พลตำรวจโทวิโรจน์ เปาอินทร์ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ถึงแก่อนิจกรรมอย่างสงบในวัย 91 ปี พรรคเพื่อไทยร่วมไว้อาลัย ยกย่องเป็นบุคลากรคุณภาพของพรรค
พรรคเพื่อไทยขอแสดงความเสียใจ ต่อการจากไปของพลตำรวจโทวิโรจน์ เปาอินทร์ เป็นอย่างยิ่ง ในฐานะที่เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพของพรรคเพื่อไทย พลตำรวจโทวิโรจน์เคยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตลอดจนการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2566 ท่านได้ดำรงตำแหน่ง เป็น สส.บัญชีรายชื่อลำดับ 1 พรรคเพื่อไทย และได้นั่งเป็นประธานการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันแรก
.
พลตำรวจโทวิโรจน์ เปาอินทร์ จึงเป็นบุคคลที่พรรคเพื่อไทยให้ความเคารพนับถือ เป็นผู้มีความรู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย มีประเด็นข้อแนะนำในกฎหมายสำคัญของพรรคเพื่อไทยเสมอมา ท่านมีรอยยิ้มที่จริงใจ มีเสียงหัวเราะ มีจิตใจเมตตาเอื้อเฟื้อแก่ทุกคน ทั้งพี่น้องสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรรมการบริหารพรรค ตลอดจนเจ้าหน้าที่พรรคเพื่อไทยและสมาชิกพรรคเพื่อไทยอยู่เสมอมามิได้ขาด
.
พรรคเพื่อไทย จึงขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อจากการจากของพลตำรวจโทวิโรจน์ เปาอินทร์ ขอเป็นกำลังใจแก่ครอบครัวเปาอินทร์ พรรคเพื่อไทยขอแสดงความอาลัยไว้ ณ โอกาสนี้
.
ประวัติส่วนตัว
.
พลตำรวจโทวิโรจน์ เปาอินทร์ เกิดวันที่ 7 ธันวาคม 2476 จบการศึกษาโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ประวัติรับราชการและงานการเมืองผ่านตำแหน่งสารวัตรใหญ่ สถานีตำรวจนครบาลสำเหร่ และตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล
.
เริ่มต้นเข้าสู่เส้นทางการเมือง เป็นอดีต ส.ส.อ่างทอง พรรคประชากรไทย และพรรคชาติไทย ต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน ในคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) และได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี 2 สมัย คือ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาลของ พล.อ.สุจินดา คราประยูร และเป็นรอง นายกฯ ในรัฐบาลของนายชวน หลีกภัย ในปี พ.ศ.2543
.
ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2550 ลงสมัคร ส.ส.ระบบสัดส่วนลำดับที่ 5 ของกลุ่มที่ 7 ในสังกัดพรรคพลังประชาชน แต่ก็ไม่ได้รับเลือกตั้ง
.
ในปี 2552 ร่วมเป็นกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองของรัฐสภา ก่อนที่จะเข้าร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย และรับตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
.
การเลือกตั้ง 2554 ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย จากนั้นในเดือนตุลาคม 2555 ได้รับแต่งตั้งจากกรรมการบริหารพรรค ให้ทำหน้าที่รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
.
นอกจากนี้ ในช่วงการเมืองหลังการรัฐประหารปี 2557 ในช่วงรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น มีเกร็ดบันทึกสำคัญไว้เรื่องหนึ่ง ว่าพลตำรวจโทวิโรจน์ เปาอินทร์ คือหนึ่งในผู้ถูกดำเนินคดีจากกรณีที่พรรคเพื่อไทยเตรียมจัดแถลงข่าว “4 ปีที่ล้มเหลวของรัฐบาลและคสช.” เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2561 แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสั่งห้ามโดยอ้างคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 ว่าการแถลงข่าวอาจเข้าข่ายการชุมนุมทางการเมือง กรรมการบริหารพรรคจึงยกเลิกแถลงข่าว แต่ให้ นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายวัฒนา เมืองสุข และ นายชูศักดิ์ ศิรินิล แสดงความเห็นส่วนตัวแทน จนทั้งสามถูกดำเนินคดีตาม มาตรา 116 ส่วนแกนนำอีก 9 คน ได้แก่ พลตำรวจโทวิโรจน์ เปาอินทร์ นายภูมิธรรม เวชยชัย นายชัยเกษม นิติศิริ นายนพดล ปัทมะ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง และคนอื่น ถูกกล่าวหาฝ่าฝืนคำสั่งห้ามชุมนุม ต่อมา 30 พฤษภาคม 2562 อัยการสั่งยุติคดีฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. เพราะกฎหมายถูกยกเลิก แต่ให้ดำเนินคดี มาตรา 116 ต่อ จนวันที่ 24 กันยายน 2562 อัยการและตำรวจมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ทำให้คดีทั้งหมดสิ้นสุดลง
.
จากนั้น การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 พลตำรวจโทวิโรจน์ เปาอินทร์ ได้รับเลือกตั้ง เป็น สส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย และทำหน้าที่ประธานประชุมสภาชุดที่ 26 ในนัดแรกอีกด้วย
.
#พรรคเพื่อไทย #วิโรจน์เปาอินทร์
บทความที่เกี่ยวข้อง
บทความ “อนาคตของประเทศไทย: เปลี่ยนความเป็นกลางเป็นโอกาส” โดย ดร.นลินี ทวีสิน อดีตประธานผู้แทนการค้าไทย ตีพิมพ์ใน บางกอกโพสต์ กล่าวถึงแนวทางเชิงยุทธศาสตร์ที่ประเทศไทยควรใช้ในยุคโลกหลายขั้ว เพื่อเปลี่ยน “ความเป็นกลางทางการเมือง” ให้กลายเป็น “สินทรัพย์ทางเศรษฐกิจ” ที่สร้างความเชื่อมั่นและดึงดูดพันธมิตรทั่วโลก
อ่านต่อ