‘ไทย’ ยืนยัน ‘ปรับพื้นที่ที่มั่นในฝั่งไทย อยู่ในเขตแดนอธิปไตยของไทย ไม่ได้ละเมิด MOU43

พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และพลเรือตรี สุรสันต์ คงศิริ  รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ร่วมกันแถลงข่าวศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์แนวชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นครั้งแรกโดย พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์  เริ่มต้นกล่าวว่าวันนี้เป็นการประชุมอย่างเป็นทางการนัดแรกของ ทีมไทยแลนด์ หรือศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งกำหนดประชุมทุกวัน และหลังการประชุมก็จะแถลงข่าว และกำหนดการแถลงข่าวจะใช้เวลา 12.00 น.  โดยในที่ประชุมได้แต่งตั้งนายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ จะเป็นโฆษกด้านการต่างประเทศ และพลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ  รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย จะมารับหน้าที่โฆษกด้านความมั่นคง 

.

นายนิกรเดช พลางกูร กล่าวว่าวันนี้ขอสรุปประเด็นศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์แนวชายแดนไทย-กัมพูชา  เรื่องแรกคือสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดน ขอย้ำว่า ไทยไม่เคยใช้มาตรการปิดด่าน แค่ใช้มาตรการควบคุมคนเข้าออกและปิดปิดด่านเท่านั้น เพื่อรักษาความมั่นคงและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน    อีกทั้งนอกจากนี้ เมื่อวานนี้ฝ่ายกัมพูชาประกาศเมื่อวานว่าประกาศระงับการนำเข้าผักและผลไม้ทุกชนิดในทุกด่าน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น ก.พาณิชย์ ได้ประสานเอาผลผลิตผลไม้ไปกระจายไปยังผู้รับซื้อทั่วประเทศ 

.

เรื่องข้อสงสัยที่ปรากฎในสื่อโซเชียลมีเดียของไทย เรื่องการขุดคูเล็ตของฝั่งไทยนั้น เป็นการขุดคูเล็ตในพื้นที่ที่เป็นเขตอธิปไตยของไทย ย้ำว่า เป็นเขตในพื้นที่อธิปไตย ดังนั้นไทยจึงปฏิเสธคำกล่าวหาว่าไทยละเมิด MOU43 โดยไทยยังยึดมั่นและปฏิบัติตาม MOU43 ซึ่งเป็นสนธิสัญญาและกติกาที่สองฝ่ายได้ตกลงร่วมกัน และมีพันธกรณีที่ต้องยึดถือและปฏิบัติการร่วมกัน โดยโฆษกด้านความมั่นคงจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้านการทหารเพิ่มเติม

.

ประการถัดมา เรื่องกลไกทวิภาคี ขอย้ำอีกครั้งว่าไทยยึดมั่นการใช้กลไกทวิภาคีเพื่อแก้ไขปัญหาเขตแดนกับฝ่ายกัมพูชา ด้วยความจริงใจและสุจริตใจ เพื่อหาทางออกที่ดีสุดร่วมกัน ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศและธรรมเนียมปฏิบัติสากล

.

ดังที่เคยแถลงแล้วว่า การประชุม เจบีซี ล่าสุดมีผลน่าพอใจ สองฝ่ายสามารถตกลงกันได้ในรายละเอียด เพื่อร่วมกันสำรวจพื้นที่และจัดทำหลักเขตแดนซึ่งเป็นพื้นฐานการดำเนินการต่อร่วมกัน ทั้งหมดสะท้อนให้เห็นว่ากลไกทวิภาคียังคงปฏิบ้ติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ต่อเนื่อง โดยฝ่ายไทยก็จะเป็นเจ้าภาพประชุมสมัยพิเศษเดือนกันยายน ซึ่งฝ่ายกัมพูชาได้ตอบรับแล้ว

ส่วนการประชุม RPC ที่นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึง ก็ได้ประสานฝ่ายกัมพูชาไปแล้วให้จัดการประชุมโดยเร็ว โดยเราได้ยื่นข้อเสนอวันประชุมแล้ว ซึ่งไทยและกัมพูชากำลังหาวันที่ ที่เหมาะสมสองฝ่ายต่อไป

.

พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ  ได้กล่าวถึงประเด็นในที่ประชุม ศบ.ทก. หารือ มี 3 ประเด็น ประการแรก 

ฝ่ายทหารกองทัพไทย ขอยืนยันการยึดมั่นปฏิบัติการทางทหารตามหลักสากล และยืนยันว่าปฏิบัติตาม MOU43 ซึ่งเป็นข้อตกลงทวิภาคีที่สองฝ่ายลงนามด้วยกัน 

ประเด็นการปรับปรุงพื้นที่ที่มั่นต่างๆ เป็นการปฏิบัติการกองกำลังในพื้นที่ ก็เป็นไปตามหลักปฏิบัติของทหารที่ต้องมีการดำเนินการปรับปรุงพัฒนาพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็ง มั่นคงของพื้นที่ โดยยืนยันว่าเป็นการดำเนินการในพื้นที่อธิปไตยของไทยทั้งสิ้น 

.

ส่วนเรื่องการดำเนินการตามจุดผ่านแดน เป็นการดำเนินการที่ยังดำรงตามมาตรการของไทยอย่างต่อเนื่องตามแนวชายแดน คือสองมาตรการตามที่ท่านประธานเคยแถลงข่าวไปแล้ว คือ การจำกัดคนและประเภทของคนผ่านแดน และเรื่องการจำกัดเวลาเปิดด่าน โดยคำนึงถึงหลักมนุษยธรรม กับบุคคลที่มีความจำเป็ฯต้องข้ามแดนเช่น นักศึกษา ผู้ป่วยที่มีความจำเป็นด้านมนุษยธรรม

ส่วนประเด็นการห้ามนำเข้าพืชผัก ผลไม้ ซึ่งเป็นการดำเนินการฝ่ายเดียวของกัมพูชา รัฐบาลไทย โดยศูนย์บริหารสถานการณ์ฯ  ได้ประสานผ่านกระทรวงพาณิชย์หามาตรการเยียวยาช่วยพี่น้องเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ โดยประสานภาคเอกชน ห้างสรรพสินค้า เพื่อรับผลผลิตของไทย จำนวน 2.5 พันตัน นำไปกระจายจำหน่ายให้ประชาชนทั่วประเทศ 

.

#พรรคเพื่อไทย