พรรคเพื่อไทย ยืนยันความสำคัญ THACCA สร้างซอฟต์พาวเวอร์ “จิตวิญญาณความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย ควรทำให้กลายเป็นเครื่ิองยนต์ทางเศรษฐกิจอย่างแท้จริง”
เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2568 พรรคเพื่อไทย นำโดย นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตประธานกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เข้าร่วมงานเสวนา “THACCA กับโอกาสอุตสาหกรรมบันเทิงและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย” ร่วมกับเพจน้องง ซึ่งเป็นชุมชนเควียร์ออนไลน์ที่มาผู้ติดตามกว่า 400,000 คน ณ อาคารสีลมเอจ ทั้งนี้ งานเสวนานี้มีเป้าหมายเพื่อเปิดพื้นที่สนทนาเชิงนโยบายกับผู้สร้างสรรค์รุ่นใหม่ เพื่อถกเถียงและสร้างความเข้าใจร่วมกันว่า Soft Power ไทยจะเดินต่อไปได้อย่างไรในวันที่สถาบันกลางอย่าง THACCA กำลังเปลี่ยนผ่าน โดยในเวทีเสวนายังประกอบด้วย ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล อดีตประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านภาพยนตร์ สารคดี และแอนิเมชัน, นายดวงฤทธิ์ บุนนาค อดีตที่ปรึกษาและอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านการออกแบบ และนายอรรถพล สิทธวารยัน ศิลปินจากชุมชนน้องง
.
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมบันเทิงและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ได้กลายเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมและเศรษฐกิจไทย ทั้งในแง่การสร้างรายได้ การจ้างงาน และการผลักดัน Soft Power ของประเทศ หน่วยงานอย่าง “สำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์” (Thailand Creative & Cultural Agency: THACCA) จึงถูกก่อตั้งขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่เป็นสถาบันกลางในการสนับสนุน ส่งเสริม และพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทยอย่างบูรณาการ อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยวิกฤตการทางการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาจนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายในกลไกรัฐบาลรวมถึงการหายไปของ THACCA วิกฤตข้างต้นได้ก่อให้เกิดคำถามสำคัญต่ออนาคตของอุตสาหกรรมบันเทิงและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทยว่า ใครจะทำหน้าที่เป็นกลไกกลางในการเชื่อมโยงศิลปิน นักสร้างสรรค์ ภาครัฐ และภาคเอกชนเข้าด้วยกัน และประเทศไทยจะสูญเสียโอกาสอะไรไปบ้างเมื่อขาดหน่วยงานดังกล่าวที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนและกำหนดทิศทางอย่างเป็นระบบ
.
นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า “Soft Power เป็นเครื่องยนต์เศรษฐกิจที่ต้องอาศัย ‘คน’ เป็นหัวใจ และต้องใช้เวลาปลูกฝังให้เติบโต ในช่วงที่ผ่านเราเคยทำกรุงเทพฯ เมืองแฟชั่น (Bangkok Fashion City), ครัวไทยสู่ครัวโลก แต่ที่ไม่ยั่งยืน เพราะไม่มีการทำอะไรที่สร้าง legacy เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลโครงการก็ถูกพับและไม่ได้ไปต่อ รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจึงมุ่งมั่นที่จะคิดหลักการใหม่ทั้งระบบ โดยรัฐบาลจะทำหน้าที่เตรียมดินให้ดี ร่วมมือกับภาคเอกชนในฐานะผู้ปลูก และฝีมือและเสน่ห์ของคนไทย คือ พืช ดังนั้น Soft Power จึงไม่ได้เกิดในชั่วข้ามคืน แต่หากเราสร้างระบบที่ถูกต้อง สนับสนุนคนให้เติบโต วันหนึ่งความคิดสร้างสรรค์ของไทยจะกลายเป็นพลังที่เปลี่ยนประเทศได้จริง”
.
ด้าน ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี กล่าวว่า “ในมุมมองหนึ่ง Soft Power อาจไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดในเชิงตัวเลขทางเศรษฐกิจ แต่มันสะท้อน ‘ตัวตน’ และ ‘จิตวิญญาณ’ ของความเป็นไทย ที่ซ่อนอยู่ในวิถีชีวิต ความเชื่อ และทุกการแชร์ของเรา ที่ล้วนปรากฏวัฒนธรรมในแบบที่เราอาจไม่รู้ตัว ดังนั้น ‘การไม่สำคัญ’ จึงกลายเป็น ‘เรื่องจำเป็น’ เพราะสิ่งเล็ก ๆ ที่เราเคยมองข้ามนั้น มีพลังในการขับเคลื่อนสังคมอย่างเงียบ ๆ Soft Power เริ่มต้นจากสิ่งเรียบง่าย ความคิดนอกกรอบและความแปลกคือพลังจำเป็นที่พาประเทศเข้าสู่เวทีโลก หากมอง Soft Power เป็นเพียงสินค้า มันก็จะมีวันที่หมดอายุ แต่ถ้าเรามองมันเป็นระบบนิเวศที่มีชีวิต ศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ของไทยจะไม่มีวันสูญหาย”
.
นายดวงฤทธิ์ ชี้ว่า THACCA คือ พื้นที่เปลี่ยนทุนให้เป็นโอกาส เพราะประเทศไทยมีทุนวัฒนธรรมที่ชัดที่สุดในภูมิภาคที่เราจะสามารถเปลี่ยนเป็นโอกาสได้ โดยกล่าวว่า “ประเทศไทยไม่ได้มีทางเลือก ตลาดในปัจจุบันกลายเป็นการผูกขาดชั่วคราว เมื่อเราสร้างสิ่งหนึ่งไปสักระยะ เราก็ต้องสร้างสิ่งใหม่เพื่อมาทดแทน โดยใช้ความสามารถสร้างสรรค์เป็นฐาน ประเทศไทยมีทุนเฉพาะตัวด้านวัฒนธรรม และมีคาแรดเตอร์ชัดที่สุดในภูมิภาค สิ่งที่เห็นได้ผ่าน คือ THACCA การเปลี่ยนทุนให้เป็นโอกาส และนำไปสู่เม็ดเงินที่ไม่ได้ผ่านแค่ทุนผูกขาด หัวใจของ Soft Power และ THACCA จึงหนีไม่พ้นเรื่องที่ได้กล่าวไป และเป็นสิ่งที่ขาดกันไม่ได้”
.
ส่วน อรรถพล สิทธวารยัน ได้สะท้อนถึง โครงสร้างที่มีมีความหมายต่อการทำงานในฐานะศิลปิน ไว้ว่า “ในระยะแรกเจอแต่ปัญหา แต่ THACCA ปูทางให้เกิดชุมชน สังคมศิลปะ รวมไปถึงเงินทุนให้กับศิลปินใหม่และเก่า ได้มาเจอกัน เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ส่งผลให้เติบโดในเส้นทางนี้ได้ง่ายขึ้นกว่าสมัยก่อน และอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ทำให้ศิลปะเข้าใจในมุมกว้าง THACCA ทำให้มีความหมายมากขึ้น ศิลปะถูกเข้าใจในมุมกว้าง ไม่ใช่เรื่องไกลตัว มีการสื่อสารและติดตามได้หลากหลายด้วยตัวเราเอง มีการตีความโดยไม่ถูกจำกัดในกรอบมากขึ้น THACCA ไม่ใช่แสงสว่างในเชิงงบประมาณ แต่คือการวางรากฐานทางวัฒนธรรมแบบใหม่ในสังคมโดยสามารถบริโภคและเสพงานได้กว้างขวางมากขึ้น”
.
ทั้งนี้ นพ.สุรพงษ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “แม้วันนี้ Thacca จะอยู่ในช่วง “พักร้อน” แต่สิ่งที่ Thacca สร้างไว้คือรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย และเป็นต้นทุนทางจิตวิญญาณที่ต้องรักษา ส่งต่อ และผลิดอกออกผลในรุ่นต่อไป”
.
#พรรคเพื่อไทย #THACCA #SoftPower #สุรพงษ์สืบวงศ์ลี










