พิชัย เตือนเศรษฐกิจไทยเสี่ยงถดถอยจากน้ำท่วม ส่งออกทรุด กระทบจีดีพี  จี้รัฐบาลเร่งเจรจาสหรัฐอย่างเป็นทางการก่อนเสียโอกาสการค้า เร่งฟื้นการส่งออกและดึง FDI อุตสาหกรรมสมัยใหม่ เพื่อพาเศรษฐกิจไทยเดินต่ออย่างมั่นคง

พิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พาณิชย์ กล่าวว่า มหันตภัยน้ำท่วมที่ อ. หาดใหญ่ สงขลา และ หลายจังหวัดในภาคใต้ นอกจากจะทำความเสียหายต่อชีวิตที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 170 ราย และความเสียหายในทรัพย์สิน บ้านเรือน และ ธุรกิจ เป็นจำนวนมากแล้ว ยังจะมีผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจไทยที่ย่ำแย่อยู่แล้วให้ทรุดหนักลงอีก โดยจะส่งผลกระทบทำให้จีดีพีในไตรมาส 4 น่าจะแย่ลงกว่าที่คาดไว้และอาจจะขยายต่ำกว่า 1% ได้ หลังไตรมาส 3 ขยายได้เพียง 1.2% เท่านั้น และมีโอกาสสูงที่เศรษฐกิจไทยจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทางเทคนิค จากจีดีพีที่จะติดลบ 2 ไตรมาสติดต่อกัน

.

พิชัยกล่าวว่า นอกจากนี้ การส่งออกในเดือนตุลาคม 2568 ขยายตัวได้เพียง 5.7% ซึ่งเป็นการขยายตัวที่ต่ำสุดในปี 68 หลังจาก 9 เดือนแรก การส่งออกขยายได้ถึง 13.9% โดยการส่งออกในเดือนกันยายนภายหลังจากการเจรจาภาษีทรัมป์แล้ว การส่งออกยังขยายได้ถึง 19% สูงสุดในรอบ 42 เดือน แต่การส่งออกในเดือนตุลาคมกลับขยายตัวต่ำสุดในรอบ 13 เดือน แต่การนำเข้ากลับไม่ลด ทำให้การขาดดุลการค้าพุ่งสูงถึง 3.4 พันล้านเหรียญ ดังนั้นจึงอยากให้เร่งฟื้นการส่งออกให้อยู่ในระดับเดิม ตามที่ รมว. พาณิชย์ประกาศไว้เอง โดยการส่งออกทั้งปี 2568 นี้ น่าจะต้องขยายได้ 11-12% เป็นอย่างต่ำ จากการส่งออกสะสมใน 9 เดือนแรก และ การส่งออกในปีหน้าน่าจะต้องขยายตัวได้มากเช่นกัน ทั้งนี้หากเศรษฐกิจไทยจะฟื้นและประเทศไทยจะสามารถแข่งขันได้ การส่งออกของไทยจะต้องขยายตัวมากๆติดต่อกันหลายๆปี

.

พิชัยกล่าวว่า ทั้งนี้ อยากให้เร่งให้สำนักงานผู้แทนการค้าของสหรีฐ (USTR) มีการตอบรับยืนยันการกลับมาเจรจาการค้ากับประเทศไทยอีกครั้ง หลังจากที่ USTR ได้แจ้งหยุดการเจรจาผ่านกระทรวงต่างประเทศของไทย อย่าไปเหมาเอาเองว่าเขาเริ่มเจรจาแล้ว ถ้ายังไม่มีการยืนยันกลับมาอย่างเป็นทางการ เพราะหากสหร๊ฐขึ้นภาษี Tariff กับไทย เศรษฐกิจไทยจะยิ่งทรุดหนักเพราะไทยพึ่งส่งออกไปสหรัฐถึงประมาณปีละ 2 ล้านล้านบาท หรือ เกือบ 1 ใน 5 ของการส่งออกของไทยทั้งหมด การจะหาตลาดใหม่ทดแทนสหรัฐจะทำได้ยากหรือทำไม่ได้เลย

.

พิชัยกล่าวว่า นอกจากนี้ อยากขอให้ระวังการประชาสัมพันธ์ของ รมว. พาณิชย์ ในเรื่องการค้ากับสหรัฐ การสร้างภาพคล้าย รมว. พาณิชย์ไทยสามารถบีบสหรัฐ หรือ สหรัฐต้องง้อไทย อาจจะสร้างความไม่พอใจให้สหรัฐเพิ่มมากขึ้น และ อาจตัดสินใจขึ้นภาษี Tariff กับไทย ซึ่งเชื่อว่า รมว. พาณิชย์ คงไม่ได้ตั้งใจให้ออกมาแบบนั้น แต่ถ้าปล่อยไว้และไม่ชี้แจงแก้ไข น่าจะสร้างปัญหาในการเจรจาได้ จึงอยากให้เร่งแก้ไขในเรื่องนี้โดยด่วน

.

พิชัยกล่าวว่า การที่สหรัฐนำเข้าข้าวหอมมะลิจากไทยเป็นจำนวนมาก น่าจะประมาณครึ่งหนึ่งของการส่งออกข้าวหอมมะลิทั้งหมดของไทย เพราะข้าวหอมมะลิมีคุณภาพพิเศษเฉพาะ ทำให้ราคาข้าวหอมมะลิของไทยราคาไม่ตก ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิอยู่ที่ตันละ 15,000-16,500 บาท มาโดยตลอดหลายปีนี้ แต่ที่น่ากังวลคือราคาข้าวเปลือกเจ้าที่ยังคงมีราคาที่ต่ำมากอยู่ตันละ 6,100-6,800 บาทเท่านั้น ทำอย่างไรจะทำให้กลับมาอยู่ที่เดิมที่ตันละ 8,800-9,000 บาทได้ นี่ไม่นับข้าวเปลือกนาปีในปี 67 ราคาสูงถึง ตันละ 10,000 -12,000 บาทเลย อย่างไรก็ตามแม้จะขายข้าวส่งออกได้มากก็อาจจะไม่สามารถยกระดับราคาได้มากนัก ทั้งนี้เพราะ ตอนต้นปีและกลางปี 68 ตนได้จัดงาน Thai Rice Convention สามารถขายข้าวได้ 6.6 แสนตัน และ ตนได้ส่งทีมไปประเทศอัฟริกานำโดยผู้ช่วย รมต. สามารถส่งออกไปขายประเทศอัฟริกาได้อีก 4.4 แสนตัน แต่ราคาข้าวก็ยังไม่ขึ้นนัก

.

ทั้งนี้ในภาวะหลังวิกฤตน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ กระทวงพาณิชย์ต้องเข้าไปดูแลสินค้า อุปโภค บริโภค อย่าให้ขาดและอย่าให้แพง จะเป็นการซ้ำเติมความเดือนร้อนของประชาชนที่ลำบากอยู่แล้วได้ ตามนโยบายเดิมที่ให้ไว้คือ ห้ามขาด ห้ามแพง ซึ่งยังไม่ทันไรค่าตั๋วเครื่องบินระหว่าง กรุงเทพ-หาดใหญ่ ราคาก็พุ่งสูงแล้ว อีกทั้งค่าทำความสะอาด การเก็บกวาดบ้านเรือนและร้านค้าในบริเวณที่เป็นโคลน รวมถึงอุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆ อย่าได้ขึ้นราคาเกินจริง

.

อย่างไรก็ตาม ตนขอชื่นชม อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ ครม. เศรษฐกิจที่ได้ปลดล็อก อุตสาหกรรมสมัยใหม่ ที่มีมูลค่าสูงเช่น Data centers, Ai, พลังงานสะอาด, เซมิคอนดักเตอร์, อิเล็กโทรนิกส์, EV ฯลฯ เพื่อให้การลงทุนในธุรกิจเหล่านี้เร็วขึ้น ง่ายขึ้น โดยมีมาตรการ Thailand FastPass ซึ่งมีขึ้นเพื่อเร่งรัดให้เกิดการลงทุนโดยเร็ว เพราะประเทศไทยจะต้องอาศัยอุตสาหกรรมและธุรกิจสมัยใหม่เหล่านี้ในการพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้าไป และในปัจจุบันมีนักลงทุนต่างประเทศรอจะเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมสมัยใหม่นี้ในไทยเป็นจำนวนมากถึงหลายแสนล้านบาท และในอนาคตน่าจะถึงหลายล้านล้านบาท

.

ทั้งนี้หากประเทศไทยจะพัฒนาต่อได้อย่างมั่นคง การส่งออกจะต้องขยายเพิ่มขึ้นมากๆ และ การลงทุนจากต่างประเทศจะต้องเข้ามามากๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมสมัยใหม่ที่ไทยต้องแข่งขันกับประเทศอื่นในการดึงดูดเข้ามาลงทุนในไทย เพื่อสร้างรายได้ และทำให้คนไทยตามโลกได้ทัน

.

#พรรคเพื่อไทย #น้ำท่วมภาคใต้ #ภาษีทรัมป์ #เศรษฐกิจ