“เพื่อไทย” เผย ก.พาณิชย์ ปล่อยสมาคมผู้ส่งออกข้าวเก็บ “ค่าบริหารจัดการ” 150 บาทต่อตัน ส่อเปิดทางทุจริตหรือไม่
(24 พฤษภาคม 2564) นพ. ชลน่าน ศรีแก้ว อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย มีหนังสือ “ด่วนมาก” แจ้งผลการจัดสรรปริมาณข้าวเพื่อส่งมอบให้รัฐวิสาหกิจจีน ( COFCO ) ลงวันที่ 18 พฤษภาคม 2564 โดยเนื้อหาระบุเรียกเก็บ “ค่าการบริหารจัดการ” จากสมาชิกในอัตราตันละ 150 บาท และต้องจ่ายค่าดำเนินการดังกล่าวภายในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้ กรมการค้าต่างประเทศ ผู้รับผิดชอบการค้าข้าวแบบรัฐต่อรัฐ และเป็นผู้จัดโอนโควตาข้าวให้สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เหตุใดจึงปล่อยให้สมาคมฯ เรียกเก็บค่าดำเนินการดังกล่าว พร้อมตั้งข้อสังเกต 4 ข้อดังนี้
(1) กรมการค้าต่างประเทศ ใช้วิธีการมอบโอนข้าวปริมาณ 20,000 ตันให้สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยดำเนินการจัดหาเพื่อส่งออกขายให้รัฐในต่างประเทศแต่เพียงผู้เดียว และสมาคมฯ จำกัดเพียงสมาชิกเท่านั้นที่จะมีสิทธิจัดส่งข้าวตามปริมาณที่สมาคมฯ จัดสรรให้ ใช่หรือไม่
(2) จดหมายสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยระบุเนื้อหา การส่งมอบข้าวที่กำลังจะเกิดขึ้นช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมนี้ COFCO สั่งซื้อข้าวขาว 5% จัดส่งแบบ FOB (ราคาส่งที่ท่าเรือ) ที่ราคาตันละ 520 เหรียญสหรัฐ แต่ข้อมูลที่ทราบมา ข้าวชนิดเดียวกันนี้ ราคาตลาดอยู่ที่ตันละ 480 ดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น ดังนั้นส่วนต่างตันละ 40 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันต่อปริมาณข้าว 20,000 ตัน จะเกิดส่วนต่างสูงถึง 8 แสนดอลลาร์สหรัฐ หรือ 25 ล้านบาท จึงอยากให้กระทรวงพาณิชย์ชี้แจงข้อมูลดังกล่าวว่าเป็นจริงหรือไม่
(3) การโอนข้าวแบบรัฐต่อรัฐ จำนวน 20,000 ตัน ซึ่งถือเป็นสิทธิและเป็นผลประโยชน์ของประเทศไทยให้แก่สมาคมผู้ส่งออกข้าวโดยไม่มีการประมูล เป็นการทำผิดกฎหมาย พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างฯ ภาครัฐ พ.ศ. 2560 หรือไม่
(4) การดำเนินการของสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย มีการเรียกเก็บเงิน “เพื่อการบริหารจัดการ” ตันละ 150 บาทนั้น เงินจำนวนนี้ได้ถูกนำไปใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ตามจุดประสงค์ของการค้าข้าวแบบรัฐต่อรัฐหรือไม่ อย่างไร
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2558 – ปัจจุบัน มีการซื้อข้าวแบบรัฐต่อรัฐระหว่าง COFCO กับกรมการค้าต่างประเทศ รวม 1.7 ล้านตัน หากมีการคิดส่วนต่างจากราคาส่งออกตามโควต้านี้จริง คงจะประเมินมูลค่าไม่ได้ และหากมีการเก็บค่าดำเนินการ 150 บาทต่อตันจริง อาจคิดเป็นมูลค่าเงินกว่า 255 ล้านบาท เงินเหล่านี้ใครได้ประโยชน์และใครเสียประโยชน์
บทความที่เกี่ยวข้อง
12 ธ.ค. 2568 พรรคเพื่อไทย นำโดย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค และ นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ โฆษกพรรค แถลงจุดยืนหลังรัฐบาลประกาศยุบสภา พร้อมยืนยันว่าพรรคมีความพร้อมเต็มที่ในการเลือกตั้งครั้งใหม่เพื่อ “นำความหวังและโอกาสที่ดีกลับคืนสู่ประชาชน”
อ่านต่อ