(16 มิถุนายน 2568) นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย เข้าร่วมประชุมหารือเรื่อง “เจาะนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท เงินอุดหนุนมาจากไหน ใครได้ ใครจ่าย?” ที่จัดขึ้นโดยสภาองค์กรของผู้บริโภค โดยเชิญตัวแทนจากภาครัฐและประชาชนเข้าร่วมเพื่อสะท้อนปัญหาและเสนอความคิดเห็น และได้ให้ข้อมูลว่า เพื่อผลักดันนโยบาย “รถไฟฟ้า20บาทตลอดสาย” สภาผู้แทนราษฎรได้เห็นชอบในวาระแรก ของกการแก้ไขกฎหมาย 3 ฉบับ ได้แก่ พ.ร.บ.กาาขนส่งทางราง, พ.ร.บ.การจัดการระบบตั๋วร่วม และ พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ซึ่งทั้ง 3 ฉบับจะกลับสู่การพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรในวาระ 2-3 ในเดือนกรฎาคมนี้ เพื่อให้สามารถดำเนินการต่อตามเป้าหมายของฝั่งบริหาร หรือคือให้ประชาชนได้เดินทางในค่าใช้จ่ายที่ถูก เพื่อเป็นการลดค่าครองชีพได้ ในวันที่ 30 กันยายนนี้เป็นต้นไป

.

นายชนินทร์กล่าวว่า เพื่อสร้างความยั่งยืนของการแก้ปัญหาเรื่องตั๋วโดยสารนี้ พรรคเพื่อไทยจึงมีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินการผ่านการแก้กฎหมายให้มีความถาวร ตั้งกองทุน และคณะกรรมการเข้ามากำกับดูแลนโยบายอย่างเหมาะสม ส่วนเรื่องแหล่งที่มาของงบประมาณที่จะเข้ามาในกองทุนนั้น ต้องเปิดกว้างให้มีแหล่งที่มาที่หลากหลาย เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการบริหาร และลดการพึ่งพางบประมาณจัดสรรจากรัฐบาลแบบปีต่อปี

.

ส่วนที่มีการวิพากย์วิจารณ์เรื่องการ “ล้วงกระเป๋า รฟม. มาชดเชยค่าโดยสาร” นั้น นายชนินทร์กล่าวว่า ความตั้งใจของรัฐบาลคือการใช้เงินรายได้จากการบริหารจัดการระบบขนส่งมงลชน มาลดค่าใช้จ่ายให้ผู้เดินทางเอง เพราะการส่งเสริมให้ขนส่งสาธารณะมีราคาถูกและมีผู้ใช้งานเยอะขึ้นนะ ก็จะสร้างผลลัพธ์ให้ รฟม. สามารถหารายได้จากส่วนควบอื่นๆเพิ่มเติมขึ้น ทั้งค่าโฆษณา ค่าเช่าพื้นที่พาณิชย์ และรายได้จากการประกอบธุรกิจอื่นๆที่มีการแก้กฎหมายให้ รฟม. ทำได้มากขึ้น

.

“การลงทุนในระบบรถไฟฟ้าควรเป็นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ต่างจากการลงทุนในถนนหนทาง ที่ไม่ควรคิดเอาคืนทุนจากค่าใช้งาน เพราะการลงทุนระบบรถไฟฟ้าสร้างประโยชน์แวดล้อมอื่นๆทั้งการพัฒนาเมืองและการส่งเสริมเศรษฐกิจอีกมาก ด้วยหลักคิดนี้ ในอนาคตที่สัญญาสัมปทานเดิมจากผู้ให้บริการต่างๆสิ้นสุดลง เราจะปรับเปลี่ยนโครงสร้างราคาค่าโดยสารได้อย่างยั่งยืน“ นายชนินทร์กล่าว

.

#พรรคเพื่อไทย