ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ตั้งกระทู้ถามสด ถามนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเรื่องการแต่งตัังโยกย้ายข้าราชการและปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่กลับมาระบาดอีกครั้ง
นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยและ สส.กทม. ตั้งกระทู้ถามสด ถามนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเรื่องการแต่งตัังโยกย้ายข้าราชการและปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่กลับมาระบาดอีกครั้ง หลังจากที่ยุติหายไปในช่วงที่รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ปราบปรามอย่างเข้มข้น โดยมีนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยมาเป็นผู้ตอบกระทู้
นางสาวธีรรัตน์ กล่าวว่าจากการที่มีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยโยกย้ายข้าราชการในกระทรวงมหาดไทยครั้งใหญ่ถึง 45 ตำแหน่ง พี่น้องประชาชนถามว่าเกิดอะไรขึ้น และทำไมรัฐบาลถึงกล้าทำเพียงนี้ เพราะการโยกย้ายครั้งนี้ไม่ได้ตอบโจทย์แก้ไขปัญหาประชาชนหรือประเทศชาติที่ประสบอยู่ วันนี้ประเทศไทยมีปัญหาทั้งความมั่นคงภายใน-ระหว่างประเทศ พื้นที่เขตชายแดนยังระส่ำระสาย พี่น้องประชาชนส่วนมากกลับต้องมาคอยรับโทรศัพท์จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แสกมเมอร์และเว็บพนัน ที่กำลังกลับมาทุกวัน
.
สมัยรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร โดยพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ ได้ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างจริงจัง จนพี่น้องยังแปลกใจที่ไม่ต้องรับโทรศัพท์จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์อีก แต่วันนี้พวกนี้กลับมาอีกครั้ง ไม่เว้นแม้แต่ข้าราชการประชาชนที่โดนหลอกดูดเงิน ทำไมรัฐบาลไม่มุ่งแก้ปัญหาให้ประชาชนสานต่อจากรัฐบาลที่แล้ว แต่กลับมามุ่งแต่โยกย้ายข้าราชการเป็นไปเพื่อประโยชน์ในการเลือกตั้งของพรรคฝ่ายรัฐบาล ทำเพื่อความได้เปรียบในการเลือกตั้ง และเพื่อประโยชน์ของตัวเองทั้งสิ้น ไม่มีประชาชนอยู่ในสมการการแก้ปัญหาให้เขาเลย
.
ในขณะที่ทั่วโลก กำลังกดดันกัมพูชา เช่น สหรัฐฯ เกาหลีใต้ ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้ทำทุกวิถีทาง ทำงานหนักเพื่อทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำให้พี่น้องประชาชนไม่ต้องถูกหลอกลวง เราทำจนกระทั่งผู้นำของเราถูกการตอบโต้อย่างรุนแรงจนนำมาสู่เหตุการณ์เปลี่ยนแปลงทางการเมือง ซึ่งน่าเสียดายว่าหากพรรคเพื่อไทยได้ทำงานต่อ แก๊งคอลเซ็นเตอร์พวกนี้คงไม่สามารถกลับมาสร้างความเดือนร้อนให้พี่น้องประชาชนได้อีก
.
ขบวนการฟอกเงินในบ่อนกัมพูชา ก็เพิ่งมีรายงานข่าววันสองวันมานี้ว่ามีคนสำคัญของฝั่งกัมพูชาประกาศว่าจะเปิดโปงนักการเมืองไทยที่ไปเปิดบ่อนในกัมพูชา นี่คือเรื่องใหญ่ที่ทำลายภาพลักษณ์ของไทย จะจริงหรือไม่ไม่ทราบ แต่เรากลับไม่เห็นท่าทีรัฐบาลในการแก้ปัญหา รัฐบาลควรต้องรับรู้ รับทราบและชี้แจงให้ประชาชนรู้ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร หลายประเทศได้ประกาศให้อพยพพลเมืองของตัวเองรีบออกจากกัมพูชา แต่รัฐบาลไทย เงียบมาก เงียบกริบ ไม่พูดไม่กระดิกเรื่องนี้ จนอดสงสัยไม่ได้ว่า รัฐบาลชุดนี้มีส่วนร่วม รู้เห็นหรือเปิดทางให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เข้ามาหลอกลวงพี่น้องคนไทยหรือไม่
.
“และสิ่งที่พูดมาทั้งหมดไปนั้น บังเอิญไปประจวบเหมาะกับภารกิจแรกๆ ของรัฐบาลที่ทำคือสั่งยุบชุดปฏิบัติการเว็บพนันและคอลเซ็นเตอร์ สิ่งนี้ชี้ชัดว่านอกจากจะไม่ให้ความสำคัญ หรือท่านอาจจะไปเป็นผู้มีส่วนร่วมรู้เห็นในสิ่งต่างๆ เหล่านี้หรือไม่?” อดีต รมช.มหาดไทยกล่าว
.
นางสาวธีรรัตน์ กล่าวต่อว่าการโยกย้ายข้าราชการในขณะนี้ ยิ่งทำให้กิจการภายในประเทศอ่อนแอลง ข้าราชการขวัญหนีดีฝ่อ หรือแม้แต่การโยกย้ายข้าราชการที่ให้ความช่วยเหลือบรรดารัฐมนตรีอาจจะเกี่ยวพันกับความผิดต่างๆ ให้รอดพ้นจากความผิด เรื่องนี้เคลือบแคลงใจพี่น้องประชาชนว่า ทำไมท่านถึงกล้าทำ ให้ข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องเหล่านั้นมาดำรงตำแหน่งสำคัญ ท่านต้องตอบว่าใช้หลักการใดในการโยกย้ายข้าราชการเหล่านี้ให้กลับมาทำหน้าที่ ที่เป็นข้อกังขาในสังคมขณะนี้ และตนเองก็เตรียมคำตอบไว้ หากท่านตอบว่าท่านทำเพื่อคืนความยุติธรรม ท่านทำเพื่อความถูกต้องเพราะที่ผ่านมาไม่ถูกต้อง ดิฉันก็ต้องนำเรียนว่า ข้าราชการระดับ 10 เป็นอำนาจปลัดกระทรวงฯ ในการโยกย้ายครั้งที่แล้ว และก็การโยกย้ายครั้งนี้ท่านปลัดกระทรวงฯ อีกเช่นกันที่เซ็นหนังสือ จึงขอเรียนไว้ตรงนี้ว่า คำพูดที่สวยหรูที่ท่านกล่าวมันไม่มี แค่พูดให้สวยหรูดูดี แต่พี่น้องทั่วไปเขาเข้าใจดีกว่าเกิดอะไรขึ้น
.
หากท่านติดตามข่าวสาร จะพบว่าขณะที่ทั่วโลกกดดันกัมพูชาให้จัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่รัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยกลับนิ่งเฉย จนมีคำถามว่า รัฐบาลจะแก้ไขปัญหาพี่น้องที่เดือดร้อนจากการถูกหลองลวงจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้ได้อย่างไร
.
“ขอย้ำถามอีกครั้งว่า ท่านมีท่าทีอย่างไรที่จะแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อย่าตอบเดิมๆ ว่าแก้แล้ว เพราะที่ผ่านมารัฐบาลเพื่อไทยได้แก้ไปแล้ว มันหมดไปแล้วจบไปแล้ว แล้วมันกลับมาใหม่ในรัฐบาลยุคนี้ ตอบให้ตรงคำถามด้วย” อดีต รมช.มหาดไทย กล่าว
.
#พรรคเพื่อไทย #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #ธีรรัตน์สำเร็จวาณิชย์

บทความที่เกี่ยวข้อง

นายจาตุรนต์ ฉายแสง สรุปการอภิปรายร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญยืนยันว่ารัฐสภาควรรับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ร่าง และควรเลือกร่างของพรรคเพื่อไทยเป็นร่างหลัก เพราะร่างของพรรคเพื่อไทยมีความยึดโยงประชาชน สอดคล้องกับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ มี สสร. มาเป็นกรรมการยกร่าง
อ่านต่อ