ก.สาธารณสุข ระดมทีม MCATT ลงพื้นที่เร่งด่วน ช่วยเหลือเยียวยาฟื้นฟูจิตใจชาวบ้านเหยื่อการสู้รบตลอดแนวชายแดนไทย – กัมพูชา พบมีภาวะความเครียดสูง
น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุขฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์สู้รบระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา โดยฝ่ายกัมพูชาก่อเหตุความรุนแรงก่อนยิงถล่มเข้ามายังฝั่งไทยตามแนวชายแดนหลายพื้นที่ ชาวบ้านได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์รุนแรงครั้งนี้ ต้องอพยพหลบหนีภัย ตกอยู่ในสภาวะที่หวาดหวั่นอันตราย ห่วงใยชีวิตและสวัสดิภาพของตัวเอง ลูกหลานญาติพี่น้องและคนใกล้ชิด
.
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมีความห่วงใยอย่างมาก สั่งการทุกหน่วยงานในกระทรวงสาธารณสุขลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ สั่งการให้นายกิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิตให้ส่งทีม MCATT ลงพื้นที่ ณ ศูนย์อพยพกลุ่มเปราะบาง โรงเรียนวัดแขมเจริญ อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี ตั้งแต่เวลา 15.00 น. วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา
.
น.ส.ตรีชฎากล่าวว่า ทีม MCATT เป็นทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต สหวิชาชีพที่ให้การช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตแก่ผู้ที่อยู่ในภาวะวิกฤต ซึ่งจะประเมินสภาพจิตใจระดับความเครียด ความวิตกกังวล หรือความเสี่ยงอื่นๆ พร้อมให้ความช่วยเหลือต่างๆ การลงพื้นที่ดังกล่าวพบว่า ทีม MCATT ลงพื้นที่ ศูนย์อพยพกลุ่มเปราะบาง โรงเรียนวัดแขมเจริญพบว่า ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเปราะบาง ผู้ป่วยติดเตียงจำนวน 30-40 คน และกำลังอพยพมาเรื่อยๆ ขณะเดียวกัน พบเคสเสี่ยงภาวะซึมเศร้า 1 ราย เป็นผู้ป่วยติดเตียงแต่ญาติผู้ดูแลเสียชีวิตจากเหตุการณ์ไม่สงบ ทีม MCATT ได้ลงไปพูดคุยกับบุคลากร ได้แก่ จิตแพทย์ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเดชอุดม และพยาบาล นักจิตวิทยา ที่ศูนย์อพยพ แนะนำแนวทางการคัดกรองและส่งต่อหากพบเคสเสี่ยง ในวันที่ 25 กรกฎาคม ทีม MCATT กำหนดลงพื้นที่อำเภอเบญจลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ
.
ทีม MCATT ในกระทรวง สธ. ขณะนี้ ที่พร้อมปฏิบัติงานในพื้นที่ ประกอบด้วย เขตสุขภาพ เขต 6 : สระแก้ว 9 ทีม กรมสุขภาพจิต 6 ทีม รวม 15 ทีม เขตสุขภาพ เขต 9 : บุรีรัมย์ 23 ทีม, สุรินทร์ 17 ทีม, กรมสุขภาพจิต 4 ทีม รวม 41 ทีม เขต สุขภาพ เขต 10 : อุบลราชธานี 17 ทีม ศรีสะเกษ 22 ทีม, กรมสุขภาพจิต 2 ทีม รวม 41 ทีม รวมทีม MCATT ที่พร้อมปฏิบัติงานในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 97 ทีม
.
#พรรคเพื่อไทย #ชายแดนไทยกัมพูชา
บทความที่เกี่ยวข้อง
นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความบน x ตั้งคำถามถึง MOU แร่แรร์เอิร์ธ ที่รัฐบาลไทย ไปลงนามกับสหรัฐฯ โดยมีข้อกังวลว่าไทยได้ประโยชน์อะไรจาก MOU ฉบับนี้ พร้อมชี้ให้เห็นว่า การไปลงนาม MOU ดังกล่าวโดยไม่ผ่านคณะรัฐมนตรีหรือรัฐสภาก่อนนั้นอาจขาดความรอบคอบ รัดกุม เสี่ยงต่อการเสียอำนาจการต่อรอง และหากลงนามกันแต่บอกว่าไม่ผูกพันยิ่งทำให้ประเทศเสียความน่าเชื่อถือบนเวทีโลก โดยนายศึกษิษฏ์ ได้เขียนข้อความดังนี้
อ่านต่อ
ทันตแพทย์หญิงศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรค หารือในสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2568 กรณีที่รัฐบาลไทยนำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ไปลงนามร่วมกับประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เรื่องแร่หายากหรือแรร์เอิร์ธ ว่านายกรัฐมนตรีไทยไปทำเรื่องใหญ่ที่สร้างความตกใจให้คนทั้งประเทศ ด้วยการปิดบังไปลงนาม MOU ซึ่งหมิ่นเหม่ต่อรัฐธรรมนูญ
อ่านต่อ