“ยรรยง” จี้รัฐบาลเร่งแก้ราคาข้าวต่ำ ชาวนาโอดแย่สุดในรอบ 10 ปี – ตาม “รมว.พาณิชย์” หยุดเดินสายสร้างภาพ หวังเห็นสัญญาจีนซื้อ-ขายข้าวจริง – แนะนายกฯ ตั้ง KPI “ศุภจี” วัดความสำเร็จราคาข้าว

นายยรรยง พวงราช อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงปัญหาราคาข้าวตกต่ำว่า ขณะนีผลผลิตข้าวโดยเฉพาะข้าวขาว ออกเกือบหมดแล้ว และข้าวหอมมะลิเริ่มทยอยออกในหลายพื้นที่เกือบร้อยละ 30 ซึ่งหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้นำชาวนา พ่อค้าข้าว และโรงสีแสดงความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ราคาข้าวเปลือกช่วงรัฐบาลอนุทินตกต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี คือราคาข้าวเปลือกเจ้า (ข้าวขาว 5%) ชาวนาขายได้แค่ตันละ 5,000-6,000 บาท แต่ช่วงรัฐบาลเศรษฐา ชาวนาขายได้ 9,500-11,000 บาท ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ ช่วงนี้ชาวนาขายได้เพียงตันละ 10,000-11,500 บาท ช่วงรัฐบาลเศรษฐาชาวนาขายได้ถึงตันละ 15,000-16,000 บาท แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่ปรากฏว่า รัฐบาลได้เริ่มเข้ามาจัดการแก้ไขปัญหาเพื่อช่วยพยุงราคาข้าวอย่างจริงจังแต่อย่างใด 

.

“แม้แต่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ซึ่งเป็นกลไกหลักที่รับผิดชอบ ก็ได้ข่าวว่า ยังไม่ได้แต่งตั้งเลย เห็นแต่รัฐมนตรีและผู้บริหารหน่วยงานบางท่าน ระดมออกข่าวว่า รัฐบาลได้ออกมาตรการ 4-5 อย่างเพื่อพยุงราคาข้าว เช่น ให้สหกรณ์การเกษตร ธกส. อตก และ อคส.ออกไปรับซื้อข้าวจากชาวนาในราคานำตลาด ทั่วทุกพื้นที่ประมาณ 4 ล้านตัน รวมทั้งมาตรการอื่น ๆ เช่น ชดเชยอัตราค่าดอกเบี้ยให้โรงสี หรือพ่อค้าข้าว ที่รับซื้อข้าวจากชาวนาในราคานำตลาด เป็นต้น แต่ไม่ปรากฏว่า ได้มีการดำเนินการดังกล่าว เพราะไม่ปรากฏว่า ชาวนาสามารถขายข้าวได้ในราคาสูงขึ้นแต่อย่างใด เห็นแต่ราคาข้าวไหลลงทุกวัน” นายยรรยง กล่าว

.

นายยรรยง ยังเห็นว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังมัวแต่ไปสร้างภาพโชว์ฝีมือนักขายระดับโลก ออกข่าวว่า สามารถขายข้าวล็อตใหญ่ให้จีนได้ถึง 500,000 ตัน ซึ่งคนในวงการเขาดูออกว่า รัฐบาลเล่นปาหี่หรือไม่ เพราะไม่เห็นมีสัญญาณว่า จีนต้องการจะซื้อข้าวชนิดใด ราคาเท่าไร จำนวนกี่ตัน ข้าวที่ซื้อขายจะเอามาจากไหน ส่งมอบที่ไหนเมื่อใด หน่วยงานใดเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ คาดว่า ถ้ารัฐบาลไทยและจีน ได้บรรลุข้อตกลงกันได้จริง ตามที่พยายามพาดหัวข่าวอวดผลงาน ก็น่าจะทำให้ราคาข้าวกระเตื้องขึ้นบ้าง แต่ความจริงกลับตรงกันข้าม

.

นายยรรยง ยังกังวลว่า ผู้เกี่ยวข้องในวงการข้าวส่วนใหญ่ คาดการณ์ว่า ปีนี้ชาวนาส่วนใหญ่ น่าจะเก็บเกี่ยวข้าวไปหมดเกลี้ยงในราคาตํ่าแบบขาดทุนตันละหลายพันบาทไปก่อนที่รัฐบาล จะสามารถขายข้าวล็อตใหญ่ส่งออกไปจีนหรือประเทศอื่น ๆ ได้และรัฐบาลสามารถขับเคลื่อนนโยบายพยุงราคาข้าวอย่างจริงจัง 

.

ดังนั้น ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกผิดหวังในรัฐบาลอนุทิน ที่อ้างว่า จะทำงานเร็ว มุ่งมั่นแก้ไขปัญหาต่าง ๆ รวมทั้งปัญหาเศรษฐกิจพื้นฐาน แม้จะมีเวลาทำงานค่อนข้างสั้น แต่ในความเป็นจริง รัฐบาลอนุทินยังไม่ได้ลงมือสร้างผลงาน หรือแก้ไขปัญหาให้ชาวนาเลย ทั้ง ๆ ที่มีเสียงเตือนจากนายกสมาคมชาวนา และแกนนำชาวนาหลายจังหวัด ตั้งแต่วันแรก ๆ ที่รัฐบาลอนุทินเข้ามาบริหารประเทศแล้ว

.

ส่วนที่นายอนุทิน ระบุจะช่วยลดค่าใช้จ่ายให้ชาวนาเช่น ค่าปุ๋ย ค่าพลังงาน ต่าง ๆ นั้น นายยรรยง เห็นว่า เท่าที่ได้ติดตามดูผลงาน ก็เห็นแต่นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ไปเปิดงานขายปุ๋ยธงเขียวราคาถูก แถวศรีสะเกษ อุบลฯ สุรินทร์ (เขตบ้านใหญ่) ก็ไม่น่าตอบโจทย์ชาวนาได้ เพราะผ่านฤดูเพาะปลูกไปเกือบ 2-3 เดือนแล้ว

.

นายยรรยง ยังขอให้นายอนุทินไปติดตามดูผลงานของนางศุภจี โดยใช้ตัวชี้วัด หรือ KPI ที่นางศุภจีเคยพูดในสภาอย่างมั่นใจ คือ ราคาข้าวเปลือกที่ชาวนาขายได้จริง และราคาส่งออกข้าวและปริมาณการส่งออกข้าวในช่วงของรัฐบาลนี้ ถ้านายอนุทินใจกว้างจริง ก็ลองไปรับฟังเสียงของชาวนาซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศนี้ด้วยว่า ปีนี้ได้กำไรหรือขาดทุนมากน้อยเพียงใด และชาวนาสามารถขายข้าวให้หน่วยงานต่าง ๆ จริงหรือไม่ และได้รับประโยชน์จากมาตรการพยุงราคาที่รัฐบาลโหมโฆษณาหาเสียงกับชาวนาอยู่ในช่วงนี้จริงหรือไม่

.

“ผมเองไม่แน่ใจว่าท่านนายกจะยอมรับความจริงได้ว่า รัฐบาลอนุทินเป็นรัฐบาลที่ทำให้ราคาข้าวตกต่ำที่สุดและทำให้ชาวนามีหนี้สินเพิ่มขึ้นมากที่สุดยิ่งกว่ารัฐบาลชุดใดๆที่ผ่านมาทั้งหมด” นายยรรยง กล่าว

.

#พรรคเพื่อไทย