“เพื่อไทย” เสนอ “โฉนดเพื่อเกษตรกรรม” ส่งเสริมอาชีพ ขยายโอกาสบนที่ดิน ส.ป.ก. ตั้งเงื่อนไขปลูกไม้ยืนต้นฟื้นฟูป่า ควบคู่การทำธุรกิจ

วันที่ 14 พฤษภาคม 2568  นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการดำเนินงานของสภาผู้แทนราษฎรระหว่างปิดสมัยประชุมสภาว่า นอกเหนือจากการเตรียมอภิปรายสนับสนุนร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2569 แล้ว พรรคเพื่อไทยยังได้เตรียมชุดกฎหมายที่ส่งเสริมอาชีพ และเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจให้พี่น้องประชาชนอีกหลายฉบับ เพื่อแก้ไขหลักเกณฑ์ในหลายธุรกิจ ให้ผู้ประกอบธุรกิจรายเล็กและรายกลาง มีโอกาสในการสร้างได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีเกียรติ มีศักดิ์ศรีในการประกอบอาชีพเพิ่มมากขึ้น เช่น พ.ร.บ.ปลดล็อคที่พักขนาดเล็ก (แก้ไข พ.ร.บ.โรงแรม), พ.ร.บ.สถานบริการ, พ.ร.บ.ภาพยนตร์ และ พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า เป็นต้น โดยจะมีการยื่นกฎหมายต่างๆเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรในช่วงปิดสมัยประชุมสภานี้

.

นายชนินทร์กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีกฎหมายอีกฉบับที่ได้เสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ตามแนวคิดที่พรรคเพื่อไทยได้หาเสียงและประกาศเป็นนโยบายไว้ และเป็นที่หวังของพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ ส.ป.ก. อย่างมาก นั่นก็คือร่าง พ.ร.บ.โฉนดเพื่อเกษตรกรรม (แก้ไข พ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม) ที่จะปลดล็อคข้อจำกัดของการประกอบอาชีพของเกษตรกรในที่ดิน ส.ป.ก. ที่ปัจจุบันมีมากกว่า 30 ล้านไร่ทั่วประเทศ ให้สามารถยื่นคำขอเปลี่ยนเอกสารสิทธิ์ที่ทำประโยชน์ถูกต้องตามหลักเกณฑ์มาแล้วครบ 5 ปี เป็น “โฉนดเพื่อเกษตรกรรม“ ได้ โดยจะเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจใน 3 ส่วนหลักๆ คือ

.

1 ) สามารถโอนที่ดินกันระหว่างกลุ่มเกษตรกร หรือสถาบันเกษตรกรที่มีคุณสมบัติครบถ้วนได้

2 ) สามารถใช้ที่ดินเพื่อประกอบธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวเนื่องกับเกษตรกรรม เพิ่มเติมได้มากขึ้น 

3 ) ต้องปลูกหรือคงไม้ยืนต้นตามหลักเกณฑ์ อย่างน้อย 10 ต้นต่อไร่ เพื่อฟื้นฟูพื้นที่สีเขียว ให้เป็นป่าทดแทนเพิ่มเติมในประเทศไทย

.

“รูปแบบการทำธุรกิจปัจจุบันเปลี่ยนไปมาก พรรคเพื่อไทยส่งเสริมให้การทำอาชีพเกษตรกรรมสามารถต่อยอดไปประกอบอาชีพอื่นๆที่เกี่ยวข้องได้ อาทิ การทำโฮมสเตย์หรือที่พักในพื้นที่เกษตร การทำศูนย์จำหน่าย แปรรูปหรือแลกเปลี่ยนสินค้า ตลอดจนใช้พื้นที่ป่าทดแทนหรือพื้นที่เกษตรเพื่อรองรับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศได้ สิ่งเหล่านี้คือโอกาสใหม่ๆ ที่จะทำให้เกษตรกรในพื้นที่ ส.ป.ก. มีรายได้และโอกาสทางธุรกิจมากขึ้น โดยส่งเสริมการเพิ่มพื้นที่สีเขียวผ่านการปลูกไม้ยืนต้นไปพร้อมกัน” นายชนินทร์กล่าว

.

#พรรคเพื่อไทย