นายกฯ แพทองธาร ยกระดับปราบอาชญากรรมข้ามชาติ รวมพลังทุกภาคส่วนปกป้องผลประโยชน์ของคนไทย หลังพบข้อมูล UN ยืนยัน “กัมพูชา” เป็นศูนย์กลางใหญ่สุดของโลก จัดยาแรงมาตรการเข้ม ครอบคลุม “ความมั่นคง-ปราบอาชญากรรมเทคโนโลยี-การเงิน-การต่างประเทศ-เศรษฐกิจ” เร่งเห็นผลใน 3 เดือน
วันที่ 23 มิถุนายน 2568 ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามมาตรการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ โดยมีรัฐมนตรีและผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานด้านความมั่นคง เทคโนโลยีสารสนเทศ การต่างประเทศ และฝ่ายบังคับใช้กฎหมายเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
.
ภายหลังการประชุม นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ ได้ร่วมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยมีผู้ร่วมแถลงประกอบด้วย ภูมิธรรม เวชชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, ประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม, ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รวมถึงผู้บัญชาการทหารสูงสุด เสนาธิการทหารบก ปลัดกระทรวงมหาดไทย เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ จเรตำรวจแห่งชาติ รักษาการเลขาธิการ กสทช. และเลขาธิการ ปปง.
.
นายกรัฐมนตรี แถลงว่า รัฐบาลประกาศยกระดับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ โดยประเทศไทยอาสาเป็นเจ้าภาพหลักในการประสานความร่วมมือกับนานาประเทศ เพื่อร่วมกันปราบปรามอาชญากรรม โดยเฉพาะอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความเป็นอยู่ของประชาชน และต่อความเชื่อมั่นของประเทศในระดับนานาชาติ
.
โดยอ้างอิงข้อมูลจากองค์การสหประชาชาติ (UN) ที่ระบุว่า ประเทศกัมพูชาถือเป็นแหล่งศูนย์รวมอาชญากรรมข้ามชาติขนาดใหญ่ของโลก มีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 600,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งถือเป็นภัยต่อความมั่นคงในภูมิภาค และกระทบต่อความมั่นคงของประเทศไทยโดยตรง
.
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า หน่วยงานความมั่นคง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด จะดำเนินการอย่างเข้มงวดและบูรณาการในทุกมิติ โดยที่ประชุมได้กำหนดมาตรการเร่งด่วน 4 ด้าน ดังนี้
.
1. ด้านความมั่นคง
.
เพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมจุดผ่านแดน โดยจำกัดเวลาเปิด-ปิดด่านชายแดน ห้ามบุคคลและรถยนต์เข้าออกโดยไม่มีเหตุจำเป็น รวมถึงห้ามนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไปเล่นการพนันในพื้นที่ชายแดน ทั้งนี้จะมีการเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ในจุดเสี่ยงและแนวชายแดนอย่างเข้มข้น
.
2. ด้านอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
.
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยศูนย์ AOC จะดำเนินการตรวจสอบบัญชีม้าและเส้นทางการเงินของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติอย่างเข้มงวด พร้อมทั้งพิจารณาระงับการให้บริการอินเทอร์เน็ต และตัดการเชื่อมต่อประตูอินเทอร์เน็ตใต้น้ำที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานทางทหารและความมั่นคงของรัฐบาลกัมพูชา นอกจากนี้ จะร่วมมือกับสำนักงาน ปปง. ในการสร้างมาตรการคว่ำบาตรทางการเงินต่อผู้มีพฤติกรรมฟอกเงิน โดยจะยึดหรืออายัดทรัพย์สินที่โยกย้ายไปต่างประเทศ
.
3. ด้านการควบคุมการส่งออก
.
ให้ระงับการส่งออกไฟฟ้า น้ำมัน และสินค้าอื่นๆ ที่อาจเกื้อหนุนกิจกรรมของกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะพิจารณาความเหมาะสมในการระงับการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังกัมพูชา หากพบว่ามีการนำไปใช้ในกิจกรรมผิดกฎหมาย
.
4. ด้านความร่วมมือระหว่างประเทศ
.
กระทรวงการต่างประเทศจะเร่งประสานความร่วมมือกับประเทศต่างๆ และองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อร่วมกันปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติในภูมิภาค โดยเสนอให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางปฏิบัติการร่วมในระดับภูมิภาค (Regional Joint Operation Hub)
.
5. มาตรการด้านเศรษฐกิจและพาณิชย์
.
ในส่วนของผลกระทบทางเศรษฐกิจ กระทรวงพาณิชย์ได้รับมอบหมายให้เร่งออกมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ประกอบการ SME ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดน โดยจะประสานความร่วมมือกับภาครัฐและภาคเอกชนในการรับซื้อสินค้าเพื่อบรรเทาผลกระทบอย่างเป็นรูปธรรม
.
นายกรัฐมนตรีระบุว่า ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดกรอบระยะเวลา (timeline) และดัชนีชี้วัดผลสัมฤทธิ์ (KPI) ที่ชัดเจน โดยขอให้ภายใน 3 เดือน จะต้องมีผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรมในด้านการลดจำนวนสถิติการแจ้งความ ความเสียหาย การยึดทรัพย์ และการดำเนินคดีต่อเครือข่ายอาชญากรรม
.
“รัฐบาลยืนยันว่า ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องเร่งจัดการให้หมดไปโดยเร็ว พร้อมเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้อง ชัดเจน และสร้างความเข้าใจกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง” นายกรัฐมนตรี กล่าวปิดท้าย
.
ทั้งนี้ ผลสรุปมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติมีดังนี้
.
[การป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี]
.
-เร่งรัดการตรวจสอบบัญชีม้า และเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติอย่างเข้มงวด
-เร่งรัดการดำเนินมาตรการตาม พ.ร.ก. ป้องกัน และปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯ เพื่อยกระดับการป้องกันบัญชีม้า บัญชีสินทรัพย์ดิจิทัล เบอร์โทรปลอม และเร่งคืนเงินให้ผู้เสียหายโดยเร็ว
.
[ระบบโทรคมนาคม สัญญาณโทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต]
.
-ระงับการ บริการอินเตอร์เน็ต และประตูอินเตอร์เน็ตใต้น้ำ ที่ไปยังหน่วยงานทางการทหาร และความมั่นคงของรัฐบาลกัมพูชาทั้งหมด ยกเว้นหน่วยงานทางมนุษยชน โรงพยาบาล และ องค์กรนานาชาติ
.
-พิจารณารายละเอียดความเชื่อมโยงของการใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ต 10 จุด กับการทำกิจกรรมผิดกฎหมายของกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติ [ปัจจุบันกัมพูชาระงับการใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตแล้ว 4 จุด เหลืออีก 10 จุด]
.
[การฟอกเงิน]
.
-มาตรการคว่ำบาตรบุคคล หรือนิติบุคคลที่เป็นอาชญากรรมข้ามชาติที่มีความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการฟอกเงินทั้งในระดับประเทศ ระหว่างประเทศ
.
-ดำเนินการข่าวกรองทางการเงินเชิงรุก โดยนำข้อมูลธุรกรรมทางการเงินที่น่าสงสัยเผยแพร่ให้แก่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อนำไปสู่การสืบสวนและดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเร่งด่วนและเข้มงวด
.
-กำกับ และตรวจสอบสถาบันทางการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ ร้านแลกเปลี่ยนเงิน ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ตัวแทนและนายหน้าซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ผู้ประกอบธุรกิจค้าทองคำ และผู้ประกอบธุรกิจค้ารถยนต์ ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินอย่างเคร่งครัด โดยต้องรู้จักลูกค้า (Know Your Customer) ตรวจสอบสถานะลูกค้า (Customer Due Diligence) และรายงานธุรกรรมที่น่าสงสัย
.
-ควบคุมการขนเงินสด หรือตราสารเปลี่ยนมือข้ามแดน เพื่อป้องกันการฟอกเงินที่พยายามหลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมผ่านระบบการเงิน
.
-บูรณาการฐานข้อมูลเกี่ยวกับพฤติการณ์ในคดีความผิดมูลฐาน ข้อมูลด้านการบังคับใช้กฎหมายและข้อมูลธุรกรรมทางการเงิน เพื่อให้การสืบสวนสอบสวนและดำเนินคดีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
.
-สร้างความร่วมมือระหว่างประเทศในการติดตามเส้นทางการเงินข้ามพรมแดน การยึดหรืออายัดทรัพย์สินที่โยกย้ายไปต่างประเทศ และการนำผู้กระทำผิดมารับโทษ
.
[การควบคุมจุดผ่านแดนและการลักลอบผ่านช่องทางธรรมชาติ]
.
-เพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมชายแดนไทย-กัมพูชา เช่น การจำกัดเวลาเปิด-ปิดด่านชายแดน 7 จังหวัด ห้ามรถยนต์และบุคคลเข้าออกเว้นแต่มีเหตุจำเป็นชัดเจน (เช่นนักเรียน นักศึกษาผู้ป่วย) เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลตามแนวชายแดน และช่องทางธรรมชาติ และห้ามนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไปเล่นการพนันในพื้นที่ชายแดน
.
-ควบคุม และเข้มงวดชาวไทยที่เดินทางไปเล่น หรือทำงานในธุรกิจผิดกฎหมาย โดยเข้มงวดการเดินทางโดยเครื่องบินไปยังเสียมราฐ เนื่องจากขณะนี้ธุรกิจกาสิโนและผิดกฎหมายได้สนับสนุนค่าโดยสารเครื่องบินของพนักงงานและนักท่องเที่ยว
.
[การส่งออกไฟฟ้า น้ำมัน และสินค้า ผ่านชายแดน] หมายเหตุ*ฝ่ายกัมพูชาได้หยุดการใช้ไฟฟ้าตามนโยบายของรัฐบาลกัมพูชาทุกจุดแล้ว ตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย. 68 – ข้อมูลจาก สมช.*
.
-ระงับการส่งออกสินค้าที่เกื้อหนุนต่อกิจกรรมของกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติทันที เช่น ซิมการ์ด โทรศัพทน์มือถือทุกรูปแบบ เสาสัญญาณโทรคมนาคมแบบพกพา อุปกรณ์เครือข่ายต่าง ๆ เครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์แบบใส่ซิมการ์ด (SIM Box) อุปกรณ์เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) กล้องถ่ายภาพและวีดีโอ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และเครือข่าย
.
-ระงับการส่งออกสินค้าที่สามารถนำไปใช้ทดแทนการซื้อกระแสไฟฟ้า และสัญญาณอินเทอร์เน็ต เช่น เครื่องกำเนิดไฟฟ้าทุกชนิด อุปกรณ์และแผงโซลาร์เซลล์ แบตเตอรี่และแหล่งพลังงานสำรอง อุปกรณ์สำหรับอินเทอร์เน็ตโครงข่ายดาวเทียม
.
-พิจารณาความเหมาะสมในการระงับการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังกัมพูชา โดยที่จะต้องย้ำว่าจะต้องไม่ขายน้ำมันให้กับบ่อน หรือ แก๊ง call center ให้มีมาตรการที่เด็ดขาดทันที
.
-พิจารณาความเหมาะสมในการระงับการนำเข้า และส่งออกสินค้าทั่วไปที่ฝ่ายกัมพูชาพึ่งพาการนำเข้าและส่งออกมาไทย [พณ. สั่งห้ามการนำเข้ามันสำปะหลังจากกัมพูชาทั้งหมด ตั้งแต่วันที่ 21 มิ.ย. 68 แล้ว]
.
[การแก้ไขปัญหายาเสพติด]
.
-มาตรการสกัดกั้นยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ที่ใช้ในการผลิตยาเสพติดตามแนวชายแดน ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ โดนเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน เช่น จัดให้มีโดรนตรวจการณ์ กล้องตรวจการณ์เวลากลางคืน เรดาร์ตรวจการณ์ระยะไกล อุปกรณ์สกัดกั้นยานพาหนะแบบพกกา และกล้องถ่ายภาพ
.
-ขอความร่วมมือจากต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทั้งในด้านอุปกรณ์ และเครือข่ายข้อมูล
.
-บูรณาการความร่วมมือการใช้กำลังและการข่าวจากทุกภาคส่วน เพื่อสกัดกั้น ป้องกัน และปราบปรามการลักลอบขนยาเสพติดตามแนวชายแดน โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอและจังหวัดเป้าหมายทั้งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันตก
.
-ปรับปรุงบัญชี และมาตรการควบคุมการนำเข้า – ส่งออกสารเคมีที่เกี่ยวข้องกับการผลิตยาเสพติด โดยประสานข้อมูลในการจัดทำบัญชีร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ และให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันชายแดน
.
-เพิ่มมาตรการเฝ้าระวัง ทางบก ทางทะเล และท่าอากาศยาน/คลังสินค้า เพื่อปราบปราม สืบสวน สอบสวน และจับกุมดำเนินคดีการกระทำผิดที่เกี่ยวข้อง
.
[การประสานความร่วมมือกับนานาประเทศและมาตรการทางการทูต]
.
-ยกระดับการประสานงาน และแสวงหาความร่วมมือกับนานาชาติให้เข้มข้นมากขึ้นในการกดดันกัมพูชาในการเป็นแหล่งอาชญากรรมข้ามชาติ เช่น ร่วมมือกับจีนมากขึ้นผ่านกรอบความร่วมมือที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ และสหรัฐฯ ผ่านกรอบ ILEA
.
-ประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยมุ่งเน้นการสนับสนุนให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของไทย และประเทศเพื่อนบ้านประสานงานและมีความร่วมมือระหว่างกันโดยตรงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนข้อมูลและพยานหลักฐานเพื่อนำไปสู่การดำเนินคดี
.
-เร่งประสานความร่วมมือกับนานาประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศ เช่น UNODC ในการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางปฏิบัติการร่วมในภูมิภาค
.
-เร่งประสานความร่วมมือผ่านเครือข่ายหน่วยข่าวกรองทางการเงิน (FIUs) ทั่วโลก และเครือข่ายติดตามทรัพย์สินภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงเครือข่ายติดตามทรัพย์สินภูมิภาคยุโรป ในการติดตามยึด อายัด และริบทรัพย์สินของอาชญากรที่ได้มาจากการกระทำผิดและนำไปซุกซ่อนในประเทศต่าง ๆ
.
#พรรคเพื่อไทย #แพทองธารชินวัตร #ปราบอาชญากรรมข้ามชาติ #กัมพูชา
บทความที่เกี่ยวข้อง
