‘นพดล ปัทมะ’ แนะไทยยึดหลัก MOU43 เจรจากัมพูชา เผยไทยยึดตามหลักเขตแดน 1 ต่อ 50,000 ตามเขตแดนสันปันน้ำมาโดยตลอด ไม่มีเสียดินแดน

นพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย อดีต รมว.ต่างประเทศ กล่าวในรายการเปิดปากกับภาคภูมิ ไทยรัฐออนไลน์ วันที่ 13 มิถุนายน 2568 โดยมองว่า ท่าทีของกัมพูชาเป็นการสร้างอำนาจการต่อรองก่อนเจรจา JBC กัมพูชาควรรู้ว่า เวทีนี้เป็นการเจรจาเรื่องเขตแดน แต่การออกมาให้ข้อมูลว่า กัมพูชาสามารถอยู่ได้โดยไม่พึ่งพาไทย เป็นเพียงเรื่องที่สร้างอำนาจต่อรอง ดังนั้นควรจะลดระดับความขัดแย้งมากกว่า และต้องรักษาความสัมพันธ์

.

ยุทธศาสตร์ปี 45 เป็นการตกลงเรื่องเขตแดนโดยเฉพาะ ก็ควรคุยตามกรอบของ MOU43 เป็นกลไกของ JBC ที่กัมพูชากับไทยได้คุยกันมาแล้ว แต่เป้าหมายของเขาต้องการไปสู่คณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ โดยตามเทคนิคถ้าไทยไม่ยินยอมก็ไม่มีโอกาสได้ขึ้นศาลโลก ดังนั้นศาลโลกไม่มีอำนาจในการรับคดี

.

การที่นายกฯ กัมพูชาไปฝรั่งเศสและกล่าวอ้างว่า ฝรั่งเศสจะช่วยทั้งสองประเทศ แต่เราก็ต้องฟังหูไว้หู ไม่มีประเด็นอะไรต้องกังวล ซึ่งยุทธศาสตร์ของไทยต้องรักษาดินแดนไว้ให้ได้ และรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ตลอดจนเจรจาบนเงื่อนไข MOU43 โดยไม่ไปศาลโลก

.

ข้อพิพาทเรื่องเขตแดนมีอยู่ทั่วโลก การระงับข้อพิพาทมีด้วยกัน 3 ทางคือ 1.รบให้รู้แล้วรู้รอดว่าใครจะชนะ 2.เจรจากันระหว่าง 2 ประเทศ 3.ไปศาลโลก 4.ให้อนุญาโตตุลาการ หรือคนนอกมาเป็นตัวกลางเจรจา

.

การทำสงครามเป็นเรื่องของคนที่ไม่ฉลาด ไม่ควรทำ จึงต้องมีการเจรจาของทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่ง MOU43 ถือเป็นพันธะที่ต้องคุยกัน แต่การที่ทางกัมพูชามั่นใจถึงการไปยังศาลโลก เพื่อเรียกกระแสนิยมของประชาชนในการเป็นชาติเพื่อความนิยมทางการเมือง แต่ความจริงแล้วเขากำลังเข้าใจผิดบางอย่าง กรณีการตีความของศาลโลกว่าเป็นไปตามแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ซึ่งมันเป็นความเข้าใจผิดอย่างสิ้นเชิง เพราะศาลโลกไม่เคยตัดสิน

.

ถ้าย้อนไปกรณีเขาพระวิหาร ก่อนปี 2505 เรามีสนธิสัญญาไทย-ฝรั่งเศส โดยใช้สันปันน้ำ แต่วันดีคืนดีปี 2503 ซึ่งมาตัดสินเมื่อ 15 พ.ย. 2505 ศาลโลกตัดสินว่าตัวปราสาทตั้งอยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา โดยศาลอ้างว่าที่ตัดสินตามนี้เพราะไทยมีพฤติกรรมไปยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 200,000 เลยทำให้ปราสาทอยู่ในพื้นที่กัมพูชา แต่ถ้าใช้หลัก เขตแดนตามสันปันน้ำ ปราสาทจะอยู่ในฝั่งไทย จากนั้นไทยจึงมอบปราสาทให้กัมพูชาตามมติ แต่กัมพูชาก็ไปตามคำสั่งของศาลโลกเมื่อปี 2505 อีกครั้งเมื่อปี 2554 แล้วมีคำวินิจฉัยเมื่อปี 2556 โดยให้วินิจฉัยเส้นเขตแดนบริเวณพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรที่เป็นพื้นที่ทับซ้อน ที่อ้างแผนที่คนละฉบับไปทั้งหมด แต่ศาลโลกไม่ตัดสินเช่นนั้น

.

ดังนั้นคนที่ไปกล่าวว่า ไทยแพ้คดีเขาพระวิหารทั้ง 2 ครั้ง เป็นความเท็จ จึงอยากชี้แจงว่า ไทยยึดหลักเขตแดน 1 ต่อ 50,000 โดยไทยยึดเขตแดนตามสันปันน้ำ

.

#พรรคเพื่อไทย #MOU43 #เขตแดนไทยกัมพูชา ขอขอบคุณ ไทยรัฐ ออนไลน์ https://www.thairath.co.th/scoop/theissue/2864393#google_vignette