นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ตอบกระทู้ถามในสภาผู้แทนราษฎรของ นายชัชวาล แพทยาไทย สส.ร้อยเอ็ด พรรคไทยสร้างไทย ถึงเรื่องปัญหาด้านการศึกษาโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องปัญหาการยุบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก-ขนาดกลาง และปัญหาการนำครูมาทำงานธุรการดังนี้
.
นางสาวลิณธิภรณ์ กล่าวตอบว่าปัจจุบันโรงเรียนขนาดเล็กทั่วประเทศ มีจำนวนประมาณ 29,000 แห่ง เป็นโรงเรียนขนาดเล็กที่มีเด็กน้กเรียนน้อยกว่า 120 คนลงมามีถึง 15,000 กว่าแห่ง ซึ่งทั้งหมดนี้ มีนักเรียนอยู่ 980,000 คน
.
ซึ่งเรื่องการยุบรวมหรือยกเลิกโรงเรียนขนาดเล็กนั้น กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของ สพฐ. เพื่อตรวจสอบว่าจะคล่องตัวอย่างไร ดังนั้นจึงต้องย้ำไว้ก่อนว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งยุบรวมโรงเรียน ให้หยุดไว้ก่อน เพราะโรงเรียนขนาดเล็กและขนาดกลาง เกิดเพิ่มมากขึ้นทุกปีเพราะจำนวนเด็กน้อยลงและครอบครัวย้ายถิ่นเข้าเมืองมากขึ้น ดังนั้น สพฐ. จึงเน้นการพัฒนาคุณภาพของโรงเรียนขนาดเล็ก เพื่อให้เด็กได้เรียนโรงเรียนใกล้บ้าน โดยที่ผ่านมา กระทรวงศึกษาธิการได้วางแผนการดำเนินการแก้ไขปัญหาดังนี้
.
1. การบริหารงานบุคคล อย่างแรกคือการยกเลิกครูเวร เพราะพบว่าการจัดครูเวรอยู่ในเวลากลางคืน หลายพื้นที่มีความไม่ปลอดภัยกับครู
2. การแต่งตั้งผู้อำนวยการหรือรักษาการ ผอ.ในโรงเรียนครบทุกโรงเรียน
3.เพิ่มครูอัตราจ้าง หรือจ้างครูเพิ่มขึ้น 22,416 อัตรา และจัดสรรงบประมาณให้มีนักการภารโรงให้ครบทุกโรงเรียน
4.กระทรวงศึกษาธิการกำลังวางแนวทางลดภาระงานครู โดยจะมีคนมาช่วยดูแลการจัดซื้อจัดจ้างแทนซึ่งขั้นตอนนี้อยู่ในการศึกษารายละเอียด
.
ในส่วนการแก้ปัญหาในพื้นที่ี่เมื่อควบรวมโรงเรียน ก็จะมีการจัดงบประมาณจัดยานพาหนะรับส่งนักเรียนในกรณีประกาศยกเลิกสถานศึกษาและนำนักเรียนไปเรียนรวมกับโรงเรียนข้างบ้าน โดยเพิ่มงบค่าเดินทางเพิ่มขึ้น
.
มีการสนับสนุนงบประมาณอาหารกลางวันในโรงเรียนขยายการศึกษา ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 เพิ่มขึ้นจากระดับประถมศึกษา
.
ด้านวิชาการ มีการจัดยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา และยังมีแนวทางยกระดับเพิ่มคุณภาพการศึกษาด้วยการพัฒนาบุคลากรครูให้มีคุณภาพมากขึ้น
.
ด้านการบริหารงานทั่วไป ซึ่งในเขตการศึกษาก็ได้ร่วมกันทำแผนการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กในระยะเวลา 3 ปี คือปี 68-70 มุ่งยกระดับคุณภาพการศึกษา เน้นคุณภาพผู้เรียนให้มีคุณภาพ รวมถึงการพิจารณาจัดสรรงบประมาณแบบท็อปอัพด้วย
.
ส่วนเรื่องการลดภาระงานครู กับอัตราครูที่เกิดขึ้น ต้องบอกว่าเป็นแนวทางหารือร่วมกันเพื่อจะลดภาระงานครู แต่อาจมีการเข้าใจคลาดเคลื่อนกัน เพราะตอนนี้มีการสำรวจโรงเรียนขนาดเล็กที่เด็กต่ำกว่า 40 คน และมีอัตราครูเกินเกณฑ์ เมื่อครูเกษียณไปก็สามารถนำอัตราเหล่านี้มาจัดจ้างใหม่ใหม่ตามแบบที่เรียกว่า 38ธ วรรค2 เป็นอัตราธุรการ จึงไม่ใช่ความหมายว่า เอาครูหรืออัตราที่มีอยู่แล้วมาเปลี่ยนเป็นครูธุรการ แต่คือดูอัตราการเกษียณเป็นเกณฑ์ แต่ถ้าถามว่าเป็นวิธีที่ยั่งยืนไหม แต่ต้องบอกว่าเพราะเรามีโรงเรียนอยู่หลายหมื่นโรงเรียน จึงพยายามอย่างยิ่งที่จะช่วยลดภาระงานครู คืนครูกลับสู่ห้องเรียน ซึ่งจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อช่วยให้ครูไม่ต้องมีภาระรับผิดชอบงานธุรการและการเงิน
.
#พรรคเพื่อไทย

บทความที่เกี่ยวข้อง
