“ภูมิธรรม” ลั่น 3 เดือนต้องเห็นผล! เปิดปฏิบัติการ Thailand Zero Drugs กวาดล้างยาเสพติดทั่วประเทศ มอบหมายผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นแม่ทัพ บูรณาการทุกภาคส่วนร่วมมือแก้ปัญหากัดกินใจพี่น้องประชาชน สกัด ป้องกัน ปราบปราม บำบัดฟื้นฟู หวังข้าราชการใช้เรื่องนี้เป็นเวทีแสดงศักยภาพ ใครทำดีมีโอกาสเติบโต ใครขัดขวาง นิ่งเฉย ไม่รู้ไม่เห็น แต่ถ้าชาวบ้านรู้ ถือว่ามีความผิด
7 ส.ค. 2568 ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน Kick off กิจกรรมผนึกกำลัง “มหาดไทย – ตำรวจ-สาธารณสุข” ปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติดเชิงรุกทุกพื้นที่ (Thailand Zero Drugs) โดยมี เดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมในงานมากกว่า 3,000 คน ณ ห้องรอยัลจูบิลี่ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี และถ่ายทอดสดผ่านระบบออนไลน์ไปยังทุกพื้นที่ทั่วประเทศ มีผู้รับชมกว่า 30,000 คน
.
ทั้งนี้ในงานดังกล่าว ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ร่วมกัน Kick Off ส่งมอบรายชื่อผู้ติดยาเสพติด 188,626 ราย ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายเข้ารับการบำบัดฟื้นฟู และผู้ค้ายาเสพติด 16,036 ราย ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายดำเนินคดี
.
ภูมิธรรม ได้ขึ้นกล่าวมอบนโยบาย แก่ข้าราชการทุกคนที่เกี่ยวข้อง โดยระบุว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ ทุกหน่วยงานที่ได้มีการร่วมมือกัน และต้องขอขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และกำนัน ผู้ใหญ่บ้านทุกคน ที่ได้มีโอกาสร่วมมือกันทำงานในช่วงที่ผ่านมา
.
สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า ถ้าเราจับมือ ร่วมมือกัน อย่างน้อยเราได้เห็นตัวเลขผู้ค้ายาเสพติด และรายชื่อของผู้ค้าในทุกจังหวัด รวมทั้งยอดของผู้เสพ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพียงการดำเนินการในช่วงเวลาที่เราได้มีการประกาศปฏิบัติการระดับชาติ ‘no drug no dealer’ (เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2568)
.
“ทั้งนี้เมื่อเราเริ่มต้นปฏิบัติการ เราก็สามารถที่จะดึงรายชื่อ (ผู้ค้ายาเสพติด) ออกมาได้ทั้งหมด ตัวรายชื่อทั้งหมดเหล่านี้เราจะนำไปดำเนินการหาหลักฐานเพื่อจัดการทางกฎหมายต่อไปอย่างเด็ดขาด”
.
“ท่านเองก็รู้อยู่แล้วว่าใครบ้างที่เป็นปัญหา ตัวผู้ค้าเองท่านก็รู้อยู่แล้วว่ามีใครบ้าง และในเวลานี้รัฐบาลได้จับตามองและกำลังจะเข้าดำเนินการอย่างทันทีหลังจากวันนี้เป็นต้นไป”
.
ภูมิธรรม ย้ำว่า ประเทศไทยจะต้องปลอดยาเสพติดทั่วทั้งแผ่นดิน ภายใน 3 เดือนนี้ต้องเห็นผลเป็นรูปธรรมชัดเจน อย่างน้อยที่สุด ก็จะได้รู้ว่าการร่วมมือกันภายในสามเดือน ผลที่ออกมาจะเป็นอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้จะมีตัวชี้วัดที่สำคัญคือประชาชน ชาวบ้านในชุมชน หากเขาบอกว่าไม่มียาเสพติดแล้ว นั่นก็คือเข้าใจได้ว่ามันไม่มีจริงๆ แต่ถ้าเขาบอกว่ามันยังมีอยู่แม้ว่าตัวเลขการดำเนินการทั้งกับผู้ค้าและผู้เสพของเราจะดี นั่นหมายความว่าเราต้องทบทวนตรวจสอบว่า มันหลุดสายตาจากพวกเราได้อย่างไร เพื่อที่เราจะได้ไปดำเนินการกันต่อ
.
การดำเนินการทั้งหมดนี้ หัวใจสำคัญจะต้องอยู่ที่หมู่บ้านและชุมชน ผลสำเร็จจะเกิดขึ้นได้อยู่ที่การบูรณาการและความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยใช้กลไกความมั่นคงในระดับพื้นที่ร่วมกันทั้ง 3 ฝ่าย ประกอบด้วยผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด
.
นอกจากนี้ก็ยังมีการประสานความช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่ทหาร ซึ่งรับผิดชอบในเรื่องของป้องกันการลักลอบขนยาเสพติดข้ามแดน ทำหน้าที่ในการสกัดกั้นเบื้องต้น ทางการป้องกันไม่ให้ยาเสพติดทะลักเข้ามา และสกัดไม่ให้สารตั้งต้นทะลักออกไป
.
ฉะนั้นเพื่อให้การขับเคลื่อนการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม จึงขอมอบแนวทางในการดำเนินงานให้ทุกส่วนเร่งรัดดำเนินการดังนี้
.
🎯เรื่องแรก มาตรการป้องกัน ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ร่วมกันบูรณาการทำงานประสานแลกเปลี่ยนข้อมูล วางกำลังร่วมกันและจัดกำลังเพื่อสนับสนุนภารกิจของกันและกัน
.
ขอเน้นย้ำให้ทุกหมู่บ้านส่งเสริมบทบาทของกลไก ชุดรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน(ชรบ.) ปัจจุบันเรามี ชรบ. ทั่วประเทศ 600,000 – 700,000 คน ฉะนั้นถ้า ชรบ. เป็นตาสับปะรดให้รัฐบาล เป็นตาสับปะรดให้ประเทศ ช่วยกันสอดส่อง และทำหน้าที่ตัวชี้วัด ว่าความสำเร็จ หรือไม่สำเร็จ เกิดจากอะไร สิ่งนี้จะทำให้เราแก้ไขปัญหาได้อย่างแท้จริง
.
ต้องขอชื่นชมจังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เราลงไปทำอย่างจริงจัง และได้มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลเอ็กซเรย์ที่เรานำมาเปิดเผยก็ทำให้เห็นชัดว่า เป็นตัวเลขที่น่าชื่นชม และสิ่งนี้เกิดขึ้นจากธวัชบุรีโมเดล ซึ่งนี่คือสิ่งที่สะท้อนถึงการทำงานอย่างเต็มที่เพื่อสนองต่อความเดือดร้อนของประชาชน
.
ฉะนั้นเรื่องนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องช่วยกัน เฝ้าระวัง ระงับเหตุ แจ้งเบาะแส รวมทั้งควบคุมขจัดพื้นที่เสี่ยง ที่อาจเป็นแหล่งมั่วสุมยาเสพติด ตลอดชนการใช้กลไกชุมชนเป็นเครือข่ายตาสับปะรด เพื่อลดโอกาสที่สมาชิกในชุมชนจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด
.
🎯เรื่องที่สอง มาตรการป้องปราบ ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด บูรณาการแลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อจัดทำบัญชีพื้นที่ระบุหมู่บ้านหรือชุมชนที่เป็นพื้นที่เสี่ยง เพื่อนำมาตรการเชิงรุกเข้าไปควบคุม
.
รวมทั้งจัดระเบียบควบคุมสถานที่เสี่ยง เช่น สถานบันเทิง ไม่ให้กลายเป็นแหล่งกระจายยาเสพติด เพื่อร่วมกันตัดวงจรและสกัดกั้นการเข้าถึงยาเสพติดในทุกพื้นที่ ตลอดจนตั้งจุดตรวจสกัดเพื่อเป็นการยับยั้งโอกาสในการกระทำความผิด
.
ขอให้กำชับและเน้นย้ำให้นายอำเภอใช้มาตรการ seal stop safe ตรวจตราพื้นที่ชายแดน รวมทั้งช่องทางธรรมชาติอย่างเข้มข้น รวมทั้งขยายมาตรการนี้ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
.
🎯เรื่องที่สาม มาตรการปราบปราม เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านต้องยึดหลักเด็ดขาด โปร่งใส ไม่ละเว้น ถ้าชาวบ้านรู้แต่เจ้าหน้าที่ไม่รู้ ถือเป็นความผิด
.
ต้องเร่งสืบสวน ขยายผล จับกุมผู้ค้า และผู้เกี่ยวข้องในทุกระดับ โดยให้มีการบูรณาการร่วมกันอย่างไร้รอยต่อระหว่าง ตำรวจ ทหาร หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ และกลไกฝ่ายปกครอง
.
โดยขอเน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้นำในการบูรณาการปราบปรามยาเสพติด บนข้อมูลสถานการณ์จริง ตามบริบทและความเหมาะสมของพื้นที่ ขอให้ใช้กลไกของฝ่ายปกครองในพื้นที่สนับสนุนการหาข่าว
.
“เรื่องการข่าวเป็นเรื่องสำคัญ หากการข่าวแม่นยำก็สามารถตรวจตราได้ลึกถึงผู้ค้า และผู้บงการอยู่เบื้องหลัง เพื่อที่ไปให้ถึงต้นทาง และดำเนินการยึดทรัพย์ผู้ค้าโดยเฉพาะรายใหญ่ตามกฎหมาย”
.
🎯เรื่องที่สี่ มาตรการบำบัดฟื้นฟู ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด บูรณาการดำเนินการร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อคืนคนคุณภาพสู่สังคม
.
“ผู้เสพต้องได้รับโอกาสในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยยึดหลักการ ผู้เสพ คือผู้ป่วย ให้ดำเนินการส่งเข้าบำบัดรักษาแทนการดำเนินคดี พร้อมทั้งลดการตีตรา และสร้างโอกาสการเรียนรู้ทางอาชีพให้กับผู้ที่เข้ารับการบำบัด ให้พวกเขาได้กลับเข้าสู่สังคมอย่างเป็นสุขและเป็นธรรม”
.
ขอให้มีการพัฒนาการดำเนินการของศูนย์ฟื้นฟูฯ ทั้งในระดับจังหวัด และอำเภอ รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ควบคู่ไปกับการยกระดับศูนย์บำบัดยาเสพติดในพื้นที่ให้มีมาตรฐาน
.
ขอให้มีการดำเนินการ 1 จังหวัด 1 สถานฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดเป็นอย่างน้อย พร้อมทั้งพัฒนาระบบติดตามผู้ผ่านการบำบัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าผู้ผ่านการบำบัดเหล่านี้ จะไม่กลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดซ้ำอีก
.
เพื่อให้มาตรการที่ผมได้มอบนโยบายในวันนี้ เห็นผลชัดเป็นรูปธรรม ได้กำหนด KPI เพื่อใช้วัดความสำเร็จ ในช่วงสามเดือนที่เราจะมีการปฏิบัติการอย่างเข้มข้นดังนี้
.
- ผลการดำเนินงานในการสกัดกั้นยาเสพติดในพื้นที่ชายแดน จะต้องมีจำนวนที่มากขึ้น
- ผลการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ภายในประเทศจะต้องมีจำนวนที่ลดลงไปเรื่อยๆ
- ทุกครั้งที่มีการจับกุมผู้ค้าได้ จะต้องมีการขยายผลไปถึงเครือข่ายใหญ่ได้ด้วย
- จำนวนผู้เสพที่ตรวจพบทุกราย จะต้องเข้าสู่กระบวนการบำบัดฟื้นฟูทุกคน
- เมื่อพบเจ้าหน้าที่รัฐที่มีความเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มข้นโดยทันที
.
“หากท่านทำแบบเดิมผลลัพธ์มันก็จะได้แบบเดิม หากท่านอยากจะให้มีการเปลี่ยนแปลงมันก็ต้องทำให้มีการเปลี่ยนแปลง เริ่มจากตัวเราก่อนทั้งผู้บังคับบัญชา ผู้ปฏิบัติ ทั้งกระบวนการและวิธีการทำงาน
.
ผมคิดว่านี่แหละคือเวทีที่จะทำให้ท่านแสดงศักยภาพให้ได้เห็นว่า ท่านมีศักยภาพในการเป็นผู้นำในยุคใหม่ ซึ่งจะสามารถบริหารจัดการแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจะสามารถเติบโตในวงราชการได้ต่อไป
.
ผมจะใช้เกณฑ์เหล่านี้ สนับสนุนให้คนที่ทำดี ให้ได้มีโอกาส ส่วนใครที่ทำตัวเป็นอุปสรรค ทั้งการขัดขวาง หรือวางตัวนิ่งเฉย ทำตัวไม่รู้ไม่เห็นว่ามีอะไรเกิดขึ้นในจังหวัด ถ้าชาวบ้านเขาเห็นกันหมด แล้วเราไม่รู้ ผมว่ามันเป็นไปไม่ได้
.
หากเป็นอย่างนี้ก็ต้องปรับเปลี่ยน ผมไม่ได้มาขู่ข้าราชการ ไม่ได้ต้องการใช้อำนาจบาตรใหญ่ แต่ผมอยากเห็นการแก้ไขปัญหาที่ประชาชนรู้สึกเจ็บปวด และต้องการแก้ให้มันแก้ไขได้อย่างจริงจัง”
.
“เรื่องยาเสพติด เป็นเรื่องที่ผมพูดตั้งแต่ได้เข้ามาอยู่ในกระทรวงมหาดไทยแล้วว่าจะต้องแก้ปัญหานี้ให้ได้ เพราะมันเป็นเรื่องที่กัดกินใจพี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่า
.
เราได้ยินกันมาทุกคนเรื่องปัญหายาเสพติด มันกระจายไปทุกภาคส่วนอย่างที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน มันเป็นวิกฤตการณ์ที่คุกคาม ชีวิต ครอบครัว และพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ
.
วันนี้ผมไปเกือบทุกหมู่บ้าน ตามสถิติที่ผมเห็น ยาเสพติดมันเข้าไปในทุกที่ ทั้งโรงเรียน มหาวิทยาลัย ในชุมชน อำเภอต่างๆ มีทั้งนั้น และที่น่าเสียใจมากก็คือว่า เรื่องเหล่านี้มีข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ผมไม่ได้ตำหนิพวกท่านนะครับ ผมรู้ว่าทุกคนทำงานอย่างหนัก แต่ก็ยังมีแกะดำ ในหมู่ข้าราชการที่มีส่วนไปสนับสนุนและส่งเสริม วันนี้ผมคิดว่าท่านต้องหยุด และท่านต้องพอได้แล้ว เราต้องหันกลับมาจัดการเรื่องนี้อย่างจริงจัง”
.
“วันนี้เราต้องการเครือข่ายตาสับปะรด ซึ่งก็คือพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน เพราะเขารู้หมดว่าบ้านไหนใครค้ายาเสพติด พื้นที่ไหนมีข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้อง ฉะนั้นการรีเอ็กซเรย์ในระดับหมู่บ้าน สามารถทำได้เลยไม่ต้องใช้เครื่องมืออะไร ใช้แค่ใจที่ต้องการแก้ไขปัญหา ใช้แค่ใจที่ต้องการเห็นชุมชนของตัวเองราบรื่น”
#พรรคเพื่อไทย #ปัญหายาเสพติด #ภูมิธรรมเวชยชัย #กระทรวงมหาดไทย
