‘ชนินทร์-เลขา มท.’ เผย ‘ภูมิธรรม’ สั่งการ ปภ. สนับสนุนรถประกอบอาหาร รถน้ำดื่ม และรถยกสูงในพื้นที่ศูนย์พักพิงผู้อพยพ 4 จังหวัดอีสานใต้ พร้อมประสานอธิบดีกรมบัญชีกลางขยายวงเงินทดรองราชการในอำนาจผู้ว่าฯ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน
เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 19.30 น. นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การลักลอบยิงอาวุธของกัมพูชาเข้ามาล่วงล้ำอธิปไตยของประเทศไทยจนส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนพื้นที่ 4 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คือ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ ที่อาศัยตามแนวชายแดนการปะทะ ซึ่งในขณะนี้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ท่านนายอำเภอ ตลอดจนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ร่วมกับหน่วยงานและภาคส่วนต่าง ๆ ในพื้นที่ อพยพพี่น้องประชาชนไปพักอาศัยชั่วคราวในบริเวณพื้นที่ปลอดภัยแล้ว
“นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เร่งสนับสนุนการดำเนินงานจังหวัดและอำเภอเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนประชาชนในศูนย์พักพิงชั่วคราวทั้ง 4 จังหวัดข้างต้น เป็นการเร่งด่วน ทั้งการเคลื่อนย้ายรถประกอบอาหาร รถน้ำดื่ม และรถยกสูง ของศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตใกล้เคียงที่ไม่ได้ประจำการในพื้นที่ประสบภัย เข้าสนับสนุนพื้นที่ที่ตั้งศูนย์พักพิงผู้อพยพเป็นการด่วน พร้อมทั้งเร่งประสานอธิบดีกรมบัญชีกลางเพื่อพิจารณาขยาย “วงเงินทดรองราชการในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินสำหรับผู้ว่าราชการจังหวัด” เพื่อใช้ในการอำนวยการศูนย์พักพิงผู้อพยพตามกรณีภัยพิบัติฉุกเฉินเป็นการเร่งด่วน” นายชนินทร์ กล่าว
.
นายชนินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงมหาดไทยมุ่งมั่นในการร่วมกับทุกภาคส่วนในการปฏิบัติหน้าที่ตามแผนปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และขอขอบคุณทุกแรงสนับสนุนทั้งอาหาร น้ำดื่ม และเครื่องใช้ที่จำเป็นจากพี่น้องประชาชนคนไทยผู้ปรารถนาดีต่อพี่น้องประชาชนคนไทยด้วยกันที่กำลังประสบภัยจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาในขณะนี้ พร้อมทั้งขอส่งกำลังใจให้พี่น้องที่อยู่ในพื้นที่ศูนย์พักพิงผู้อพยพทุกท่าน เราจะผ่านเหตุการณ์นี้ไปด้วยกัน รวมทั้งขอเป็นกำลังใจให้เหล่าทหารหาญในการทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยในด่านหน้าแนวชายแดน
 
															บทความที่เกี่ยวข้อง
 
                                  
                ‘ดนุพร’ เรียก 7 บริษัทในตลาดหุ้น ให้ข้อมูลเอี่ยวสแกมเมอร์ เชิญ ก.ล.ต.-ปปง. ร่วมสอบ
อ่านต่อ 
                                  
                นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความบน x ตั้งคำถามถึง MOU แร่แรร์เอิร์ธ ที่รัฐบาลไทย ไปลงนามกับสหรัฐฯ โดยมีข้อกังวลว่าไทยได้ประโยชน์อะไรจาก MOU ฉบับนี้ พร้อมชี้ให้เห็นว่า การไปลงนาม MOU ดังกล่าวโดยไม่ผ่านคณะรัฐมนตรีหรือรัฐสภาก่อนนั้นอาจขาดความรอบคอบ รัดกุม เสี่ยงต่อการเสียอำนาจการต่อรอง และหากลงนามกันแต่บอกว่าไม่ผูกพันยิ่งทำให้ประเทศเสียความน่าเชื่อถือบนเวทีโลก โดยนายศึกษิษฏ์ ได้เขียนข้อความดังนี้
อ่านต่อ 
                                  
                ทันตแพทย์หญิงศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรค หารือในสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2568 กรณีที่รัฐบาลไทยนำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ไปลงนามร่วมกับประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เรื่องแร่หายากหรือแรร์เอิร์ธ ว่านายกรัฐมนตรีไทยไปทำเรื่องใหญ่ที่สร้างความตกใจให้คนทั้งประเทศ ด้วยการปิดบังไปลงนาม MOU ซึ่งหมิ่นเหม่ต่อรัฐธรรมนูญ
อ่านต่อ 
                                  
                 
                                   
                                   
                                  