสำหรับวิทยากรแต่ละคนมีไม่มาก จึงไม่ครอบคลุมประเด็นที่คุยกัน คิดว่าน่าจะขยายความบางประเด็นในที่นี้ครับ
.
1. ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พรรคเพื่อไทยมีข้อสรุปล่าสุด มีการเพิ่มเติม เรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 156 ว่าด้วยอำนาจหน้าที่ของรัฐสภา เพื่อให้ที่ประชุมร่วมของรัฐสภาสามารถพิจารณาและลงมติ เพื่อส่งเรื่องการจัดให้มีการลงประชามติเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปยังคณะรัฐมนตรี หรือกกต.ได้
การแก้มาตรานี้จะเป็นการเชื่อมการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่รัฐสภาต้องการให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เชื่อมโยงไปสู่การทำประชามติได้อย่างสอดคล้องถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ หมดปัญหาที่ว่า “รัฐสภาจะลงมติให้มีการจัดทำประชามติได้อย่างไร” ครับ
.
2. ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เพิ่มหมวด 15 / 1 และแก้มาตรา 256 ครั้งนี้แตกต่างจากเดิมตรงที่ไม่ได้เป็นการเริ่มและทำให้เกิดการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยร่างนี้เอง แต่จะเป็นการสร้างกระบวนการวิธีการในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งจะกำหนดให้มีผู้มีสิทธิ์เสนอได้ ได้แก่ คณะรัฐมนตรี สมาชิกรัฐสภา และประชาชน
.
ซึ่งเมื่อรัฐสภาลงมติให้ความเห็นชอบแล้ว รวมทั้งมีการลงประชามติและประชาชนเห็นชอบแล้ว การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ตามกระบวนการ ที่สร้างขึ้นโดยร่างนี้ก็จะเกิดขึ้นและดำเนินต่อไปจนถึงขั้นถ้าร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา และนำไปจัดให้มีการลงประชามติต่อไป
.
3. ส่วนเรื่องใครจะเป็นผู้ร่างนั้น เข้าใจว่าในร่างของพรรคการเมืองที่เตรียมจะเสนอทุกพรรค รวมทั้งของพรรคเพื่อไทยไม่ได้ให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรง เพื่อไม่ให้ขัดต่อคำวินิจฉัยล่าสุดของศาลรัฐธรรมนูญ
.
โดยร่างของพรรคเพื่อไทยให้มี สสร. ที่มาจากการเลือกตั้งโดยอ้อม คือเลือกตั้งจากประชาชนมาก่อนแล้วให้รัฐสภามาคัดเลือกให้เหลือจำนวนที่กำหนด และมีคณะกรรมาธิการยกร่าง เพื่อเสนอต่อสสร.
ในวงเสวนาวันนี้มีการตั้งคำถามว่า หากคำวินิจฉัยกลางออกมาไม่ปิดทางที่จะให้มี สสร.ที่มาจากการเลือกตั้งพรรคการเมืองจะว่าอย่างไร ผมได้ตอบไปแล้วว่าถ้าคำวินิจฉัยกลางไม่ปิดทาง เราก็สามารถคุยกันในชั้นคณะกรรมาธิการได้ เพื่อปรับเปลี่ยนให้ สสร.มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน และถือว่าเมื่อร่างนี้ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาในวาระที่สามแล้ว ย่อมจะต้องไปผ่านการจัดให้มีการลงประชามติ ซึ่งหมายความว่าให้ประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญเป็นผู้ตัดสินชี้ขาด
.
ด้านนางสาวขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อแสดงความเห็นถึงร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะฉบับของพรรคภูมิใจไทย ที่ตัดประชาชนออกจากการมีส่วนร่วมในการเลือก สสร. แม้ว่าจะเป็นทางอ้อมโดยให้ รัฐสภาร่วมเลือกแต่ต้องอย่าลืมว่า รัฐสภา มี สว.ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งรวมอยู่ด้วย
โดยมีข้อความดังนี้
.
“ในขณะที่พรรคเพื่อไทย–พรรคประชาชน พยายามเสนอโมเดลที่เปิดทางให้ประชาชนมีส่วนร่วมเลือก สสร. ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ภายใต้ข้อจำกัดจากคำวินิจฉัยของศาล รธน. ที่ดักเอาไว้
.
แต่พรรคภูมิใจไทยกลับเสนอโมเดลที่ตัดประชาชนออกไปจากสมการอย่างสิ้นเชิง โดยให้รัฐสภาเท่านั้นเป็นผู้เลือก สสร. ทั้งหมด
.
บางคนอาจเถียงว่า “สส. ก็มีที่มาจากประชาชนแล้ว” แต่ต้องไม่ลืมว่ารัฐสภาในที่นี้รวมถึง สว. ด้วย ซึ่งไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง และยังถูกตั้งคำถามเรื่องการเชื่อมโยงกับบางพรรคการเมือง
.
ข้อเสนอนี้สะท้อนให้เกิดคำถามว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ได้ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางใช่หรือไม่ และไม่พยายามสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยอย่างแท้จริงใช่หรือไม่ ซึ่งถ้าใช่….รัฐธรรมนูญใหม่จึงเสี่ยงที่จะขาดทั้งความเชื่อมโยงกับประชาชนและขาดความชอบธรรมทางการเมือง
.
หากแนวทางนี้สำเร็จ ก็ยากที่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะถูกเรียกว่าเป็น “ฉบับประชาชน” ได้เต็มปาก”
.
ส่วนทางด้านนายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และอดีต สส.บัญชีรายชื่อ ก็กล่าวเช่นกันว่า โมเดลการเลือก สสร. ของพรรคภูมิใจไทย ดูคุ้นๆ ว่าหากใครรวมเสียงรัฐสภาได้ 351 เสียงจาก 700 ก็จะสามารถกำหนดตัว สสร.ประจำจังหวัดได้หมด โดยมีรายละเอียดดังนี้
.
“ดูจาก 3 โมเดล 3 พรรค มีความต่างกันไม่น้อย แต่ในฐานะ 1 คนที่ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ขอแสดงความกังวลต่อโมเดลของพรรคภูมิใจไทยครับ
.
วิธีการนี้ หากใครสามารถรวมเสียงในรัฐสภาได้ 351 เสียง จาก 700 เสียง (สส+สว) ก็สามารถกำหนดตัว สสร.ตัวแทนจังหวัด ได้หมดเลย
.
ยิ่งหากให้คนของตัวเองสมัครไว้ 1 คนทุกจังหวัด ก็เลือกคนนั้น ได้ทุกจังหวัด
.
คุ้นๆมั้ยครับ?”
.
#พรรคเพื่อไทย

บทความที่เกี่ยวข้อง
