สรุปการแถลงข่าวสำคัญโดย “มาริษ เสงี่ยมพงษ์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หลังการหารือกับผู้แทนระดับสูงจาก UN กรณีสถานการณ์ไทยกัมพูชา ณสำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา 

. 

1. ยืนยันต่อนานาชาติ ย้ำกัมพูชาเป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตีก่อน

– กัมพูชาเริ่มโจมตีเช้าวันที่ 24 ก.ค. 68 โดยยิงใส่ เป้าหมายพลเรือน เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน ร้านค้า และปั๊มน้ำมัน มีพลเรือนไทยเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก หนึ่งในนั้นเป็นเด็กอายุ 8 ขวบ

– ไทยย้ำว่าเป็นการ ละเมิดอธิปไตยและกฎหมายระหว่างประเทศ อย่างร้ายแรง รวมถึงกฎบัตรสหประชาชาติ และหลักมนุษยธรรม

.

2. มาตรการตอบโต้ของไทย

– กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการทันที

– ประณามการโจมตีอย่างรุนแรงที่สุด

– ลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูต เรียกเอกอัครราชทูตไทยกลับ และให้ทูตกัมพูชากลับประเทศ

– เรียกร้องให้กัมพูชารับผิดชอบและหยุดการโจมตีทันที

– ยืนยันว่ากัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่ในฝั่งไทย ทำให้ทหารไทย บาดเจ็บสาหัสถึงขั้นพิการ มีหลักฐานพิสูจน์ได้ชัดเจน

.

3. ไทยแจงเวทีโลก – ที่สหประชาชาติ (UN)

– รมว.กต.เพิ่งกลับจากประชุม UN ที่นิวยอร์ก โดยถือโอกาส แจงข้อเท็จจริงแก่ประชาคมโลก

– กล่าวถ้อยแถลงต่อ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) และหารือกับผู้นำระดับสูง เช่น

(1) เลขาธิการ UN

(2) รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปากีสถาน (ประธาน UNSC)

(3) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปานามา (ประธาน UNSC วาระถัดไป)

(4) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น (ประธานอนุสัญญาออตตาวา)

(5) ผู้แทนของประธานาธิบดีรัสเซีย (สมาชิกถาวร UNSC)

.

โดยย้ำว่า 

– กัมพูชา เป็นฝ่ายเริ่มใช้กำลังก่อน

– ไทยต้องการแก้ปัญหาด้วย สันติวิธีและกลไกทวิภาคี

– กัมพูชาละเมิด อนุสัญญาออตตาวา ด้วยการวางทุ่นระเบิดใหม่ในเขตไทย

.

4. ที่ประชุม UNSC ยังไม่มีมติ – แต่เห็นพ้องหลักการ

– เมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค. เวลาไทย) UNSC ประชุมแบบปิดโดยมีทั้งไทยและกัมพูชาเข้าร่วม

– สมาชิก UNSC เห็นพ้อง 3 ประเด็นหลัก

(1) ให้ทั้งสองฝ่าย ยับยั้งชั่งใจ – หยุดยิง – ใช้สันติวิธี

(2) สนับสนุน บทบาทอาเซียน ในการไกล่เกลี่ย

(3) เห็นว่าสถานการณ์ยัง ไม่ถึงขั้นคุกคามสันติภาพโลก

“ไม่มีการออกมติหรือเอกสารอย่างเป็นทางการในครั้งนี้”

.

5. ประเด็นข่าวปลอม – ปราสาทพระวิหาร

– กัมพูชากล่าวหาว่าไทยโจมตีตัวปราสาทพระวิหาร

– ไทยยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง พื้นที่ปะทะอยู่ห่างจากปราสาทถึง 2 กิโลเมตร เป็นไปไม่ได้ที่กระสุนหรือสะเก็ดระเบิดจะถึงตัวปราสาท

– กระทรวงการต่างประเทศได้ส่งหนังสือ ชี้แจงอย่างเป็นทางการแล้ว

.

6. บทบาทประธานอาเซียน

– ไทยขอบคุณนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม แห่งมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนที่เสนอให้หยุดยิง

– ไทยเห็นด้วยในหลักการ แต่กัมพูชาต้องแสดงความจริงใจ และหยุดการโจมตีก่อน

– พร้อมหารือกับมาเลเซียอย่างสร้างสรรค์ต่อไป

.

7. การยื่นเรื่องถึงกาชาดสากล และคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC)

– รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สั่งการให้ยื่นหนังสือถึง

(1) คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC)

(2) คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่ง UN เพื่อ ประท้วงการโจมตีเป้าหมายพลเรือน ซึ่งไทยไม่อาจยอมรับได้

.

8. ข้อสรุปและย้ำจุดยืนของไทย

– ไทยยืนยัน ไม่ต้องการสงคราม และมุ่งแก้ปัญหาอย่างสันติ ตามหลักกฎหมายสากล

– ขอให้กัมพูชาหยุดการกระทำที่ละเมิด และกลับสู่โต๊ะเจรจาอย่างจริงใจ

– กระทรวงการต่างประเทศจะทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถเพื่อปกป้องอธิปไตยไทย ศักดิ์ศรีของประเทศ และความปลอดภัยของประชาชน

.

#พรรคเพื่อไทย #มาริษเสงี่ยมพงษ์ #UN #UNSC #ประณามกัมพูชา #ไทยกัมพูชา

🚨 Summary of Thailand’s Foreign Minister’s Press Conference at the UN Headquarters on the Thai-Cambodian Border Situation (26 July 2025)

.

1. Cambodia Initiated the Attack on 24 July

– Cambodia launched military attacks targeting civilian sites in Thailand (e.g., hospitals, schools, gas stations).

– One child (8 years old) was among the casualties.

– Thailand condemned this as a serious violation of sovereignty, international law, the UN Charter, and humanitarian principles.

.

2. Immediate Thai Response and Diplomatic Measures

– Issued strongest condemnation of Cambodia’s actions.

– Downgraded diplomatic ties: recalled Thai ambassador, asked Cambodian envoy to leave.

– Called for immediate cessation of attacks and demanded Cambodia take responsibility.

– Confirmed with evidence that Cambodia laid new landmines in Thai territory, injuring Thai soldiers.

.

3. Advocacy at the United Nations

– Thai FM met with high-level leaders including:

(1) UN Secretary-General

(2) Pakistan and Panama (current and incoming UNSC Presidents)

(3) Japan (Chair of Ottawa Convention Meeting)

(4) Russia (UNSC Permanent Member)

(5) Delivered a speech at the UNSC Open Debate, reaffirming that:

– Cambodia violated the Ottawa Convention

– Thailand seeks peaceful resolution via bilateral mechanisms

.

4. UNSC Closed-Door Meeting (25 July)

– No formal resolution was adopted.

All members urged:

– De-escalation and ceasefire

– ASEAN mediation role

– Acknowledged situation not yet a global peace threat

.

5. Clarification on Preah Vihear Temple Allegation

– Cambodia falsely accused Thailand of damaging the UNESCO World Heritage Site.

– Thailand clarified: Clash occurred 2 km from the temple, making such damage impossible.

– An official written clarification has been submitted.

.

6. ASEAN Chair’s Role Welcomed

– Thailand welcomed Malaysia PM Anwar Ibrahim’s ceasefire proposal.

– Agreed in principle but emphasized Cambodia must halt aggression first.

– Expressed readiness for constructive ASEAN-level dialogue.

.

7. Outreach to ICRC and UNHRC

– Thailand submitted formal letters to:

(1) International Committee of the Red Cross (ICRC)

(2) The United Nations Human Rights Council (UNHRC), protesting attacks on civilians.

.

8. Final Position and Reaffirmed Commitments

Thailand reaffirmed:

– Commitment to peaceful resolution under international law

– Desire for Cambodia to return to dialogue sincerely

– Determination to protect sovereignty, national dignity, and civilian safety