ตามที่คณะกรรมาธิการร่วมกันของสภาผู้แทนราษฏรและวุฒิสภาเห็นชอบ ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 357 เสียง ไม่เห็นด้วย 0 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง และไม่ลงคะแนน 1 เสียง และเห็นด้วยกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เพื่อจัดส่งไปยังคณะรัฐมนตรีหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการต่อไป

นายปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานคณะกรรมาธิการร่วมกันเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ. … กล่าวว่าถือเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่คณะกรรมาธิการร่วมฯ ได้ช่วยกันแก้ไขและหาทางออกได้ โดยมีประเด็นสำคัญอยู่ 6 มาตรา และ 1 ข้อสังเกต  ข้อแรกเป็นเรื่องการแก้ไขถ้อยคำเช่นคำว่า ทะเลสาบ แก้เป็นทะเลสาบที่ติดทะเลแทนคำว่าทะเลสาบ,  มาตรา 18 เรื่องคณะกรรมการฯ แต่เดิมซึ่งให้อำนาจอธิบดี ซึ่งการให้อำนาจทางการปกครองนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะเกี่ยวข้องกับการยึดเรือเป็นต้น ซึ่งสำคัญมาก จึงแก้ไขว่าหากจะใช้อำนาจด้านการปกครองเรื่องเรือ ให้เป็นอำนาจคณะกรรมการฯ แทนอธิบดี , มาตรา 24 เรื่องสัตว์น้ำหายาก สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ชาวประมงสามารถช่วยสัตว์น้ำและปล่อยลงกลับทะเลได้ หรือหากสัตว์บาดเจ็บสามารถนำส่งโรงพยาบาลได้, ม.28 เรื่องอวนขนาดเล็กที่เกี่ยวข้องกับการจับปลาตัวเล็กในอุตสาหกรรมน้ำปลา สรุปว่าอวนขนาดเล็กที่ต่ำกว่า 2.5 จะจับกลางวัน กลางคืนได้ แต่ถ้าจับกลางคืนต้องใช้ไฟ ให้ห้ามใช้ แต่ถ้าจะใช้ ต้องเป็นการกระทำทางวิชาการ แต่ถ้าเป็นการพาณิชย์จะต้องเชิญผู้เกี่ยวข้องมีส่วนได้เสีย และต้องมาปรับระเบียบกันทุก 2 ปี เพื่อให้อุตสาหกรรมน้ำปลาดำรงอยู่ได้ และยังรักษาปลากะตะซึ่งเป็นปลาขนาดเล็กให้อยู่ได้อย่างอุดมสมบูรณ์, เรื่องความผิดที่เป็นความผิดทางการปกครองถึงขั้นยึดเรือ เรื่องนี้สำคัญเพราะมองต่างกันว่าจะต้องผิดกี่ครั้ง สว.บอกผิดครั้งเดียวก็ยึดเลย สส.บอกว่าควร 2 ครั้ง สุดท้ายด้วยเมตตาธรรมและด้วยความจริงที่ถ้าทำผิดครั้งหนึ่งก็ให้อภัยเพราะเราถือว่าชาวประมงไม่ได้เป็นโจร และสุดท้าย เรื่องการร่างกฎหมายรอง ต้องทำกฎหมายรองให้เสร็จสิ้นเป็น 1 ปี

.

นายแพทย์เชิดชัย ตันติศิรินทร์ สส.บัญชีรายชื่อ ร่วมอภิปรายว่าปัญหา ชาวประมงพื้นบ้าน 22 จังหวัดเคยร้องเรียนว่า อวนตาถี่ขนาด 2.5 เซ็นติเมตร สามารถจับปลาตัวเล็กหรือสัตว์อ่อนและถ้าจับในเวลากลางคืนโดยใช้แสงไฟล่อยิ่งมีโอกาสทำให้เกิดการสูญพันธุ์เพิ่มขึ้น ซึ่งก็ได้กำหนดทางแก้ไว้ว่าไม่สามารถจับปลาตัวเล็กเหล่านี้ได้ในเวลากลางคืน แต่ถ้าจะจับและภายใต้แสงไฟก็ต้องเพื่อทางวิชาการเท่านั้น  ซึ่งก็เป็นการแก้ไขปัญหาที่ยึดหลักการสากลและพันธกรณีระหว่างประเทศ ดังนั้น จึงต้องขอฝากคณะกรรมาธิการฯ และหน่วยงานภาครัฐที่จะไปดำเนินการเขียนกฎหมายลูกต่อไปว่า จะฝากให้ดูแลชาวประมงพื้นบ้านของเราด้วย ให้ได้พื้นที่ในการทำมาหากินเพิ่มขึ้น ให้เขาได้มีอาชีพจับปลาเลี้ยงชีพ ไม่ไปทำลายอาชีพของเขาในอนาคตอีก 

.

#พรรคเพื่อไทย #ประมงไทย