มุ่งสู่เศรษฐกิจมูลค่าสูง ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ศาสตราจารย์ ดร. ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี เปิดตัวและกล่าวแสดงวิสัยทัศน์เป็นครั้งแรกในงาน “ยกเครืองประเทศไทย เพือไทยทําได้” ยศชนันได้สรุปบทบาทการทำงานในฐานะนักวิจัยและนักบริหาร โดยเฉพาะงานวิจัยสำคัญที่เข้าแก้ไขข้อจำกัดของความพิการ และการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากระบบประสาทและสมอง พร้อมแสดงวิสัยทัศน์ในการผลักดันประเทศเข้าสู่การเป็นประเทศรายได้สูง ด้วยเศรษฐกิจมูลค่าสูง
วิสัยทัศน์สำคัญของ ศ.ดร. ยศชนัน ชี้ให้เห็นว่าวิกฤติที่ไทยกำลังเผชิญในปัจจุบันแตกต่างจากวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 ที่ครั้งนี้ยศชนันมองว่าเป็นวิกฤติที่คับขันและซับซ้อนกว่า จากการเป็นวิกฤติเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว สู่วิกฤติที่ซ้อนทับกับวิกฤติอื่นๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี (Tech Disruption) ความเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์(Geopolitic) และความเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ (Climate Change)
ทว่า ศ.ดร. ยศชนัน กล่าวให้ความมั่นใจว่าประเทศไทยยังมีความหวัง เสนอการปรับโครงสร้างต่างๆ ใหม่ โครงสร้างเศรษฐกิจและโครงสร้างทางเทคโนโลยี ผสมกับความคิดสร้างสรรค์ของความเป็นคนไทย ยศชนัน ยืนยันว่าทุกอย่างย่อมเป็นไปได้ และพร้อมนำพาประเทศให้หลุดพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปให้ได้
ยศชนัน วางเป้าหมายสำคัญของพรรคเพื่อไทยคือการวางรากฐานประเทศสู่การเป็นประเทศรายได้สูง ด้วยการสร้างเศรษฐกิจมูลค่าสูง ยศชนันเสนอให้พัฒนาเครื่องจักรทางเศรษฐกิจทั้งเครื่องจักรเดิม คือภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรมการผลิต และภาคบริการ ซึ่งยศนันมองว่าการยกระดับต้องเพิ่มผลิตภาพ(Productivity) โดยใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้าไปพัฒนาในทุกอุตสาหกรรมในทุกรูปแบบ
ยศชนันยกตัวอย่างภาคเกษตรกรรม และย้ำว่าพรรคเพื่อไทยไม่เคยทิ้งภาคการเกษตร ในการพัฒนาด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การเกษตรต้องมาเป็นอันดับ 1 พร้อมยกตัวอย่างว่าภาคการวิจัย คนไทย นักวิจัยไทยมีความสามารถและความรู้ พร้อมที่จะให้ความร่วมมือ รวมถึงแสดงวิสัยทัศน์ในการสร้างความร่วมมือจากรัฐ ส่งเสริมสตาร์ทอัพและคนรุ่นใหม่ให้ก้าวไปในระดับโลก
ทั้งยังกล่าวถึงการเปิดโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI และการพัฒนาภาคบริการที่ต้องมีความปลอดภัย ส่งเสริมความสุข โดยที่สำคัญคือยศชนันกล่าวถึงการสนับสนุนด้านกีฬาทุกรูปแบบ และย้ำว่าถึงการสนับสนุนดนตรีและศิลปะ ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่ใน DNA ของคนไทย
นอกจากการอัพเกรดเครื่องจักรทางเศรษฐกิจที่มีอยู่ ยศชนัน ยังกล่าวถึงสร้างเครื่องจักรทางเศรษฐกิจใหม่ซึ่งยศชนันชี้ว่า การรับเทคโนโลยีต่างประเทศ ประเทศไทยต้องเตรียมการพัฒนาคนและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการวิจัย ทำให้ประเทศไทยสามารถรับความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ นำไปสู่การต่อยอดอุตสาหกรรมที่มีอยู่ไปสู่อุตสาหกรรมคุณภาพสูงได้ด้วยความรู้และงานวิจัย
เพื่อรอบรับเศรษฐกิจมูลค่าสูงยศชนันสรุปการหน้าที่ของภาครัฐไว้ 3 ประการ คือ
1. การสร้างความเชื่อมั่นผ่านการสร้างความมั่นคงในทุกด้าน และ 2. การทำให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์ (Rule of Law) ยศชนันเสนอการแก้ปัญหาการคอรัปชั่นด้วยการสร้างความโปร่งใสด้วยรัฐบาลดิจิตัล และการสร้างวัฒนธรรมการต่อต้านคอรัปชั่น
และข้อ 3 คือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน(Infrastructure) ซึ่งยศชนันเน้นไปที่การสร้างคนคือการศึกษา โดยยศชนันวางเงื่อนไขว่าการพัฒนาการศึกษาจะต้องปรับตัวอย่างไร หากประเทศไทยมีเป้าหมายเป็นระบบเศรษฐกิจคุณภาพสูง การศึกษาในทุกระดับชั้นตลอดจนการอัพสกิล รีสกิลผู้สูงอายุ ทุกองคาพยพเมื่อมีเป้าหมายเดียวกัน ก็จะสามารถปรับปรุงไปยังเป้าหมายเดียวกันได้
สุดท้ายยศชนันสรุปว่าการลงมือทำ และการเดินทางในครั้งนี้ ไม่ใช่แค่การเดินทางของพรรคเพื่อไทย แต่คือการเดินทางเพื่อให้ทุกคนได้กลับมาร่วมกันสร้างประเทศไทยขึ่้นอีกครั้ง ยศชนันกล่าวว่า
‘การเดินทางของพวกเราในครั้งนี้ คงไม่ใช่แค่การเดินทางของพรรคเพื่อไทยแล้ว แต่เป็นการเดินทางให้พวกเราได้กลับมาช่วยกันสร้างประเทศไทยที่ดีขึ้นอีกครั้ง วันนี้ทุกคนจากพรรคไทยรักไทย จากพรรคที่อาจจะไม่ได้รับความยุติธรรม ทุกคนกลับมาที่บ้านของเรา บวกกับคนรุ่นใหม่ของพรรคเพื่อไทย เรากลับมารวมกัน ผมมั่นใจมากว่าเราทำได้’
และส่งท้ายว่า
‘เริ่มจากวันนี้ เวลานี้ วินาทีนี้ ยกเครื่องประเทศไทย ถ้าเพื่อไทยทำได้ ประเทศไทยทำได้ แน่นอน’
ผลิตสื่อโดย พรรคเพื่อไทย เลขที่ 197 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400 จำนวน 1 ชุด ตามวันเวลาที่ปรากฏ ที่ส่งมาในครั้งนี้
บทความที่เกี่ยวข้อง
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ในงาน “ยกเครืองประเทศไทย เพือไทยทําได้” ย้ำนโยบายแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของพี่น้อง โดยมีมาตรการปลดหนี้ให้คนไทย และสานต่อนโยบายหวยเกษียณภายใน 3 เดือน
อ่านต่อ