เจาะวิสัยทัศน์ “ศ.ดร.ยศชนัน” แคนดิเดตนายกฯ ม้ามืดจากเพื่อไทย กับยุทธศาสตร์ “ขี่คอยักษ์” ดันโมเดลรัฐบาล AI พลิกโฉมประเทศแบบ Science-based

📍“ถ้าอีลอน มัสก์ มาเกิดที่เมืองไทย เจอระบบนิเวศแบบนี้เข้าไป ก็อาจจะไม่รอด”

นี่คือประโยคที่สะท้อนวิธีคิดของ ศาสตราจารย์ ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ หรือ “อ.เชน” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ได้อย่างเจ็บแสบ การก้าวเดินออกจากห้องแล็บวิศวกรรมชีวการแพทย์ระดับโลก มาสู่สปอตไลต์ทางการเมืองในฐานะ “แคนดิเดตนายกฯ” ครั้งนี้ เปรียบเสมือนการผสานฐานเสียงรากหญ้าเข้ากับนวัตกรรมเปลี่ยนโลก

ในรายการ The Secret Sauce เอพิโสดล่าสุด เคน นครินทร์ ได้นั่งคุยแบบเจาะลึกกับ ศ.ดร.ยศชนัน ถึงเบื้องลึกการตัดสินใจและวิสัยทัศน์ที่จะนำพาประเทศไทยออกจากกับดักเดิมๆ

  • จากหลังบ้านสู่หน้าฉาก : เมื่อนักวิจัยทนเห็น “ของดี” ถูกฝังกลบไม่ได้

หลายคนอาจมองว่า ดร.ยศชนัน เป็นหน้าใหม่ แต่ความจริงแล้วเขาคือ “มันสมอง” ผู้อยู่เบื้องหลังนโยบายเทคโนโลยีของพรรคเพื่อไทยมาอย่างยาวนาน และเคยลงสมัคร ส.ส. เชียงใหม่ ตั้งแต่ปี 2557 การตัดสินใจขยับจากผู้ออกแบบนโยบายมาเป็นผู้ถือธงนำทัพครั้งนี้ เกิดจากความอัดอั้นในฐานะนักวิจัยที่เห็นศักยภาพของคนไทย

“เราเป็นนักวิจัย เรารู้ดีว่าประเทศติดขัดตรงไหน (Pain Point) ระบบราชการมันอุ้ยอ้ายยังไง แต่ในขณะเดียวกัน เราเห็นศักยภาพคนไทยที่ซ่อนอยู่มหาศาล” ดร.ยศชนัน กล่าวด้วยแววตามุ่งมั่น ก่อนจะทิ้งท้ายประโยคสำคัญว่า “วันนี้เมื่อโอกาสมาถึง ถ้าเราเชื่อว่าเราปลดล็อกมันได้ ทำไมเราถึงจะไม่ทำ?”

สำหรับเขา ประเทศไทยเหมือนขุมทรัพย์ที่ถูกถมทับด้วยระบบที่ไร้ประสิทธิภาพ และเครื่องมือเดียวที่จะขุดมันขึ้นมาได้ ไม่ใช่การเมืองแบบเก่า แต่คือ “วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี”

  • ยุทธศาสตร์ “ขี่คอยักษ์” (Standing on the Giant’s Shoulders)

คำถามใหญ่ที่สังคมสงสัยคือ “นักวิชาการสายเทคฯ” จะจูนคลื่นตรงกับ “พรรคการเมืองสายรากหญ้า” ได้อย่างไร? ดร.ยศชนัน ตอบคำถามนี้ว่า

“พรรคเพื่อไทยเปรียบเสมือนยักษ์ที่กำลังอุ้มผมอยู่” เขาอธิบาย “ยักษ์คือฐาน พรรคเพื่อไทยมีฐานเสียง มีความเข้าใจเรื่องปากท้อง และมีกลไกในการขับเคลื่อนนโยบายที่ทรงพลังมาก ส่วนผม… เปรียบเสมือนคนตัวเล็กที่อยู่บนไหล่ยักษ์ หน้าที่ของผมคือการบอกยักษ์ว่า สิ่งที่คุณทำมาน่ะดีแล้ว แต่ลองทำตรงนี้เพิ่มด้วย Tech ดูไหม? ผมทำเป็น ผมเคยทำมาแล้ว”

นัยสำคัญของคำตอบนี้คือ การไม่ได้เข้ามาเพื่อ “รื้อทิ้ง” แต่เข้ามาเพื่อ “ติดเทอร์โบ” เป็นการ Synergy ระหว่างจุดแข็งดั้งเดิมเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง กับเครื่องยนต์ตัวใหม่อย่าง Science-based Policy เพื่อให้ยักษ์ตนนี้วิ่งได้เร็วและถูกทิศทางในโลกยุค Disruption

  • ผ่าตัดโครงสร้าง : ทำไม (ถ้าเป็น) “อีลอน มัสก์” ก็อาจจะรอดในไทย?

ในช่วงหนึ่งของการสนทนา ดร.ยศชนัน ได้ฉายภาพปัญหาโครงสร้างประเทศที่ทำให้คนเก่งต้องสมองไหล หรือไปไม่ถึงฝั่งฝัน

“สมมติว่า นายยศชนัน ไปเกิดที่ซิลิคอนวัลเลย์ กับ นายอีลอน มัสก์ มาเกิดที่ประเทศไทย…คุณเคนเชื่อไหมว่า ถ้านายยศชนันไปอยู่ที่นั่น มีสิทธิ์รอดและประสบความสำเร็จ แต่ถ้านายอีลอน มัสก์ มาเจอระบบนิเวศ (Ecosystem) แบบไทยๆ เข้าไป ก็อาจจะไม่รอด”

คำพูดนี้ตอกย้ำว่า ปัญหาไม่ใช่คนไทยไม่เก่ง แต่ “ดิน” ที่เราใช้ปลูกเมล็ดพันธุ์มันไม่อุดมสมบูรณ์พอ นโยบายของเขาจึงมุ่งเน้นการสร้าง “Silicon Valley เมืองไทย” ผ่านการแก้ผังเมือง (Town Planning) ดึงภาคเอกชนและอุตสาหกรรมมาล้อมมหาวิทยาลัย

“เราต้องให้นักศึกษาปี 1 ที่มีความสามารถ เช่น การเขียนโค้ด ได้ทำงานจริงหลังเลิกเรียน ใช้เครื่องมือของมหาวิทยาลัย ลดต้นทุนบริษัท เด็กมีรายได้ ปลดหนี้ กยศ. ได้ตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ” นี่คือโมเดลที่แก้ปัญหาเศรษฐกิจที่รากฐาน ไม่ใช่แค่การแจกเงิน

  • พลิกโฉมเกษตรกรด้วย ‘รัฐบาล AI’ เลิกเดาแล้วเอาข้อมูลจริงมาคุย

ในมิติของการช่วยเหลือเกษตรกรและ SME ดร.ยศชนัน เสนอแนวคิดที่ล้ำกว่าการประกันราคา นั่นคือการสร้าง Government RAG System หรือระบบ AI ที่มีฐานข้อมูลแม่นยำของภาครัฐ เพื่อเป็น “กุนซือส่วนตัว” ให้ประชาชน

“เราไม่ควรปล่อยให้เกษตรกรไปสุ่มถาม Google หรือ ChatGPT ว่าจะปลูกอะไร ซึ่งอาจได้ข้อมูลที่ผิดพลาด รัฐบาลต้องมีระบบที่ตอบได้เลยว่า ดินของคุณ พืชพรรณของคุณ วันนี้ควรปลูกอะไร หรือทำอาชีพอะไรถึงจะรอด”

ดร.ยศชนัน ต้องการเปลี่ยนบทบาทรัฐจาก “ผู้สั่งการ” เป็น “ผู้แนะนำ” (Recommender) ที่ใช้ Big Data นำทางชีวิตประชาชน ให้หลุดพ้นจากความยากจนด้วยข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำ

  • การทูตยุคใหม่ พี่ใหญ่ผู้สร้างสันติภาพ และทางออกปัญหากัมพูชา

เมื่อถูกถามถึงประเด็นร้อนอย่างความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา และภาพลักษณ์ในอดีตที่ยังตามหลอกหลอนพรรค ดร.ยศชนัน ยืนยันในหลักการการเจรจาและการเป็นพี่ใหญ่ในอาเซียน

“สิ่งที่เราพยามทำ คือเราอยากสนับสนุนให้ไทย-อาเซียน-รอบข้าง เน้นการเจรจาก่อนหากเป็นไปได้… ในฐานะที่เราเป็นพี่ใหญ่ สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องมองความเป็นอยู่และความปลอดภัยของคนไทยเป็นหลัก”

ดร.ยศชนัน เสนอนโยบายการทูตแบบ Issue-based เลิกแนวคิดต้องเลือกข้าง แต่ให้ดูที่ผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก “เรื่องเทคโนโลยี ถ้าจีนเก่ง เราคุยกับจีน… เรื่องความมั่นคง ถ้าต้องใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ เราคุยกับอเมริกา” หากไทยวางตัวเป็นกลางและเป็นแกนนำสร้างสันติภาพ (Peace) ได้ ห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ของโลกจะไหลเข้ามา และไทยจะได้ประโยชน์สูงสุดในฐานะศูนย์กลาง

  • รถที่ “วิ่งไป ซ่อมไป”

สุดท้าย เมื่อถามถึงความกดดันและอาถรรพ์ทางการเมืองที่มักจบไม่สวยสำหรับผู้นำพรรคนี้ ดร.ยศชนัน ตอบด้วยรอยยิ้มที่มั่นใจ โดยเปรียบเปรยตัวเองเป็นเหมือนรถที่พร้อมจะ “วิ่งไป ซ่อมไป” (Transform while driving)

เขาพร้อมยอมรับในสิ่งที่ไม่รู้ และเปิดกว้างหาคนเก่งมาช่วย “การมีเพื่อนย่อมดีกว่ามีศัตรู” คือคติประจำใจที่เขาจะใช้บริหารความขัดแย้ง 

ฟังเต็ม – https://www.facebook.com/reel/679593978422967

#พรรคเพื่อไทย #ยกเครื่องประเทศไทย #เพื่อไทยทำได้ #ยศชนันวงศ์สวัสดิ์

ผลิตสื่อโดย พรรคเพื่อไทย เลขที่ 197 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400 จำนวน 1 ชุด ตามวันเวลาที่ปรากฏ ที่ส่งมาในครั้งนี้