‘เพื่อไทย’ ยื่นญัตติ ให้รัฐสภามีมติชง ครม. ก้าวแรกทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ
วันที่ 11 ธันวาคม 2568 นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน และนายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ ร่วมกันแถลงข่าว กรณีที่พรรคเพื่อไทยยื่นญัตติให้รัฐสภามีมติเพื่อส่งให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) จัดทําประชามติสอบถามประชาชนว่า สมควรจะให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เพื่อให้ครบถ้วนตามกระบวนการ ตามกฎหมายประชามติ ตามรัฐธรรมนูญ และตามคําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ พวกเราเข้าใจว่า ขณะนี้ญัตติที่เรายื่นไปนั้น ได้นําเสนอต่อประธานรัฐสภาแล้ว และมีการสั่งบรรจุไว้แล้ว โดยมีความตั้งใจ ความต้องการร่วมกันว่า หลังจากการพิจารณาวาระสองเสร็จสิ้นวันนี้ เราอยากขอให้รัฐสภามีมติเสียเลยในวันนี้ด้วย และทราบว่าก็มีญัตติในลักษณะเดียวกันของพรรคอื่นด้วย
นายจาตุรนต์ กล่าวย้อนไปถึงการที่ ครม.เคยระบุเรื่องการจะมีมติเพื่อส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทําประชามติเพื่อจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งการทําประชามติโดย ครม. นั้นไม่มีผลผูกพัน แต่ยังมีประโยชน์ทางการเมืองอยู่ และเราได้เร่งรัดให้ ครม. รีบจัดให้มีการลงประชามติโดยเร็ว เพื่อต้องการให้รัฐบาลแสดงความจริงใจ แต่เมื่อ ครม.ฟังความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว จึงแสดงให้เห็นว่า การที่ ครม.พูดไปคราวก่อนนั้น แต่การพูดไป ที่ไม่ได้ศึกษาอะไรให้ชัดเจน จึงเกิดคําถามว่าจะทําประชามติ พร้อมกับวันเลือกตั้งได้อย่างไร
เนื่องจากคําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ระบุว่า หากรัฐสภาประสงค์ให้ร้องขอไปยัง ครม.ให้จัดทําประชามติ ดังนั้น การยื่นญัตติในคราวนี้ เป็นการยื่นที่สอดคล้องกับคําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และทําให้เกิดการจัดทําประชามติได้พร้อมกับวันเลือกตั้ง ที่สําคัญคือ ถ้ารัฐธรรมนูญผ่านวาระสองแล้ว รอ 15 วัน และผ่านวาระที่สาม จะเกิดการจัดทําประชามติสองคําถาม หรือสองครั้งในคราวเดียว ตามที่หลายฝ่ายต้องการ
นายจาตุรนต์ กล่าวอีกว่า แม้อาจจะมีบางคนตั้งคําถามว่า การที่ให้รัฐสภาลงมติร้องขอให้ ครม.จัดให้มีการลงประชามตินั้น จะอาศัยรัฐธรรมนูญมาตราใด แต่ด้วยรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันไม่มีบทบัญญัติว่าด้วยการจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งย่อมไม่มีบัญญัติไว้ว่า หากจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะต้องถามประชามติเสียก่อน แต่จากการดําเนินการเรื่อยมา ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า หากจะจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ให้จัดให้มีการทําประชามติเสียก่อน
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ความจําเป็นในการยื่นญัตติครั้งนี้ เพื่อให้จัดทํารัฐธรรมนูญประชามติ ในคําถามที่หนึ่ง โดยไม่ต้องรอคําถามที่สอง เพราะคําถามที่สองจะแล้วเสร็จเมื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบวาระที่สาม เราจึงไม่ต้องการให้ ครม.รอไปถึงเวลานั้น เพื่อเป็นหลักประกันอย่างน้อยที่สุด หากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น หรือมีเงื่อนไขอะไร ที่จะทําให้ไม่สามารถให้ความเห็นชอบ รัฐธรรมนูญวาระสามได้ หรือรัฐสภาไม่เห็นชอบ ก็จะมีคําถามที่หนึ่ง ถามประชาชนไว้เบื้องต้นว่า เห็นควรจะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่
ขอบคุณ TheReporters
#พรรคเพื่อไทย #แก้รัฐธรรมนูญ
บทความที่เกี่ยวข้อง
10 ธ.ค. 68 เอกพร รักความสุข กรรมาธิการ(จากพรรคเพื่อไทย) ซึ่งสงวนความเห็นในมาตรา 256/2 อภิปรายระบุว่า ในมาตรา 256/1 มติของรัฐสภาไม่เห็นชอบให้มีการจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ ทำให้เราต้องจำยอมให้มีระบบที่ออกแบบคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ 35 คน และคณะกรรมาธิการรับฟังความคิดเห็น 35 คน
อ่านต่อ