ไทยยังน่าลงทุน หลังพบต่างชาติเชื่อมั่นไทย ครึ่งปีแรกของปี 2568 (ม.ค.-มิ.ย.) ลงทุนในไทย 502 ราย เงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 111,506 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2568 นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยข้อมูลการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ในครึ่งปีแรกของปี 2568 (ม.ค.-มิ.ย.) มีจำนวน 502 ราย เงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 111,506 ล้านบาท โดยเป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 123 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (ผ่านช่องทางการลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน หรือได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และการใช้สิทธิตามสนธิสัญญาหรือความตกลงระหว่างประเทศ) จำนวน 379 ราย
.
ทั้งนี้ การอนุญาตฯ ในครึ่งปีแรกของปี 2568 มีจำนวนเพิ่มขึ้นจำนวน 117 ราย (30%) เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2567 และมูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้น 30,019 ล้านบาท (37%) เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2567 สำหรับนักลงทุน ชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทยสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
.
1. ญี่ปุ่น จำนวนนักลงทุน 99 ราย คิดเป็น 20% ของนักลงทุนทั้งหมด เงินลงทุน 43,025 ล้านบาท
2. สหรัฐฯ จำนวนนักลงทุน 72 ราย คิดเป็น 14% ของนักลงทุนทั้งหมด เงินลงทุน 2,797 ล้านบาท
3. จีน จำนวนนักลงทุน 65 ราย คิดเป็น 13% ของนักลงทุนทั้งหมด เงินลงทุน 18,336 ล้านบาท
4. สิงคโปร์ จำนวนนักลงทุน 63 ราย คิดเป็น 13% ของนักลงทุนทั้งหมด เงินลงทุน 17,384 ล้านบาท
5. ฮ่องกง จำนวนนักลงทุน 51 ราย คิดเป็น 10%ของนักลงทุนทั้งหมด เงินลงทุน 8,309 ล้านบาท
.
นายอนุกูล กล่าวต่อว่า สำหรับการลงทุนในพื้นที่โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของนักลงทุนต่างชาติในครึ่งปีแรกของปี 2568 มีนักลงทุนต่างชาติลงทุน จำนวน 158 ราย คิดเป็น 31% ของนักลงทุนต่างชาติในไทย เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 จำนวน 42 ราย (36%) มูลค่าการลงทุนจำนวน 62,851 ล้านบาท คิดเป็น 56% ของเงินลงทุนทั้งหมด
.
โดยเป็นนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น 42 ราย ลงทุน 24,752 ล้านบาท จีน 38 ราย ลงทุน 13,909 ล้านบาท สิงคโปร์ 15 ราย ลงทุน 8,046 ล้านบาท และประเทศอื่นๆ 63 ราย ลงทุน 16,144 ล้านบาท ธุรกิจที่ลงทุน อาทิ ธุรกิจการค้าปลีกสินค้า ธุรกิจบริการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์พลาสติกวิศวกรรม ธุรกิจบริการเขต Data Center ธุรกิจบริการพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อให้บริการดิจิทัล และธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า
.
“ภายใต้สถานการณ์นโยบายภาษีศุลกากรตอบโต้ของสหรัฐอเมริกา และผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศของประเทศคู่ค้าของไทย รวมถึงผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา รัฐบาลขอบคุณนักลงทุนทุกประเทศที่เชื่อมั่น ให้ความไว้วางใจลงทุนในประเทศไทย รัฐบาลพร้อมเดินส่งเสริมสิทธิประโยชน์กระตุ้นให้เกิดการลงทุน พร้อมอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุน เพื่อให้เกิดความมั่นใจในศักยภาพของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง” นายอนุกูล ระบุ
.
#พรรคเพื่อไทย
ขอขอบคุณ เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/99638?fbclid=IwY2xjawML5F5leHRuA2FlbQIxMABicmlkETEzRmNHeDdwSmtnRUFlOFl2AR4iauj8qX4SiHFFHVi115wn9Gw9ETDUPtjr3bjb2xCwZfcu5khRvqJO5rNjEQ_aem_EvayobXSD3ZzmvAbcSqbtQ

บทความที่เกี่ยวข้อง

นายจาตุรนต์ ฉายแสง สรุปการอภิปรายร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญยืนยันว่ารัฐสภาควรรับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ร่าง และควรเลือกร่างของพรรคเพื่อไทยเป็นร่างหลัก เพราะร่างของพรรคเพื่อไทยมีความยึดโยงประชาชน สอดคล้องกับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ มี สสร. มาเป็นกรรมการยกร่าง
อ่านต่อ