‘รัฐบาลไทย’ ต่อต้านการแทรกแซงกิจการภายใน ผ่านการปลุกปั่นช่องทางออนไลน์ ย้ำแนวทางสันติวิธีในการแก้ปัญหาชายแดน พร้อมปกป้องอธิปไตย ยืนยัน 100% ไม่รับอำนาจศาลโลก
วันที่ 2 กรกฎาคม 2568 นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ NBT มีทางออก ในประเด็นข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา โดยย้ำว่าไทยยึดแนวทางสันติวิธีเป็นหลัก แต่พร้อมปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนอย่างชัดเจน
.
“เราพร้อมที่จะปกป้องอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน แต่ว่าข้อห่วงกังวลของรัฐบาลไทยในตอนนี้ คือความปลอดภัยประชาชนในพื้นที่ เพราะฉะนั้นการที่คงกำลังเพิ่มเข้ามา ก่อนปี 67 รวมทั้งการคงอาวุธหนักไว้ อันนั้นคือข้อห่วงกังวลที่จะเกิดผลกระทบกับความปลอดภัยประชาชน”
.
นายมาริษยังกล่าวถึงบทบาทของโซเชียลมีเดีย ในการสื่อสารระหว่างประเทศว่า ไม่ใช่ช่องทางทางการ และกระทรวงจะใช้ช่องทางทางการเป็นหลักในการสื่อสารกับต่างประเทศ
.
“โซเชียลมีเดียไม่ใช่ช่องทางทางการ กต.เราจะมุ่งเน้นไปที่ทำอย่างเป็นทางการ จริงๆ กต.มี Press Release รัฐบาลไม่ได้ต้องการจะไปตอบโต้ใครทางโซเชียลมีเดีย เพราะมันไม่ใช่ช่องทางทางการ แต่ กต.จะชี้แจงทุกสิ่งทุกอย่างอย่างทางการผ่าน official channel”
.
ส่วนกรณีที่มีการโพสต์ในโซเชียลมีเดียถึงการเปลี่ยนแปลงผู้นำรัฐบาลไทยนั้น นายมาริษ เห็นว่าเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศ ซึ่งขัดต่อหลักการอาเซียนและกฎหมายระหว่างประเทศ
.
“ที่มีการพูดในโซเชียลมีเดียว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงผู้นำรัฐบาล ผมถือว่าเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศ ยอมรับว่าท่านมีสิทธิ์โพสต์จริง แต่มันมีผลกระทบเหมือนการเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่นๆ ทั้งนี้ มันขัดต่อหลักการอาเซียน และกฎหมายระหว่างประเทศ เพราะฉะนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะทำ”
.
นอกจากนี้ นายมาริษยังระบุถึงสถานะของไทยต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ว่าไทยไม่รับเขตอำนาจศาลมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503
.
“ประเทศไทยไม่ได้รับเขตอำนาจศาลโลกมาตั้งแต่ พ.ศ. 2503 เพราะฉะนั้นศาลโลกไม่มีขอบเขตอำนาจที่จะมาพิจารณาในเรื่องนี้ แม้กระทั่งประเทศมหาอำนาจทั้งหลายรวมทั้งฝรั่งเศส กัมพูชาเองก็ทราบดีในเรื่องนี้”
.
#พรรคเพื่อไทย #มาริษเสงี่ยมพงษ์ #ไทยกัมพูชา #NBTมีทางออก