โดยมีการเสนอข้อแก้ปัญหาระยะยาวคือการพัฒนาศักยภาพแรงงาน การสร้างตำแหน่งงาน ทั้งในและต่างประเทศ สนับสนุนแรงงานที่มีทักษะและเทคโนโลยีขั้นสูง รวมถึงสร้างหลักประกันด้านสุขภาพที่ดีให้พี่น้องแรงงานทั้งในและนอกระบบ

.

[วิกฤติโครงสร้างแรงงาน ผลกระทบจากวิกฤติโลก]

.

-โครงสร้างแรงงานไทยเป็นทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนของประเทศไทย มีผลกระทบทุกภาคส่วน

ตั้งแต่ภาคเกษตร อุตสาหกรรม ท้องถิ่น ถึงระดับนานาชาติ หากแก้ปัญหาแรงงานได้จะช่วยยกระดับโครงสร้างทั้งระบบโดยเฉพาะกับห่วงโซ่การผลิตให้ดีขึ้นได้

.

-โครงสร้างที่เป็นเสมือนดาบสองคมของภาคแรงงานไทย 2 ประการคือ

.

(1) ค่าแรงของแรงงานไทยน้อยกว่าที่ควรจะเป็น และ ค่าแรงต่ำเกินไป ดึงดูดการลงทุนต่างชาติได้ แต่เสี่ยงต่อการติดกับดักเทคโนโลยีระดับกลาง ที่ทำให้อุตสาหกรรมไทยไม่พัฒนาเทคโนโลยีและความสามารถของแรงงาน

.

(2) แรงงานไทยจำนวนมาก เป็นแรงงานนอกระบบ หรือแรงงานตามฤดูกาล คือแรงงานนอกระบบจำนวนมาก มีความยืดหยุ่น แต่เปราะบาง ขาดการคุ้มครองสวัสดิการขาดทักษะเฉพาะทางและโอกาสพัฒนาศักยภาพให้ตรงกับทักษะที่โลกต้องการ 

.

-โครงสร้างของภาคแรงงานไทยดังกล่าว “เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างในตัวเอง” เมื่อไปผนวกกับความผันผวนของโครงสร้างโลกใหม่ ก็ยิ่งทำให้ความไม่แน่นอนและความลำบากมีแนวโน้มจะทวีกำลังมากขึ้น

.

– ความขัดแย้งในเวทีโลก ให้เกิดความไม่แน่นอนในภาคการผลิต และส่งผลโดยตรงกับภาคแรงงาน

– การเปลี่ยนแปลงอย่างเฉียบพลันของเทคโนโลยี เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจที่เคยนำมาซึ่งการจ้างงานในไทยเริ่มถดถอยลง

– การก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยขั้นสุด ส่งผลให้กำลังแรงงานลดน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ

– ภัยธรรมชาติระดับรุนแรงเกินคาดคิด 

-แรงงานจำนวนมากของไทยเป็นแรงงานนอกระบบที่ไม่ได้รับการคุ้มครอง เมื่อเกิดอุบัติภัยทางธรรมชาติอย่างก็ยากจะได้รับการเยียวยาตามสมควรได้

.

[ทางแก้ระยะสั้น/เฉพาะหน้า]

.

-ที่ผ่านมา รัฐบาลไม่เคยละเลยในเรื่องแรงงาน เรามีการเตรียมพร้อมและตั้งใจจะยกระดับคุณภาพแรงงานผ่านนโยบายเรือธงมากมาย

.

– THACCA และ OFOS

– เข้าถึงบริการการรักษาของภาครัฐได้ง่ายและทั่วถึงมากขึ้น อย่างนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่

.

●  แม้รัฐบาลจะเตรียมการอย่างดีแต่เมื่อโครงสร้างโลกเปลี่ยนฉับพลัน รัฐบาลเพื่อไทยก็พร้อมเปลี่ยนและไม่เคยละเลยแรงงาน โดย ยกตัวอย่าง กรณีรัฐบาลปรับงบดิจิทัลวอลเล็ต 1.57 แสนล้านมาใช้สนับสนุนภาคแรงงานและภาคการเกษตรที่เปราะบาง เพื่อเพิ่มผลิตภาพ 

.

[ทางแก้ระยะยาว -งบ 2569]

.

รัฐบาลที่นำโดยท่านนายกรัฐมนตรีแพทองธาร จึงออกแบบงบประมาณมาสู่การยกระดับแรงงาน พัฒนาคุณภาพชีวิตท้องถิ่น ซึ่งเราจะขอเสนอ 3 ส่วน ที่เราจะใช้เพื่อยกระดับแรงงาน คือ  (1) การพัฒนาศักยภาพแรงงาน  (2)การสร้างตำแหน่งงาน  (3) การเยียวยาป้องกัน

.

ทั้งสามส่วนนี้จะทำให้เรายกระดับแรงงานไทยได้อย่างครอบคลุมทุกจุดบอด แรงงานไทยจะเลิกเปราะบางเทคโนโลยีไทยจะหลุดออกจากกับดักและเศรษฐกิจไทยจะเติบโตไปด้วยเทคโนโลยีที่นำสมัยและแรงงานที่มากฝีมือเพราะทรัพยากรที่สำคัญของศตวรรษนี้คือทรัพยากรมนุษย์

.

ส่วนแรก การพัฒนาศักยภาพแรงงาน ให้ตอบสนองต่ออุปสงค์ของเศรษฐกิจโลก

เราจะทุ่มงบเพิ่มกว่า 450 ล้านบาทให้กรมพัฒนาแรงงานเพื่อ Up skill/Re skill แรงงานให้เป็นแรงงานที่มีศักยภาพแรงงานที่มีศักยภาพในไทยจะเพิ่มขึ้นเกือบ 5 แสนคน รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาให้เท่าทันกับสถานการณ์เทคโนโลยีของโลก โดยเฉพาะโลกยุคดิจิทัลเราได้แบ่งงบบางส่วนมาเพิ่มแผนงานเกี่ยวกับศักยภาพแรงงานเพื่อเศรษฐกิจดิจิทัล

.

ทำโครงการพัฒนาทักษะแรงงานด้านเทคโนโยีและด้านอุตสาหกรรม เราจะสร้างความสามารถในการแข่งขันของเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมของไทย ด้วยการจัดสรรเงินกว่า 230 ล้านบาทมาพัใฒนาฝีมือพี่ๆ น้องๆ แรงงานโดยตรง

.

การลงทุนเข้ามาเรียนกับรัฐ จะเป็นการลงทุนระยะยาว นอกจากจะเพื่อทักษะของตัวแรงงานแล้ว

มันจะนำไปสู่ชีวิตที่ดีของพี่น้องชาวแรงงานของเราอีกด้วย 

.

นอกจากการพัฒนาโดยภาครัฐแล้ว เราจะยังสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ ดึงผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศเข้ามาช่วยสอนงาน (knowledge to feed local labour and economy) พัฒนาศักยภาพของพี่น้องประชาชน

.

มีโครงการธนาคารหน่วยกิต ที่จะช่วยสร้างหลักประกัน ทำใบรองรับให้กับพี่น้องแรงงานที่ไปฝึกฝีมือมาด้วยตัวเอง เพื่อนำไปประกอบอาชีพและเพิ่มค่าแรงได้

.

[แก้ปัญหาในระยะยาว-งบปี 69]

.

งบประมาณปี 2569 นี้ถูกออกแบบมาชัดเจนว่าจะพัฒนาแรงงานในทุกภาคส่วน เพื่อให้คนไทยทุกคนสามารถก้าวเข้าสู่สังคมยุคดิจิทัลได้อย่างภาคภูมิใจ เช่น งบประมาณของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานที่มากขึ้นถึงเกือบ 470 ล้านบาท

.

การพัฒนาแรงงานทุกภาคส่วน ซึ่งหมายรวมถึงแรงงานตามฤดูกาลที่มาจากภาคการเกษตรด้วย

และส่วนนี้เองที่สัมพันธ์กันกับการจัดงบประมาณเพื่อการอำนวยการและบริหารจัดการด้านก

ารเกษตร ราว 528 ล้านบาท ที่จะช่วยยกระดับบุคคลกรและการอำนวยการด้านการเกษตรให้มีคุณภาพมากขึ้น ใช้เทคโนโลยีมาพัฒนาการผลิตในการเกษตรต่างๆ ได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย

.

[เพิ่มทักษะแรงงานด้านเทคโนโลยี]

.

เห็นได้ว่ารัฐบาลนี้ไม่ละเลยคนกลุ่มอื่นๆ เรายังคงจะพัฒนาโครงการเพื่อเด็กและสตรี สร้างความพร้อมให้ทุกคนต่อโลกเทคโนโลยีและเศรษฐกิจดิจิทัลที่กำลังรุ่งเรืองขึ้น ด้วยโครงการเพิ่มทักษะแรงงานอิสระและกลุ่มเป้าหมายเฉพาะเพื่อเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ เป็นเงินกว่า 370 ล้านบาท และสุดท้าย หากพูดถึงภาวะโลกเดือดที่ส่งผลกระทบต่อเราทุกคน

.

รัฐบาลจะนำงบเข้ามาสนับสนุนการวิจัยเพื่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการให้กับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมด้วยเงินเกือบ 224 ล้านบาท เราจะผลิตนักวิจัยที่ชั้นนำของโลก เราจะออกเงินสนับสนุนการวิจัยเพื่อทั้งวัสดุที่ดีขึ้น เทคโนโลยีและทรัพยากรที่ยั่งยืนขึ้น เพื่อนำมาบริการให้กับพี่น้องประชาชนทุกคนอย่างทั่วถึง ด้วยการให้งบเกือบ 5,200 ล้านสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 

.

[สร้างงานใหม่ทั้งในและต่างประเทศ]

.

ส่วนที่สอง เมื่อประเทศเรา กำลังจะต้องมองหาเครื่องยนต์เศรษฐกิจตัวใหม่ เราก็ต้องเตรียมความพร้อมด้านแรงงาน เราจะทุ่มงบเพื่อสร้างตำแหน่งงาน (New workable space) สร้างตำแหน่งงานเพื่อรองรับพี่น้องแรงงานที่มาพัฒนาฝีมือมาเพื่อเศรษฐกิจ ผ่านการด้วยงบเกือบ 194 ล้านบาทในแผนงานยุทธศาสตร์ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่เข้มแข็งแข่งขันได้ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สนับสนุนการจ้างงานให้กับพี่น้องแรงงานทุกคน พี่น้องแรงงานทั้งที่เข้าร่วมและไม่ได้เข้าร่วมโครงการฝึกพัฒนาแรงงาน การันตีให้มีโอกาสได้ทำงานทั้งในและนอกประเทศ ทั้งสายเทคโนโลยีและสายศิลป์ เพื่อให้การพัฒนาแรงงานของเราเป็นไปอย่างครบวงจร เงินกว่า 100 ล้านบาทที่เราจะเพิ่มเข้ามาให้กรมการจัดหางาน จะถูกนำมาช่วยให้ประชาชนของเราได้รับการส่งเสริม มีการมีงานทำ มีอาชีพ

.

เราจะส่งเสริมทั้งการจ้างงานในประเทศและการส่งออกแรงงานนอกประเทศผ่านบริการการจัดหางาน ซึ่งเราตั้งเป้าไว้ว่าคนกว่า 950,000 คนจะได้รับบริการส่งเสริมการมีงานทำนี้ ผ่านงบกว่า 335 ล้านบาท

.

[สร้างตำแหน่งงานรองรับเทคโนโลยีขั้นสูง]

.

เรายังมีโครงการสร้างตำแหน่งงานรองรับผู้ที่มีทักษะเกี่ยวกับเทคโนโลยีขั้นสูงผ่านการสนับสนุน

SME ที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูงโดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติด้วยงบประมาณถึง 14 ล้านบาท

.

เรามีโครงการส่งเสริมการส่งออกวัฒนธรรมไทย (Local to Global) สู่สากลสำหรับผู้ที่ปฏิบัติอาชีพสายสังคมและศิลปะ พัฒนา soft power ของไทยให้เทียบเท่าต่างชาติ เราจะสร้างความน่าดึงดูดของศิลปะและวัฒนธรรมไทย การจ้างงานให้กับกลุ่มฝ่ายสร้างสรรค์อีกด้วย สร้างความเข้มแข็งให้กับทั้งอิทธิพลของวัฒนธรรมและแรงงานของไทยไปพร้อมกัน

.

[ไม่ลืมดูแลคุณภาพชีวิตยามเจ็บป่วย]

.

เราให้ความสำคัญกับทั้งการพัฒนาไทยให้เข้าสู่ยุคสมัยใหม่ ความเป็นดิจิทัล แต่เราสัญญาว่าเราจะไม่ลืมให้ความสำคัญกับการรักษาและพัฒนาวัฒนธรรมไทยเดิมของเราที่น่าภาคภูมิใจด้วย ส่วนสุดท้าย เราจะทำการเยียวยาแรงงานทุกคนที่ได้รับผลกระทบทางสังคม เราจะสร้างหลักประกันและคุณภาพชีวิตที่ดีให้แรงงาน เพิ่มพื้นที่หายใจให้กับแรงงานไทยด้วยการเพิ่มงบประมาณที่มากขึ้นกว่าเดิม 55 ล้านบาท ให้กับกรมสวัสดิการคุ้มครองแรงงานและดูแลแรงงานกลุ่มเปราะบางทางสังคม โครงการทางสังคมรองรับ เช่น 30บาทรักษาทุกที่ ที่เป็น safety-net ให้แรงงานที่อยู่นอกพื้นที่บัตรทองเดิม ดังนั้นจึงช่วยลดความเปราะบางและความเสี่ยงของแรงงานไทย เมื่อแรงงานคุณภาพชีวิตดี มีแรงและมีใจในการทำงาน ผลผลิตงานที่ได้ก็จะยิ่งดีไปด้วย 

.

[เม็ดเงินหมุนเวียนกลับเข้าไปในระบบเศรษฐกิจ]

.

ดังนั้น  เมื่อโลกกำลังเปลี่ยนไปสู่สังคมดิจิทัลที่มีเทคโนโลยีเป็นศูนย์กลาง สังคมกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ  ภัยพิบัติทางธรรมชาติกำลังคืบคลานเข้ามา เมื่อโลกเปลี่ยน เราจึงต้องปรับเปลี่ยนแผนการให้เข้ากันกับสถานการณ์ เพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และพัฒนาประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง งบประมาณส่วนนี้จะไม่เสียเปล่าแน่นอน เพราะยังไงเม็ดเงินก็จะกลับมาหมุนเวียนต่อในเศรษฐกิจ สิ่งสำคัญเลยคือการมุ่งสร้าง โอกาสกับทั้งแรงงาน นายจ้าง และเศรษฐกิจ ลูกจ้างมีชีวิตดี นายจ้าง ได้แรงงานดี เศรษฐกิจได้แรงงาน มีผลผลิต มีกำไร มีการจับจ่ายใช้สอยเกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น

.

การนำงบมาใช้ตรงนี้จึงจะเป็นประโยชน์สูงสุดเพื่อประชาชนในทุกฝ่ายทั้งลูกจ้างและผู้ประกอบการราย่อยและรายใหญ่ รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงที่เน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง เงินงบประมาณจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างโอกาส และพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงาน นายจ้าง และเศรษฐกิจไทยโดยรวม

.

#พรรคเพื่อไทย #อภิปรายงบ69 #อภิปรายงบปี69